วันนี้จะแชร์ เทคนิค จากประสบการณ์ในตลาดให้ฟัง

ต้องออกตัวก่อนว่า ส่วนตัวใช้ระบบในการเทรด ซึ่งเป็นสาย TA เต็มรูปแบบ ในตลาดฟิวเจอร์เป็นหลัก ความรู้ในสาย VI พอจะมีบ้าง แต่ไม่ได้เล่นหุ้นเป็นหลัก

จาก ปสก. ที่พบเจอในตลาดที่จะแชร์ คือ

1. ตลาดหุ้น หรือหุ้น หรือสินค้าในตลาด ทุกตัว มีแค่ 2 รูปแบบ คือ แบบมีเทรน (ขึ้น หรือลง) และไซด์เวย์ (ไซด์ออกข้าง ไซด์เวย์อัป และไซด์เวย์ดาว) ซึ่งตลาดมีรูปแบบแค่นี้จริงๆ มีเทรน จบเทรนก็ไซด์ จบไซด์ก็กลับมามีเทรน 


รุปภาพผมขออนุญาตยืมจากสมาชิกใน pantip มาใช้นะครับ จำไม่ได้ว่าท่านใดเคยโพสไว้



2. การจะเล่นหุ้น อย่าไปมองดัชนีตลาด คุณเล่นหุ้นตัวไหน ให้ไปมองหุ้นตัวนั้นๆ เป็นหลัก บางตัวดัชนีตลาดลง แต่ตัวหุ้นเทรนมันเป็นขาขึ้น มันไม่ได้ลง มันก็อาจจะวิ่งขึ้น หรือลงน้อยกว่าตลาดได้ (ย่อเพื่อขึ้น) อย่าไปอิงดัชนีตลาดมากนัก ให้ดูที่ตัวหุ้นเป็นหลัก 

3. แต่ละปี จะมีกลุ่มอุตสาหกรรม เป็นกลุ่มนำตลาด จะเห็นว่า บางปี คนนิยมเล่นกลุ่มโรงไฟฟ้า บางปีก็เป็นกลุ่มโรงพยาบาล ล่าสุดที่เห็น (ไม่ค่อยได้ตามหุ้น) น่าจะเป็นกลุ่มเดินเรือที่เพิ่งจบไป หาให้ได้ก่อนว่าปีนี้กลุ่มไหนมา แล้วค่อยมาเลือกหุ้นในกลุ่มนั้นเล่น เราเรียกว่า เล่นหุ้นตามแฟชั่น เมื่อคนเขาเลิก ตลาดเป็นขาลง ก็อย่าไปรักหุ้น ขายออกมา รอดูว่าคราวหน้าเขาจะเล่นกลุ่มไหน 

4. อย่าใช้อารมณ์ในการเล่น วันนี้ดาวบวก วันนี้ดาวลบ แล้วต้องมานั่งซื้อๆ ขายๆ พวกนี้ปล่อยให้พวกเก็งกำไรเขากลัวกันไป อย่าให้ความโลภ ความกลัวเข้ามาครอบงำ ถ้าคุณจะถือเล่นรอบ ถือลงทุนระยะกลาง ระยะยาว ให้มองแนวโน้มของหุ้นเป็นหลัก อยู่ในโหมดขาขึ้นให้ซื้อแล้วถือ อยู่ในโหมดไซด์เวย์ให้รอดู ตลาดเปลี่ยนทิศเริ่มลง ก็ขายทิ้งออกมาดูก่อน เข้าไปซื้อใหม่ก็ไม่สายถ้าตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้น 

5. ในสาย TA บอกได้เลยว่า ไม่มี Indicator ตัวไหนสมบูรณ์แบบ เรียนรู้ก่อนว่า Indicator ตัวนั้นใช้ยังไง ใช้สำหรับเล่นไซด์เวย์ หรือใช้สำหรับเล่นเทรน ไม่มี Indicator ตัวไหน ทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด ไม่มี Indicator ตัวไหนแม่นยำแบบ 100% ตัวที่ได้กำไรตอนมีเทรน ก็จะเสียตอนไซด์เวย์ ตัวที่ได้กำไรตอนไซด์เวย์ ก็จะเสียตอนมีเทรน หรือแม้แต่ Indicator แยกเทรนกับไซด์เวย์ ประเภท adx ก็ถือว่ากว่าจะแยกเทรนออก ตลาดก็วิ่งไปไกลระดับนึงแล้ว ทำให้เสียกำไรที่ควรจะได้ไปในระดับนึง 

6. อย่าเล่น Daytrade หาค่ากับข้าว ถ้าคุณไม่ได้แม่นยำพอ หรือมีเวลาให้มากพอ โดยเฉพาะสายมีงานประจำทำเป็นหลัก ติดประชุม ต้องออกนอกสถานที่ เพราะยังมีคนที่มีความพร้อมในด้าน เวลา ด้านความสามารถมากกว่าคุณ อย่าหาค่ากับข้าว แล้วต้องมาเสียตู้กับข้าว

7. อย่าคิดว่า VI คัทลอสไม่เป็น อย่างล่าสุด วอแรน บัฟเฟต ที่ก่อนโควิดถือหุ้นสายการบินเยอะ ยังต้องยอมขายหุ้นสายการบินทิ้ง ยอมขาดทุน เพราะเขาไม่รู้ว่า เมื่อไรสายการบินจะบินได้ มันก็เหมือนพื้นฐานมันเปลี่ยน มองไม่เห็นอนาคต ขาดทุนก็ต้องยอมขายออกมา เมืองไทยคงจะมีหุ้น VI แบบที่ถือได้ตลอดชีวิตน้อยมากๆ (อาจจะมีแต่คิดว่าน้อย) สาย VI ส่วนใหญ่จึงมักจะขายทำกำไร เมื่อมองว่าราคามันเกินพื้นฐาน เพื่อเอาเงินไปลงทุนในหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจกว่าต่อ เพราะผมเห็นมีหุ้นน้อยตัวมาก ที่สาย VI เมืองไทยจะถือไปตลอดชีวิต 

8. สำหรับใครอยากจะสร้างระบบการลงทุน ก็ออกแบบวิธีการมาก่อนว่าจะเล่นแบบเทรน หรือไซด์เวย์ ก็อย่างที่กล่าวไว้ ว่ามันไม่มีวิธีไหน สามารถทำเงินได้ทุกสภาวะตลาด หา Indicator ที่เหมาะสมกับแนวทาง ไม่ต้องใส่เยอะ ใส่เยอะแล้วมั่วไปหมด เอาแค่บางตัว คุณต้องทำ backtest เพื่อดูผลลัพธ์ในระยะยาว แน่นอนว่าการทำ backtest ควรจะทำย้อนหลังไม่น้อยกว่า 5-10 ปี ยิ่งนานก็ผลลัพธ์ก็จะมีความถูกต้อง จะได้รู้ว่าควรนำมาใช้หรือไม่ วางเงินให้เหมาะสมกับการเล่น แล้วคุณเล่นตามระบบที่ออกแบบไปเถอะ ระยะยาวคุณกำไรแน่นอน อย่าไปหวังผลว่าจะต้องทำกำไรแบบทุกเดือน ทุกวัน ขอเพียงแค่เราชนะตลาดในระยะยาวก็พอ

9. รักที่จะลงทุน หรือหารายได้กับตลาด ควรหมั่นหาความรู้ อย่าไปฟังนักวิเคราะห์ให้เยอะ พยายามหายใจด้วยจมูกของตัวเอง เพราะถ้าคุณทำได้ คุณจะทำมันได้ตลอดชีวิต ความรู้มีเยอะแยะในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น google youtube ต่างกับช่วงที่ผมเข้าตลาด อินเตอร์เน็ตยังเป็น 56k ในร้านหนังสือมีหนังสือการลงทุนไม่กี่เล่ม เล่มแรกของคนไทยที่ผมเจอ น่าจะเป็น ตีแตก ของ ดร.นิเวศน์ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนกับไลฟ์โค๊ชหรอก ขอเพียงแค่คุณมุ่งมั่นที่จะศึกษา คุณจะเข้าใจได้แน่นอน ไลฟ์โค๊ชเก่งจริง เขาหาเงินในตลาด ไม่ได้มาหาเงินนอกตลาด ผมไม่เคยเห็นเซียนหุ้นพันล้าน มาเปิดคอร์สสอน และถึงแม้จะถูกเชิญให้ไปพูดกับรายการ หรือเวทีต่างๆ มักจะเป็นแค่มุมมอง แนวทาง ปรัชญา ไม่มีใครมาบอกเคล็ดลับที่แท้จริง 

10. หาแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเองให้เจอ ถ้าคุณใจร้อน คุณไม่สามารถเป็น VI ได้ ถ้าคุณใจเย็น ไม่ค่อยมีเวลามานั่งเฝ้าตลาด คุณไม่เหมาะกับ Daytrade แนวทางการเล่น ต้องเหมาะกับจริตของตัวเอง ต่อให้คุณไปเรียนถ้าแนวทางที่คุณไปเรียนไม่ตรงจริต เรียนไปได้ความรู้ แต่มันไม่สามารถทำให้คุณได้เงินจากตลาดหรอก ถ้าจริตไม่ตรงกับวิธีการ จริตเป็นฝ่ายชนะเสมอ การเปลี่ยนจริต เปลี่ยนยาก เหมือนกับ mindset กว่า mindset คุณจะถูกต้องไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ 

วันนี้ขอแชร์แค่ 10 ข้อเท่าที่จะนึกได้ก่อน เพราะจริงๆ ถ้าจะมาเล่า มันคงมีเยอะกว่านี้มาก หวังว่าคนอ่านจะได้อะไรดีๆ จากแนวคิดไปบ้าง หากข้อมูลที่แชร์มันผิดพลาด ก็เข้ามาแชร์กันได้ หรือมีอะไรเสริม ก็เข้ามาแสดง คห. กันได้ หวังว่า สังคมแห่งการแบ่งปันของห้องสินทร จะยังคงอยู่ตลอดไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่