จับตา MACO - PLANB บันทึกขาดทุนจากการลงทุนใน Zipmex

กระทู้สนทนา
จับตา MACO - PLANB บันทึกขาดทุนจากการลงทุนใน Zipmex
นักวิเคราะห์แนะจับตา MACO และ PLANB บันทึกขาดทุนกรณีเข้าลงทุนใน Zipmex ซึ่งล่าสุดประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และมีแนวโน้มต้องขายธุรกิจเพื่อนำเงินมาชดเชยความเสียหายแก่นักลงทุน เผย MACO มีความเสี่ยงมากสุดจากการเข้าลงทุนใน Series A ราว 250 ล้านบาท ส่วนกรุงศรี ฟินโนเวต ที่เข้าลงทุนใน Series B ราว 1.3 พันล้านบาท อาจต้องบันทึกขาดทุนเช่นกัน
ค่ำวานนี้ (20 กรกฎาคม) Zipmex ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากประสบปัญหาในผลิตภัณฑ์ ZipUp ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าจะฝากสินทรัพย์ไปยัง Zipmex Global ที่สิงคโปร์ และ Zipmex Global ได้นำสินทรัพย์ไปลงทุนกับ Babel Finance และ Celsius ซึ่งเป็นอีกสองบริษัทด้านคริปโตที่ประสบปัญหาสภาพคล่องไปก่อนหน้านี้
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับ Zipmex หรือคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนข่าวร้ายดังกล่าว โดย BROOK ปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 0.54 บาท ลดลง 3.57% PLANB ปิดที่ 6.05 บาท ลดลง 1.63% และ MACO ปิดที่ 0.48 บาท ลดลง 5.88%
MACO เสี่ยงกระทบกำไรมากสุด
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า มองเป็นข่าวลบต่อหุ้น PLANB และ MACO มากที่สุด เนื่องจากทั้งสองบริษัท เข้าลงทุนใน Zipmex ราว 300 ล้านบาท เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 โดยสัดส่วนการลงทุนของ PLANB ราว 50 ล้านบาท จึงตีความว่า MACO ใส่เงินลงทุน 250 ล้านบาท เมื่อ Zipmex เข้าข่ายต้องขายธุรกิจ เพื่อนำเงินมาชดเชยแก่นักลงทุนนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ PLANB และ MACO ต้องบันทึกขาดทุน (Write-off) จากการลงทุนครั้งนี้ แต่ต้องติดตามต่อว่าจะบันทึกขาดทุนในไตรมาสใด
ในส่วนของผลกระทบต่อรายได้นั้น PLANB อาจจะได้รับผลกระทบราว 4% ของรายได้รวม เพราะ Zipmex มีการซื้อโฆษณากับทาง PLANB ราว 180-200 ล้านบาท ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้สอบถามไปยังบริษัทถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งบริษัทระบุว่าอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบ
BAY เสี่ยงกำไรหาย 1.3 พันล้านบาท
นอกจากนี้ หุ้นที่ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกันคือ หุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เนื่องจากบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด บริษัทร่วมลงทุน (CVC) ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้เข้าลงทุนใน Zipmex ในรอบการระดมทุน Series B มูลค่าราว 1.3 พันล้านบาท ซึ่งหากต้อง Write-off จะกระทบกำไรไม่เกิน 19% ของกำไรรวมทั้งปี
“ตอนนี้ Zipmex ก็เหมือนกับบริษัทที่กำลังล้มละลาย การฟ้องร้องคู่กรณีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย และการขายธุรกิจเพื่อนำเงินมาชดเชยแก่นักลงทุนผู้เสียหายก็เหมือนกับที่บริษัทยื่นล้มละลายทำกัน คือต้องชดเชยแก่เจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้เงินกู้ และเจ้าของ ซึ่งทั้ง PLANB, MACO และ BAY ล้วนมีสถานะเป็นเจ้าของ จึงได้รับการชดเชยลำดับหลังสุด จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ต้อง Write-off ”
ด้าน บล.เคทีบีเอสที มีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยจากประเด็นดังกล่าว โดย PLANB ลงทุนใน Zipmex ที่ 2 ล้านดอลลาร์ หรือ 67 ล้านบาท และ MACO ลงทุนที่ 5.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 197 ล้านบาท (อิงอัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่ 33.40 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งหากต้อง Write-off คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ PLANB ที่ 0.016 บาทต่อหุ้น และ MACO ที่ 0.024 บาทต่อหุ้น เบื้องต้น
สำหรับ PLANB คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 561 ล้านบาท (+777% YoY) และคงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ และคงราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 8.80 บาท อิง 2566 PER 41.8 เท่า อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์ MACO
หวั่นลาม ‘หุ้นเอี่ยวคริปโต’
ณัฐพลกล่าวเพิ่มว่า กรณี Zipmex อาจทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงด้วยการขายคริปโตเพื่อดึงเงินสดมาเก็บไว้ให้มากที่สุด ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แม้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอื่นๆ จะไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แต่ก็จะได้รับผลกระทบในด้านธุรกรรมซื้อขายที่จะลดลงในอนาคต ซึ่งกระทบต่อรายได้จากค่าธรรมเนียมให้บริการ
แต่สำหรับผลกระทบเชิงลบต่อ บจ. อื่นๆ ที่มีการลงทุนในคริปโตหรือสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ส่วนตัวประเมินว่ากรณีของ Zipmex น่าจะทำให้ บจ. ไตร่ตรองการลงทุนอย่างถี่ถ้วนขึ้น ขณะที่นักลงทุนเองก็จะคาดหวังด้านราคาหุ้นน้อยลง ซึ่งมองเป็นการสร้างสมดุลแก่ตลาดนี้มากกว่า
ขณะที่ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า กรณีของ Zipmex ที่ประกาศระงับการถอนเงิน ทั้งเงินบาทและคริปโตเป็นการชั่วคราวนั้น โดย Sentiment น่าจะมีผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซี โดยอาจทำให้ปริมาณธุรกิจที่เกิดขึ้นจริงต่ำกว่าประมาณการ
BROOK แจง ‘ไร้ผลกระทบ’ แต่ราคาหุ้นยังดิ่ง
ชาญ บูลกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า กรณีเหตุการณ์สำคัญล่าสุดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนเกิดความสับสนและความไม่มั่นใจนั้น บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 บริษัท และบริษัทย่อยของบริษัท ชื่อ Brooker International Company Limited (BICL) นั้นมีสินทรัพย์รับฝากที่บัญชี Trade Account ที่ศูนย์รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท Zipmex (Thailand) เป็นเงินสดจำนวน 1.84 ล้านบาท และ Bitcoin จำนวน 0.07989444 BTC จำนวนเงินรวมประมาณ 1.9 ล้านบาท โดยไม่มีการลงทุนใดๆ ใน ZipUp Account ซึ่งบริษัทได้ส่งคำสั่งถอนเงินลงทุนดังกล่าว และได้รับเงินเต็มจำนวนแล้ว จึงไม่มีผลกระทบต่อบริษัทแต่อย่างใด
อีกทั้ง BROOK ไม่มีการเข้าลงทุนใดๆ กับบริษัท Celsius Network, Voyager Digital และ Babel Finance ไม่มีการเข้าลงทุนใดๆ กับกองทุน Three Arrows Capital (3AC) และไม่เคยมีการลงทุนใดๆ ก่อนหน้าใน UST หรือ LUNA Token

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่