**รูปถ่ายส่วนใหญ่มาจากมือถือ มีถ่ายจากกล้องใหญ่บ้าง อาจจะไม่สวยงามเท่าไหร่ แต่เราขอเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีๆในชีวิตนะคะ
_______

มันน่าตื่นเต้นมากนะกับการเดินทางด้วยตัวเองกับเพื่อนร่วมทางที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่มีจุดหมายของการเดินทางเดียวกัน...

เริ่มค่ะ...
การเดินทางครั้งนี้เราเดินทางกัน 4 คน โดยทั้ง 4 คนไม่ได้รู้จักกันทั้งหมด แต่มารวมตัวกันโดยการชักชวนของเพื่อนคนนึงในกรุ๊ป เรารวมตัวกันก่อนเดินทางไม่ถึง 1 เดือน ด้วยการ add line คุยกันเท่านั้น...!!

ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้น เพราะเราไม่สามารถคาดเดาอะไรล่วงหน้าได้เลย อย่างมากคือการเตรียมทุกอย่างก่อนการเดินทางให้พร้อมที่สุด ข้อมูลต้องแน่น เอกสารเป็นปึกก็ต้องแบกไป โชคดีที่ทุกวันนี้ข้อมูลข่าวสารค่อนข้างง่ายต่อการค้นหา แต่ก็อีกนั่นแหละ ข้อมูลจากหลายด้าน หลายมุม หลายกระแส ต่างคนต่างมุมมอง ต้องไปลองเองถึงจะรู้...

ไปค่ะ...



พวกเราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Gulf Air ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชม. ถึงบาห์เรน พวกเราใช้เวลาพักที่บาห์เรนประมาณ 13 ชม. ทางสายการบินมีที่พัก รถรับส่ง พร้อมอาหารเย็นและเช้าให้ด้วย
_______
บรรยากาศกลางคืนที่บาห์เรนค่ะ


ทางรร.นัดพวกเราตอน 7 โมงเช้า เพื่อขึ้นรถไปสนามบิน ประมาณ 20 นาทีก็ถึงสนามบิน รอขึ้นเครื่องประมาณ 2 ชม. นั่งเครื่องต่อ และแวะเติมน้ำมันที่บากู ใช้เวลาทั้งหมด 3 ชม. ถึง Tbilisi (การเดินทางที่แท้ทรูได้เริ่มขึ้นแล้ว)
_______
ออกจากสนามบินมาอันดับแรกคือแลกเงิน และซื้อซิม ต่อจากนั้นติดต่อบ.เช่ารถ เพื่อรับรถและเริ่มทริป ทริปนี้เราเลือกรถ Subaru แบบโฟร์วีล ขนาดรถกำลังพอดี นั่งได้ 4 คน พร้อมใส่กระเป๋าสัมภาระได้สบายๆ

หลังจากเข้าที่พัก เก็บสัมภาระ ทิ้งแมสทันที!! ได้เวลาออกมาเดินเที่ยวชมเมืองเก่าของ Tbilisi อากาศเย็นสบาย บ้านเมืองดูสะอาดตา เดินเล่น ถ่ายรูปกินบรรยากาศ





The Bridge of Peace (สะพานแห่งสันติภาพ)

ถึงเวลาอาหารเย็น บรรยากาศแถวนี้ค่อนข้างคึกคัก
หน้าตาอาหารเย็นก็ประมาณนี้...แป้ง ชีส มาแล้วก็ลองให้รู้เนอะ


อิ่มแล้วกลับที่พัก พรุ่งนี้เดินทางต่อ...
Kezbegi รอเราไปเยือน...

พวกเราออกเดินทางตั้งแต่ 9 โมงเช้า ใช้เวลาประมาณ 1.15 ชม. ก็เดินทางถึงสถานที่แรก...
 วิวระหว่างทาง เราจำได้ว่าถ่ายจากหน้าต่างรถ เพราะเห็นเมฆก้อนนั้นที่ลอยอยู่ ดูเท่ห์ดี ^^


Ananuri Complex (ป้อมอันนานูรี) ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16-17 ซ่อนเร้นความงดงามของโบสถ์ 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์จิน
_________
มุมนี้จำได้ว่าเปิดรูปหา Ref ดูกันว่าเค้าถ่ายกันมุมไหน พอรู้มุมปุ๊บก็ไม่รอช้า พวกเราวิ่งข้ามสะพานไปถ่ายกัน เลยได้มุมมหาชนแบบนี้ ^^


** ส่วนนี่เป็นรูปด้านนอกของป้อมค่ะ บางรูปต้องปีนถ่าย บางรูปต้องเงยถ่าย ต้องสู้แดดเบอร์ไหนถึงได้รูปแบบนี้เนอะ อยากได้มุมสวยต้องสู้แหละ...

** ส่วนรูปนี้เป็นภายในของป้อมค่ะ เห็นด้านนอกแดดแรงขนาดนี้ เข้าไปด้านในคือเย็นสบายมากค่ะ...

** แถมอีกรูปค่ะ จังหวะจะเดินออก มีบาทหลวงเดินออกมาทำพิธีพอดี เลยได้ภาพที่แลดูขลังๆ ส่วนอีกรูปเป็นภาพถ่ายจากด้านบนป้อม เราเลยได้มุมสูงแบบนี้มาค่ะ

______
เสร็จจากป้อมอันนานูรี เราเดินทางต่อไปเล่น ParaGliding พวกเราจองล่วงหน้าเลยได้ส่วนลดมาพอได้มื้อเย็นซักมื้อ...
เราใช้เวลาที่นี่เกือบ 3 ชม. เริ่มจากเล่น ParaGliding เสร็จแล้วก็มานั่งชิล ถ่ายรูปชมวิว ชมบรรยากาศจนลืมเวลากันเลยทีเดียว...


______
อิ่มกับวิวและบรรยากาศที่นี่แล้ว ไปต่อกันที่...
Russia - Georgia Friendship Memorial (อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย) เป็นอนุสาวรีย์ที่โครงสร้างทั้งหมดทำจากหินและคอนกรีตเป็นรูปทรงกลมขนาดใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk สนธิสัญญาที่แสดงถึงมิตรภาพระหว่างโซเวียตจอร์เจียและโซเวียตรัสเซีย


ที่นี่เกิดเหตุระทึก โดรนที่เราเอาไปบิน ปลิวหายค่ะ หล่นไปที่หน้าผา ทำให้เราได้มิตรภาพดีๆจากคนจอร์เจียที่กำลังขุดถนน และนักท่องเที่ยวชาวซาอุ 3 ท่าน มาช่วยกันหาและเก็บโดรนขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ((ลุ้นกันเป็นชม.)) กลัวก็กลัว เสียดายก็เสียดาย แต่คือทุกคนที่มาช่วยเต็มที่มากๆ ขอบคุณมากๆนะค๊าาาา รูปไม่ค่อยชัดเพราะซูมจากมุมไกลมากๆๆๆๆๆ


ไปต่อค่ะ...
______
Gergeti Trinity Church (โบสถ์เกอร์เกติ) โบสถ์เก่าแก่ของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำเชเครี (Chkheri) สูงกว่าะดับน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร ท่ามกลางวิวของเทือกเขาคอเคซัสเป็นฉากหลัง

กว่าจะมาถึงที่นี่ โบสถ์ก็เกือบปิดแล้ว เดินรอบๆและเยี่ยมชมภายในซักพัก ก็ออกมาชมวิวต่อด้านนอกเพื่อเก็บภาพตัวโบสถ์ทั้งหมดที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาคอเคซัส บอกเลยว่าดีงามสุดๆ มุมนี้ก็มุมหาชนอีกแล้วจ้า...

6 โมงแล้วฟ้ายังไม่มืดเลย แต่ท้องเริ่มร้องแล้ว รีบไปเช็คอิน และหามื้อเย็นทานกันจ้า...
______
ที่พักคืนนี้...
Little Wodden House ที่พักมี 2 หลัง 1 หลังนอนได้สูงสุด 4 คน ซึ่งก็พอดีกับพวกเราเลย คืนนี้ขอลาไปด้วยบรรยากาศที่พักนะคะ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมบรรยากาศ ชิลลลลลลลลลลล...
ที่พักน่ารักเน๊อออออ
 
พรุ่งนี้เทร็กกิ้ง 22 โล รีวิวบอกแบบนั้น รอดูว่าจะรอดหรือไม่?? 
เอาใจช่วยพวกเราด้วยน๊า...
______
 
ตื่นเช้าด้วยการต้อนรับจากฝนที่ตกตลอดทั้งคืน จนถึงตอนนี้ 8 กว่าๆ เราได้เห็นแสงแดดแล้ว ดีใจมากเว่ออออ...
 

วิวจากที่นอน และวิวจากหน้าบ้านค่ะ เราได้แบบนี้เลย...

  
______
ล้อหมุนออกจากที่พักประมาณ 9.00 น. เตรียมเสบียง ขนม น้ำ สำหรับเทร็กกิ้งวันนี้ แวะเติมพลัง จิบกาแฟ แล้วเดินทางไปจุดสตาร์ที่ Kvemo Okrokana

จุดหมายของเราวันนี้คือ Truso Vally ตามแผนคือเดินประมาณ 22 กม. (ไป-กลับ) จากจุดเริ่มต้นถึงปลายทางคือ ป้อมปราการ Zakagori Fortress ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงว่านี่เป็นเขตแดนของประเทศจอร์เจีย...
 พวกเราเริ่มเดินกันประมาณ 11 โมงกว่า เพราะมัวแต่เถียงกันว่าจะจอดรถตรงไหน เดินขึ้นเดินลง ลองขับรถขึ้นไปแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง ก็ต้องขับรถกลับมาจอดที่จุดเดิมเสียเวลาไปเป็นชั่วโมงได้มั้ง... แต่สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า จอดรถ และเดินตั้งแต่จุดเริ่มต้นจ๊ะ เท่าไหน เท่านั้น Gooooooooooo
แค่เริ่มก็ตื่นเต้นแล้ว....

Truso Vally
 
สองข้างทางเป็นภูเขาสีเขียวบ้าง ภูเขาหินบ้าง สลับภูเขาหิมะเป็นบางช่วง บางช่วงมีธารน้ำไหลซึ่งน้ำค่อนข้างแรง ต้นไม้ ดอกไม้เยอะมาก บางทีต้องจำใจเดินเหยียบเพราะเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
_____
เจอชาวบ้านเลี้ยงสัตว์ผ่านไป ผ่านมาตลอดทาง ทั้งฝูงวัว ฝูงม้า ฝูงแกะ มีให้เห็นตลอดทาง เราได้เห็นหมาต้อนแกะ ต้อนวัวแบบในหนัง ในสารคดีที่เคยดูเลย วันนี้ได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว

 
อากาศดีมากเว่อ บางช่วงแดดแรง แต่ไม่ได้รู้สึกถึงความร้อนของแสงแดดเลยจริงๆ (แต่ก็ทำเอาผิวไหม้เลยนะ) ลมโชยอ่อนๆ เย็นสบายมากๆ บวกกับวิวที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตลอดทาง ทำให้การเดินเทร็กกิ้งครั้งนี้ไม่น่าเบื่อเลย เราสามารถ “ว้าว” ได้ทุกจุดที่เดินผ่าน
เดินเลยหมู่บ้านไปจนถึงคาเฟ่ นั่งพักจิบเครื่องดื่มเย็นๆ กับเสบียงที่เอาติดมาด้วย มองไปเห็นป้อมปราการอยู่ไกลๆ พวกเราไม่ได้เดินต่อ เพราะเริ่มเย็นแล้ว กลัวพระอาทิตย์ตกแล้วจะมืด ลำบากต่อการเดินทาง อีกอย่างฝนก็ตั้งท่าจะตกแล้วด้วย พักพอหายเหนื่อยก็ถึงเวลาเดินกลับ เหนื่อยแค่ไหน เมื่อยแค่ไหนแต่ก็ยังต้องทิ้งทวนถ่ายรูปขากลับตลอดทาง มันอดไม่ไหวจริงๆ


ที่สุดแล้ววันนี้พวกเราเดินกันทั้งหมด 16 กม. (ไป-กลับ)
พวกเราขอนิยามการเดินเทร็กกิ้งครั้งนี้สั้นๆว่า “วิวไม่ซ้ำ จำทางกลับไม่ได้”
มื้อเย็นๆกันค่า หิวไส้ขาด ร้านอาหารที่นี้คือดีมาก มีผ้าห่มให้ด้วย ไม่ต้องกลัวหนาวเลย แต่ก็หนาวอยู่ดี

คืนนี้พวกเราพักที่เดิมในเมือง Kazbegi ที่พักน่ารักๆอย่างงี้ขอพักอีกซักคืนเนอะ...ชมวิว จิบเครื่องดื่มเย็นๆก่อนเข้านอน หลับฝันดีค่ะ พรุ่งนี้ย้ายเมือง...


**ไปต่อ EP 2 กันค่า