จากกระทู้นี้ที่เราติดโควิดแล้วพยายามจะเข้าระบบการรักษาของรัฐ
https://ppantip.com/topic/41539485
เราขอเล่าต่อค่ะ ในวันถัดมา มีเจ้าหน้าที่โทรหาเรา และถามเราว่าควรจะเข้าระบบนะ แล้วทางนั้นจะทำเอกสารให้เราเอง เราก็ตอบตกลง ประมาณสองสามชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่ก็โทรให้ไปรับยา เราก็ให้น้องชายไปรับยาแทน ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้อะไรเลย เพียงแค่บอกชื่อคนไข้
ในเย็นวันนั้นเราก็ได้ยามาค่ะ ยาที่ได้ มียาต้านไวรัส พารา คลอเฟนิรามีน และเราเริ่มกินยาต้านไวรัส แทน ฟ้าทะลายโจร
อาการของเรา น่าจะจัดอยู่กลุ่มสีเขียวค่ะ ไม่มีไข้ มีอาการเจ็บคอ ระคายคอ คัดจมูก มีเสมหะแค่วันแรก เราก็ใช้ยาละลายเสมหะ ซึ่งเราก็มีไว้อยู่แล้ว
มาเข้าประเด็นกันค่ะ บ้านเรามีสองหลัง ซึ่งหลังของเรา แยกห้องนอน แม่ เรา และพี่น้องคนละห้อง แต่มีห้องน้ำแค่ห้องเดียวที่ต้องใช้ร่วมกัน ซึ่ง ปกติน้องชายจะใช้ห้องน้ำด้านนอกบ้านที่ติดกับสำนักงานเป็นหลัก ในบ้านก็จะมีคนที่ใช้ คือ เราและแม่
พอติดโควิด เรากังวลใจค่ะ คือ จะทำยังไงไม่ให้แม่ติดด้วย เพราะแม่เราอายุมาก แถมเบาหวานด้วย แต่ก็ยังโล่งใจที่ได้วัคซีนมาสามเข็มละ กำลังจะพาไปฉีดเข็มสี่ เราก็โดนซะก่อน
ตอนแรกจะไปหาที่พักอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้แม่ติดด้วย แต่มาคิดดูอีกที คือ เราก็ห่วงแม่ กลัวจะไม่มีใครคอยดู คอยเช็คอาการ คอยตรวจโควิดให้ เลยคิดว่าจะรักษาตัวอยู่บ้าน แบบไม่ให้เชื้อเล็ดลอดออกไปให้แม่ติดได้ ในใจคิดว่า ถ้าเราไม่ปล่อยเชื้อออกไป อีกคนก็ไม่มีทางติดได้ ความจริงเราก็อยากจะพิสูจน์ด้วยค่ะว่า มันจะจริงไหม เพราะคุยกับบุคคลากรทางการแพทย์บอกว่าน่าจะได้
ชีวิตประจำวันค่ะ กิน นอน ทำการบ้าน เล่นเกม ดูคลิป วนไปวนมาอยู่ในห้องของตัวเอง ข้าวมีคนเอามาแขวนไว้หน้าห้อง ออกจากห้องเท่าที่จำเป็น เวลาไปเข้าห้องน้ำหรือออกไปออกห้องที่เป็นพื้นที่ส่วนรวม เราจะใส่หน้ากากอนามัยค่ะ สองชั้น มีหน้ากากเทียบเท่า N95 ด้วยทุกครั้งหนึ่งชั้น ทุกครั้งต้องถือแอลกอฮอล์เสปรย์ เพื่อทำความสะอาดทุกที่ที่เราสัมผัส และคิดว่าแม่จะจับค่ะ ช่วงแรกที่พอเข้าห้องมา จะต้องย้ำคิดย้ำทำมากว่า ลืมพ่นตรงไหนไหม ทำความสะอาดห้องน้ำทุกครั้ง น้ำยาล้างห้องน้ำใช้เปลืองมาก
และวันนี้ผลออกมาก็ดีค่ะ เป็นวันที่สองที่ผลตรวจเป็นขีดเดียว ทั้งเราและแม่
เราเห็นข่าวมีผู้ชายคนนึงที่ต้องออกมานอนนอกบ้าน เพราะกลัวแม่จะติดโควิด เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ค่ะ ว่าเราอยู่ร่วมกันได้ เพียงแต่เราต้องรักษาความสะอาด และที่สำคัญที่สุดคือ การป้องกันเชื้อโรคแพร่จากคนไปยังอีกคน การใส่แมสในบ้าน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ทำไปเถอะค่ะ ที่แม่ของเรารอดได้ เพราะเราระวังตัวสุดๆ ถ้าเราไปจุดที่เสี่ยง จะไม่เข้าใกล้หรือจำเป็นก็จะใส่แมส กินข้าว ก็จะแยกโต๊ะค่ะ แต่เห็นหน้ากัน เพราะสงสารที่ต้องนั่งกินคนเดียว เราทำแบบนี้มาตลอด จนถึงวันที่เราติดโควิดมาจริงๆ เราก็ยังทำ ทำให้เราไม่แพร่เชื้อไปให้แม่ของเรา
เราว่าการคัดกรองสำคัญมากๆนะคะ การจะอยู่ร่วมกับโควิดโดยใช้ชีวิตอย่างปกติ ต้องคอยสังเกตอาการของตนเอง หมั่นตรวจ เราตรวจน้ำลายบ้าง แหย่จมูกบ้าง และ บางครั้งถ้าเราต้องเสี่ยงไปนอกบ้าน พึงระลึกไว้ว่า คนที่บ้านไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย การใส่แมส รักษาระยะห่างไม่เสียหายอะไรนะคะ เป็นการแสดงความรัก ความใส่ใจด้วยซำ้
ขอให้ทุกคนที่ยังไม่ติด รอดทุกซีซั่น สำหรับคนที่เสี่ยงและติดก็มีสติ และใช้ชีวิตอยู่กับมันอย่างรู้เท่าทันมันค่ะ
สู้ๆ เอาใจช่วยทุกคน ✌️✌️✌️
ติดโควิดแล้วแยกบ้านเพื่อรักษาตัว กักตัวไม่ได้ แต่คนในบ้านรอดค่ะ
เราขอเล่าต่อค่ะ ในวันถัดมา มีเจ้าหน้าที่โทรหาเรา และถามเราว่าควรจะเข้าระบบนะ แล้วทางนั้นจะทำเอกสารให้เราเอง เราก็ตอบตกลง ประมาณสองสามชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่ก็โทรให้ไปรับยา เราก็ให้น้องชายไปรับยาแทน ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้อะไรเลย เพียงแค่บอกชื่อคนไข้
ในเย็นวันนั้นเราก็ได้ยามาค่ะ ยาที่ได้ มียาต้านไวรัส พารา คลอเฟนิรามีน และเราเริ่มกินยาต้านไวรัส แทน ฟ้าทะลายโจร
อาการของเรา น่าจะจัดอยู่กลุ่มสีเขียวค่ะ ไม่มีไข้ มีอาการเจ็บคอ ระคายคอ คัดจมูก มีเสมหะแค่วันแรก เราก็ใช้ยาละลายเสมหะ ซึ่งเราก็มีไว้อยู่แล้ว
มาเข้าประเด็นกันค่ะ บ้านเรามีสองหลัง ซึ่งหลังของเรา แยกห้องนอน แม่ เรา และพี่น้องคนละห้อง แต่มีห้องน้ำแค่ห้องเดียวที่ต้องใช้ร่วมกัน ซึ่ง ปกติน้องชายจะใช้ห้องน้ำด้านนอกบ้านที่ติดกับสำนักงานเป็นหลัก ในบ้านก็จะมีคนที่ใช้ คือ เราและแม่
พอติดโควิด เรากังวลใจค่ะ คือ จะทำยังไงไม่ให้แม่ติดด้วย เพราะแม่เราอายุมาก แถมเบาหวานด้วย แต่ก็ยังโล่งใจที่ได้วัคซีนมาสามเข็มละ กำลังจะพาไปฉีดเข็มสี่ เราก็โดนซะก่อน
ตอนแรกจะไปหาที่พักอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้แม่ติดด้วย แต่มาคิดดูอีกที คือ เราก็ห่วงแม่ กลัวจะไม่มีใครคอยดู คอยเช็คอาการ คอยตรวจโควิดให้ เลยคิดว่าจะรักษาตัวอยู่บ้าน แบบไม่ให้เชื้อเล็ดลอดออกไปให้แม่ติดได้ ในใจคิดว่า ถ้าเราไม่ปล่อยเชื้อออกไป อีกคนก็ไม่มีทางติดได้ ความจริงเราก็อยากจะพิสูจน์ด้วยค่ะว่า มันจะจริงไหม เพราะคุยกับบุคคลากรทางการแพทย์บอกว่าน่าจะได้
ชีวิตประจำวันค่ะ กิน นอน ทำการบ้าน เล่นเกม ดูคลิป วนไปวนมาอยู่ในห้องของตัวเอง ข้าวมีคนเอามาแขวนไว้หน้าห้อง ออกจากห้องเท่าที่จำเป็น เวลาไปเข้าห้องน้ำหรือออกไปออกห้องที่เป็นพื้นที่ส่วนรวม เราจะใส่หน้ากากอนามัยค่ะ สองชั้น มีหน้ากากเทียบเท่า N95 ด้วยทุกครั้งหนึ่งชั้น ทุกครั้งต้องถือแอลกอฮอล์เสปรย์ เพื่อทำความสะอาดทุกที่ที่เราสัมผัส และคิดว่าแม่จะจับค่ะ ช่วงแรกที่พอเข้าห้องมา จะต้องย้ำคิดย้ำทำมากว่า ลืมพ่นตรงไหนไหม ทำความสะอาดห้องน้ำทุกครั้ง น้ำยาล้างห้องน้ำใช้เปลืองมาก
และวันนี้ผลออกมาก็ดีค่ะ เป็นวันที่สองที่ผลตรวจเป็นขีดเดียว ทั้งเราและแม่
เราเห็นข่าวมีผู้ชายคนนึงที่ต้องออกมานอนนอกบ้าน เพราะกลัวแม่จะติดโควิด เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ค่ะ ว่าเราอยู่ร่วมกันได้ เพียงแต่เราต้องรักษาความสะอาด และที่สำคัญที่สุดคือ การป้องกันเชื้อโรคแพร่จากคนไปยังอีกคน การใส่แมสในบ้าน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ทำไปเถอะค่ะ ที่แม่ของเรารอดได้ เพราะเราระวังตัวสุดๆ ถ้าเราไปจุดที่เสี่ยง จะไม่เข้าใกล้หรือจำเป็นก็จะใส่แมส กินข้าว ก็จะแยกโต๊ะค่ะ แต่เห็นหน้ากัน เพราะสงสารที่ต้องนั่งกินคนเดียว เราทำแบบนี้มาตลอด จนถึงวันที่เราติดโควิดมาจริงๆ เราก็ยังทำ ทำให้เราไม่แพร่เชื้อไปให้แม่ของเรา
เราว่าการคัดกรองสำคัญมากๆนะคะ การจะอยู่ร่วมกับโควิดโดยใช้ชีวิตอย่างปกติ ต้องคอยสังเกตอาการของตนเอง หมั่นตรวจ เราตรวจน้ำลายบ้าง แหย่จมูกบ้าง และ บางครั้งถ้าเราต้องเสี่ยงไปนอกบ้าน พึงระลึกไว้ว่า คนที่บ้านไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย การใส่แมส รักษาระยะห่างไม่เสียหายอะไรนะคะ เป็นการแสดงความรัก ความใส่ใจด้วยซำ้
ขอให้ทุกคนที่ยังไม่ติด รอดทุกซีซั่น สำหรับคนที่เสี่ยงและติดก็มีสติ และใช้ชีวิตอยู่กับมันอย่างรู้เท่าทันมันค่ะ
สู้ๆ เอาใจช่วยทุกคน ✌️✌️✌️