เรื่องมีอยู่ว่า เรา(จกท.เป็นผญ.นะ)กับแฟนรู้จักกันแต่สมัยเรียนมหาลัย หลังจากนั้นเรากับแฟนก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง (เราต้องบอกก่อนนะว่าแฟนเราเป็นต่างชาติ) พอหลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาคุยกันเมื่อช่วงพฤษภาที่ผ่านมาจากการที่แม่เราคะยั้นคะยอให้ลอง เราก็ลองนะแต่ช่วงแรกๆที่แม่เราบอกว่าให้ลอง เราบอกกับแม่เราว่าเลิกคุยเรื่องนี้ได้มั้ย แม่เราก็เลิกถามไปสักพักใหญ่ๆ จนหลังๆมาก็บอกกลับมาถามอีกว่า ลองทักไปคุยมั้ย สุดท้ายเราก็ลอง แต่การกลับไปคุยครั้งนี้คือการกลับไปคุยกันแบบผู้ใหญ่ที่พร้อมจะสร้างครอบครัวกัน พอคุยกันแฟนบอกว่า เราควรเจอกันอีกนะ แล้วเราก็ถามแฟนว่า ถ้ายู(แฟน)มาไทยเราพาไปเจอพ่อแม่เราได้มั้ย แฟนบอกเราว่า ได้สิ
หลังจากนั้นที่คุยกับแฟนเสร็จแล้ว เราก็ไปคุยกับแม่เราอีกว่า
ถ้าแฟนเรามาเจอพ่อกับแม่แล้ว แต่เรายังไม่ได้ทำงานแล้วเราจะเอาเงินที่ไหนซัพพอร์ตพ่อกับแม่ เพราะแม่บอกกับเราว่า ถ้าแฟนเรามาเจอพ่อกับแม่ แม่ไม่อยากให้แฟนเราออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย อยากให้ทางเรา(จกท.)ดูแล แล้วแม่เราก็ยังบอกอีกว่า อย่าไปขอเงินแฟนนะ อย่าให้แฟนคิดว่าที่เราไม่ทำงานเพราะจะเอาเงินแฟนมาใช้นะ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่เรารับผิดชอบตอนนี้คือ ผ่อนรถ 1 คัน ราคาอยู่ที่ 6000฿ ต่อเดือน เราไม่มีเงินเก็บเพราะก่อนหน้านี้เราผ่อนบ้านไปหมดแล้ว
เพื่อนๆคิดเห็นกันยังไงบ้าง แนะนำเราหน่อย
จำเป็นมั้ยที่ก่อนจะแต่งงานเราต้องคุยเรื่อง ค่าใช้จ่ายต่างๆกับแฟน
หลังจากนั้นที่คุยกับแฟนเสร็จแล้ว เราก็ไปคุยกับแม่เราอีกว่า
ถ้าแฟนเรามาเจอพ่อกับแม่แล้ว แต่เรายังไม่ได้ทำงานแล้วเราจะเอาเงินที่ไหนซัพพอร์ตพ่อกับแม่ เพราะแม่บอกกับเราว่า ถ้าแฟนเรามาเจอพ่อกับแม่ แม่ไม่อยากให้แฟนเราออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย อยากให้ทางเรา(จกท.)ดูแล แล้วแม่เราก็ยังบอกอีกว่า อย่าไปขอเงินแฟนนะ อย่าให้แฟนคิดว่าที่เราไม่ทำงานเพราะจะเอาเงินแฟนมาใช้นะ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่เรารับผิดชอบตอนนี้คือ ผ่อนรถ 1 คัน ราคาอยู่ที่ 6000฿ ต่อเดือน เราไม่มีเงินเก็บเพราะก่อนหน้านี้เราผ่อนบ้านไปหมดแล้ว
เพื่อนๆคิดเห็นกันยังไงบ้าง แนะนำเราหน่อย