พื้นฐานหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (Part 4) - Modal verbs

What's not down, folks?

มาต่อกับตอนที่ 4 เลย หายไปนาน เดี๋ยวตอนต่อไปจะมารัว ๆ หน่อยนะ (ต้องครบ 10 ตอนในเดือนนี้!) ตอนก่อนหน้าเราดูเรื่อง verb to be ไป บทนี้มาดูอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือ "Modal verbs"

1. ทำความรู้จักกันก่อน modal verbs (หรือกริยาช่วย) ในภาษาอังกฤษหลัก ๆ ได้แก่ can, could, may, might, must, shall, should, will, would โดยแบ่งตามนี้ can, could ใช้พูดถึงความสามารถ / may, might ใช้พูดถึงความเป็นไปได้ / must ใช้พูดถึงความจำเป็น / shall, should ใช้พูดถึงความเหมาะสม / และ will, would ใช้พูดถึงเหตุการณ์ในอนาคต (หรืออนาคตของอดีต ที่ไม่ใช่ปัจจุบัน)

2. แต่ในความจริงมันก็ไม่ได้ตายตัวขนาดนั้นนะ เช่นเวลาที่เรา 'มั่นใจ' อะไรสักอย่าง เราอาจบอกว่า It must be true. (มันต้องเป็นเรื่องจริงแน่ ๆ) / It can't be false. (ไม่มีทางผิดแน่นอน)  / It should be right. (มันควรถูกสิ) / It will be alright. (เดี๋ยวก็ดีเอง) คือใช้ได้ด้วยกันหมดเลย อยู่ที่ว่าเราจะพูดออกมาในมุมไหน

3. แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเข้าใจความแตกต่างของมันหน่อย ลองดูตัวอย่างที่ใช้ modal verbs ตรงกับจุดประสงค์ ได้แก่ I can swim. (ใช้ can บอกความสามารถ "ฉันว่ายน้ำเป็น") / I might be late. (ใช้ might พูดถึงความเป็นไปได้ "ฉันอาจจะไปสาย") / You must go now. (ใช้ must แสดงความจำเป็น "คุณต้องไปเดี๋ยวนี้!") / We should leave. ("เราควรกลับดีกว่า" ใช้ should แสดงความเหมาะสม) / They will see. ("พวกเขาจะได้รู้" ใช้ will พูดถึงอนาคต)

4. ความละเอียดอ่อนของ modal verbs ที่เราไม่อาจมองข้ามคือ may, might ไม่ใช่แค่เปอร์เซนต์ของความเป็นไปได้ เพราะ may สามารถใช้ขออนุญาตได้ด้วย / can, could ไม่ใช่แค่เรื่องความสุภาพ แต่ could ใช้พูดถึงความสามารถในอดีตได้เช่นกัน / จริง ๆ must ก็มีคู่เหมือนกันคือ have to ซึ่งถ้าเป็นความจำเป็นในอดีตเราก็จะใช้ had to ไป / shall, should ต่างกันคือ shall มันสามารถใช้เป็นการเชิญชวนให้ใครสักคนทำอะไรสักอย่าง / และสุดท้าย will, would ก็คือ 'จะ' ในอนาคต และ 'จะ' ในอดีต หรือบางที would อาจใช้พูดถึงนิสัยในอดีตก็ได้

5. ประเด็นเรื่องความสุภาพนี่ก็น่าสนใจ มันไม่ใช่ว่าเราเป็น can เป็น could แล้วจะสุภาพขึ้นทันทีนะ (เช่น Can I ask you something? กับ Could I ask you something?) มันเป็นก็เหมือนการพูดครับ/ค่ะในภาษาไทยนี่แหละ ถ้าน้ำเสียงเราไม่ได้ดูอ่อนน้อม ต่อให้มี could หรือมี please ต่อท้ายมันก็หยาบคายได้เหมือนกัน แถมบางครั้งมันยังใช้เป็นการถากถางได้ด้วย เช่น Could you speak louder, please? (ใช้ประชดคนที่พูดจาเสียงดัง) จำไว้เลย คำที่ทำให้สุภาพได้ ก็สามารถใช้แบบหยาบ ๆ ได้เช่นกัน

6. Probability คือความเป็นไปได้ เช่น They may come by train. (พวกเขาอาจนั่งรถไฟมา) / We might cancel the show. (เราอาจยกเลิกการแสดง) และยังใช้ could ได้ด้วย เช่น They could come by train. / We could cancel the show. ความหมายก็ใกล้เคียงกัน และเรายังสามารถใช้ can กับเรื่องที่เรามั่นใจว่าเป็นไปได้ (ส่วนมากประธานจะเป็น it) เช่น It can be very hot in Thailand. (ประเทศบางทีก็โคตรร้อนเลยนะ)

7. Impossibilty คือความเป็นไปไม่ได้ เราสามารถใช้ได้ทั้ง can't และ cannot (ต้องเขียนติดกัน) เช่น That can't be real. (มันไม่มีจริงหรอก) / They cannot do this to us. (พวกเขาทำแบบนี้กับเราไม่ได้) และเรายังมี can't have หรือ couldn't have ที่ใช้พูดถึงความเป็นไม่ได้ในอดีต เช่น He can't have got the key. (เขาไม่น่าหากุญแจมาได้นะ) หรือ They couldn't have known this. (พวกเขาต้องไม่มีทางรู้เรื่องนี้สิ) *สังเกตความละเอียดอ่อนเวลาแปลเป็นภาษาไทย

8. Certainty คือความมั่นใจ ซึ่งมันมีความมั่นใจสองแบบคือ must กับ should เช่น She must know. (เธอต้องรู้แน่ ๆ) และ She should know. (เธอควรรู้) และเหมือนกันคือ must have กับ should have คือการแสดงความมั่นใจในอดีต เช่น She must have known. (เธอต้องรู้แน่ ๆ *ในตอนนั้น) หรือ He should have finished by now. (เขาควรเสร็จแล้วแหละตอนนี้)

9. Abiliity คือความสามารถ เราใช้ can, can't และอีกอันที่ใช้ได้คือ able to แต่อันนี้ไม่ถือเป็น modal verb นะ แต่ความหมายก็ใกล้เคียงกันเลย เช่น He can swim. และ He is able to swim. หรือ I can't play the piano. และ I'm unable to play the piano. แต่โดยทั่วไปเราไม่ใช้ able เพื่อแปลว่า สามารถ เฉย ๆ หรอกนะ เราจะใช้มันในความหมาย "มีแรง/ความมุมานะ/เงิน/เวลา/ความสามารถมากพอที่จะทำ" คือมันฟังดูยิ่งใหญ่กว่า can เยอะ! ดังนั้นเราเลยจะไม่เจอประโยค He is able to swim แบบที่ผมยกมาหรอก แต่อาจจะเจอ He is able to take swimming classes. (เขามีเงิน/เวลา/กำลังในการไปลงเรียนว่ายน้ำ)

10. สุดท้าย Would you...? จะใช้ในการขอร้อง เช่น Would you help me, please? (ช่วยฉันหน่อยได้ไหม) / Can I...? ใช้ในการเสนอ เช่น Can I help you? (ให้ผมช่วยไหม) หรือใช้ Shall I...? ก็จะฟังเป็นทางการขึ้นหน่อย เช่น Shall I be of some assistance? (ให้ผมช่วยอะไรไหม) / ส่วน Would you like...? จะเป็นการเชิญชวนนะ เช่น Would you like to join us? (คุณอยากร่วมด้วยไหม)

เนื้อหาแน่นหน่อยตอนนี้ (ใช้เวลาเขียน 2 - 3 ชม.เลย) ถ้าอ่านแล้วสงสัยตรงไหนถามได้นะคร้าบ จริง  ๆ มีอีกเรื่องสำคัญที่ไม่ได้พูดถึงคือ sentence structure ในการแต่งประโยคคำถามโดยใช้ modal verbs แต่คิดว่ามันไม่น่ายากหรอก (เช่น He can swim. เวลาตั้งคำถามก็จะสลับเป็น Can he swim?) ยังไงก็อย่าลืมศึกษาเพิ่มเติมนะครับ

"ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
Stay tuned
JGC.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่