คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 100
จขกท อ่านภาษาอังกฤษคล่องไหม ถ้าคล่อง ลองไปอ่านเรื่องแนว dating with divorced guys, relationship with divorced guys
เราอ่านมาหลายหัวข้อ สรุปเท่าที่อ่านมา คือ คนที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว และมีลูกด้วย คนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ จะไม่ปลื้มปีติ หรือแสดงความยินดีสุดขีด กับเหตุการณ์สำคัญในชีวิตคู่ ที่เกิดขึ้นในครั้งที่สอง เนื่องจากหัวใจได้เคยเปิดรับความสุขนั้น ไปกับการแต่งงานครั้งแรกแล้ว หลายคน จึงไม่กระตือรือร้นกับการทำอะไรเอิกเกริก (แต่ไม่ใช่ทุกคนนะ)
คนกลุ่มมี จะมีประสบการณ์ด้านดีและแย่ฝังอยู่ในความทรงจำ ดังนั้น อย่าแปลกใจ ถ้าเขาจะทำอะไรที่คุณไม่ค่อยเข้าใจอยู่บ่อยๆ เช่น รู้สึกช้า ไร้ความรู้สึกในบางเรื่อง แยกตัวออกมาจากเหตุการณ์หนึ่งๆ หลีกเลี่ยง เฉยชา ระมัดระวังตัวเกินเหตุ เป็นต้น
และอื่นๆ ลองไปอ่านดู
เราอ่านมาหลายหัวข้อ สรุปเท่าที่อ่านมา คือ คนที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว และมีลูกด้วย คนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ จะไม่ปลื้มปีติ หรือแสดงความยินดีสุดขีด กับเหตุการณ์สำคัญในชีวิตคู่ ที่เกิดขึ้นในครั้งที่สอง เนื่องจากหัวใจได้เคยเปิดรับความสุขนั้น ไปกับการแต่งงานครั้งแรกแล้ว หลายคน จึงไม่กระตือรือร้นกับการทำอะไรเอิกเกริก (แต่ไม่ใช่ทุกคนนะ)
คนกลุ่มมี จะมีประสบการณ์ด้านดีและแย่ฝังอยู่ในความทรงจำ ดังนั้น อย่าแปลกใจ ถ้าเขาจะทำอะไรที่คุณไม่ค่อยเข้าใจอยู่บ่อยๆ เช่น รู้สึกช้า ไร้ความรู้สึกในบางเรื่อง แยกตัวออกมาจากเหตุการณ์หนึ่งๆ หลีกเลี่ยง เฉยชา ระมัดระวังตัวเกินเหตุ เป็นต้น
และอื่นๆ ลองไปอ่านดู
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
ถ้าคุณผู้ชายได้แวะมาอ่านนะ
คุณเคยแต่งแล้ว ไม่อยากแต่งอีก ถูกของคุณ
แต่นี่เป็นครั้งแรกของผู้หญิง เป็นงานแต่งครั้งแรกของลูกสาวบ้านนี้ เป็นความภูมิใจของครอบครัวที่ได้ประกาศกับใครๆว่าลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา แต่งงานกับผู้ชายที่ดี ต่อไปจะมีลูกมีหลาน
ฝ่ายผู้หญิงไม่ได้ของานใหญ่โต แค่แขก 50 คนกับพิธีการยกขันหมากแบบเป็นทางการ แค่นี้ทำให้ไม่ได้เหรอคะ?
คุณควรให้เกียรติแฟนคุณ ให้เกียรติพ่อแม่ผู้หญิงค่ะ เป็นผู้ใหญ่แล้วมองให้รอบด้าน อย่ามองแต่สะดวกตัวเอง เอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย
คุณเคยแต่งแล้ว ไม่อยากแต่งอีก ถูกของคุณ
แต่นี่เป็นครั้งแรกของผู้หญิง เป็นงานแต่งครั้งแรกของลูกสาวบ้านนี้ เป็นความภูมิใจของครอบครัวที่ได้ประกาศกับใครๆว่าลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา แต่งงานกับผู้ชายที่ดี ต่อไปจะมีลูกมีหลาน
ฝ่ายผู้หญิงไม่ได้ของานใหญ่โต แค่แขก 50 คนกับพิธีการยกขันหมากแบบเป็นทางการ แค่นี้ทำให้ไม่ได้เหรอคะ?
คุณควรให้เกียรติแฟนคุณ ให้เกียรติพ่อแม่ผู้หญิงค่ะ เป็นผู้ใหญ่แล้วมองให้รอบด้าน อย่ามองแต่สะดวกตัวเอง เอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย
ความคิดเห็นที่ 12
เราเป็นคนนึงนะคะที่มีเคยมีความฝันเหมือนคุณทุกอย่าง แต่อดีตแฟนเราที่ไม่อยากแต่ง เพราะอ้างว่าไม่ศรัทธาพิธีการ ไม่อยากมีลูก อยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็พยามพิสูจน์ตัวเอง เก็บเงิน ทำตัวให้ดี ให้เค้าภูมิใจ ให้เค้ารักเรา เผื่อเค้าอาจเปลี่ยนใจอยากแต่งขึ้นมาบ้าง
สุดท้ายก็ได้แต่งสมใจ ช่วงเตรียมงานเคยฝันว่าคงเป็นช่วงที่มีความสุข ช่วยกันคิดธีมงาน เลือกชุด ถ่ายพรี... แต่เปล่าเลย คนมันลึกๆไม่ได้อยากแต่ง เรื่องพวกนี้คือไม่สนใจเลย อยากทำไรก็ทำไป อย่ามายุ่งกับเค้ามาก จ่ายเงินเองนะ ถามมากก็พาลทะเลาะ
แต่งไปอยู่ได้แค่ 2ปี เลิก (คบเป็นแฟน 5ปี) ด้วยทัศนคติ วิธีคิด การใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน แถมสุดท้ายว่าเราต่างๆนาๆ ว่าเป็นต้นเหตุให้เค้าต้องมาเสียค่าสินสอดแต่งงาน เราทำชีวิตเค้าพัง ทำชีวิตเค้าตกต่ำ เค้าไม่น่าแต่งงานกับเราเลย...
ที่เล่ามา อยากบอกว่าแต่งกับคนที่เค้าไม่อยากแต่ง พอฝืนทำไป ภาพมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็น
ไม่ได้หมายความว่าแฟนคุณจะเป็นเหมือนอดีตแฟนเรานะคะ ถ้าจะแต่งมันควรเต็มใจทั้งสองฝ่าย
วันนี้คุณเจอคนที่รักคุณจริง ดีทุกอย่าง ติดอยู่อย่างเดียวไม่อยากจัดงานตามความฝันคุณ คุณมีทางเลือกแค่ 2ทาง คือ ยอมรับสิ่งที่เค้าเป็น ยอมแค่ผูกข้อไม้ข้อมือ แล้วไปโฟกัสความสุขในชีวิตคู่กับเค้าแทน กับ ยอมจบ แล้วไปเสี่ยงหา ผช ที่มีความฝันเดียวกับคุณ
สุดท้ายก็ได้แต่งสมใจ ช่วงเตรียมงานเคยฝันว่าคงเป็นช่วงที่มีความสุข ช่วยกันคิดธีมงาน เลือกชุด ถ่ายพรี... แต่เปล่าเลย คนมันลึกๆไม่ได้อยากแต่ง เรื่องพวกนี้คือไม่สนใจเลย อยากทำไรก็ทำไป อย่ามายุ่งกับเค้ามาก จ่ายเงินเองนะ ถามมากก็พาลทะเลาะ
แต่งไปอยู่ได้แค่ 2ปี เลิก (คบเป็นแฟน 5ปี) ด้วยทัศนคติ วิธีคิด การใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน แถมสุดท้ายว่าเราต่างๆนาๆ ว่าเป็นต้นเหตุให้เค้าต้องมาเสียค่าสินสอดแต่งงาน เราทำชีวิตเค้าพัง ทำชีวิตเค้าตกต่ำ เค้าไม่น่าแต่งงานกับเราเลย...
ที่เล่ามา อยากบอกว่าแต่งกับคนที่เค้าไม่อยากแต่ง พอฝืนทำไป ภาพมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็น
ไม่ได้หมายความว่าแฟนคุณจะเป็นเหมือนอดีตแฟนเรานะคะ ถ้าจะแต่งมันควรเต็มใจทั้งสองฝ่าย
วันนี้คุณเจอคนที่รักคุณจริง ดีทุกอย่าง ติดอยู่อย่างเดียวไม่อยากจัดงานตามความฝันคุณ คุณมีทางเลือกแค่ 2ทาง คือ ยอมรับสิ่งที่เค้าเป็น ยอมแค่ผูกข้อไม้ข้อมือ แล้วไปโฟกัสความสุขในชีวิตคู่กับเค้าแทน กับ ยอมจบ แล้วไปเสี่ยงหา ผช ที่มีความฝันเดียวกับคุณ
ความคิดเห็นที่ 11
เรามองว่า จขกท ยังไม่อายที่มีแฟนอายุมาก มีลูกติด ยังภูมิใจที่จะยืนเคียงข้างใช้ชีวิตร่วมกัน แล้วแฟน จขกท มาอายอะไรที่จะแต่งงานกับ จขกท แทนที่จะโฟกัสความรู้สึกที่มีต่อกัน รักษาใจกัน ให้เกียรติพ่อแม่ และครอบครัว จขกท ที่อนุญาตให้ลูกสาวมาคบกับตน แม้อายุจะห่างกันขนาดนี้
ถ้าบอกว่าเซฟความรู้สึกลูก ยิ่งไม่ไหว มันคืออะไร ลูกเค้าไม่ยอมรับเราแบบนี้เลยหรอ แล้วมันจะเป็นครอบครัวยังไง เป็นเราถ้าเหตุผลนี้เราไม่ฝืนไปต่อแน่ๆ ค่ะ สงสารเด็ก สงสารตัวเอง ชีวิตทั้งชีวิตต้องมาทนหรอ
ส่วนตัวถ้าสามีไม่สามารถคบเราอย่างภาคภูมิใจได้ เราคงถอยนะ เราจะมีครอบครัวก็อยากให้รู้สึกเติมเต็มกันและกัน ไม่ใช่เห็นเราเป็นความอับอายแบบนี้ ชีวิตเราก็มีชีวิตเดียวเรารู้สึกชีวิตค่ามากกว่านั้นค่ะ ถ้าอายกับการคบหากัน จะคบหากันไปทำไม ถ้าจะอายแจกเพราะแก่แล้วมีแฟนเด็ก อายลูกที่จะแต่งงานใหม่ ก็ควรครองโสดไปค่ะ
ยิ่งอ่าน คุณ จขกท พยายามพิสูจน์กับทุกคน ว่าผู้ชายคนนี้ใช่แล้ว พยายามวางแผนที่จะใช้ชีวิตกับคนอายุมาก เตรียมเงินไว้รอกรณีเค้าจากไปก่อน เพื่อเลี้ยงลูก คุณเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตและยอมรับได้ แต่แฟนคุณทำไมดูไม่เข้าใจคุณบ้างว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยแต่งงาน มีพ่อแม่ที่ขอให้จัดงาน ก็คงอยากเห็นลูกสาวแต่งงาน คุณแค่อยากแต่งงานสักครั้ง เงินก็มี แขกก็แค่ 50 คน จะเข้าใจและยินดีทำให้คุณสักครั้งไม่ได้เลยหรอคะ
ถ้าบอกว่าเซฟความรู้สึกลูก ยิ่งไม่ไหว มันคืออะไร ลูกเค้าไม่ยอมรับเราแบบนี้เลยหรอ แล้วมันจะเป็นครอบครัวยังไง เป็นเราถ้าเหตุผลนี้เราไม่ฝืนไปต่อแน่ๆ ค่ะ สงสารเด็ก สงสารตัวเอง ชีวิตทั้งชีวิตต้องมาทนหรอ
ส่วนตัวถ้าสามีไม่สามารถคบเราอย่างภาคภูมิใจได้ เราคงถอยนะ เราจะมีครอบครัวก็อยากให้รู้สึกเติมเต็มกันและกัน ไม่ใช่เห็นเราเป็นความอับอายแบบนี้ ชีวิตเราก็มีชีวิตเดียวเรารู้สึกชีวิตค่ามากกว่านั้นค่ะ ถ้าอายกับการคบหากัน จะคบหากันไปทำไม ถ้าจะอายแจกเพราะแก่แล้วมีแฟนเด็ก อายลูกที่จะแต่งงานใหม่ ก็ควรครองโสดไปค่ะ
ยิ่งอ่าน คุณ จขกท พยายามพิสูจน์กับทุกคน ว่าผู้ชายคนนี้ใช่แล้ว พยายามวางแผนที่จะใช้ชีวิตกับคนอายุมาก เตรียมเงินไว้รอกรณีเค้าจากไปก่อน เพื่อเลี้ยงลูก คุณเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตและยอมรับได้ แต่แฟนคุณทำไมดูไม่เข้าใจคุณบ้างว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยแต่งงาน มีพ่อแม่ที่ขอให้จัดงาน ก็คงอยากเห็นลูกสาวแต่งงาน คุณแค่อยากแต่งงานสักครั้ง เงินก็มี แขกก็แค่ 50 คน จะเข้าใจและยินดีทำให้คุณสักครั้งไม่ได้เลยหรอคะ
ความคิดเห็นที่ 10
แต่งงานก็แค่วันเดียว อวดชาวบ้านก็แค่วันเดียว
ถ้าประโยคแรกๆที่คุณเกริ่นมา ว่าเค้าคือคนที่ใช่ และพร้อมจะอยู่ด้วยกันไปตลอด ก็อย่าไปอินกับเรื่องแต่งงานมากเลยค่ะ
คาดหวังไปจะเหนื่อยใจเปล่าๆ
เราเข้าใจว่าที่สามีคุณนะ อายุ52คือไม่ใช่น้อยๆ เจ้าสาวก็เด็กกว่ามาก จัดไปก็โดนนินทาซะเปล่าๆ นี่คือสิ่งที่ต้องจ่ายเมื่อคบกับคนที่อายุไม่เหมาะสมกัน
เป็นเราจะลองบอกว่า ขอจัดงานเลี้ยง ที่มีแค่คนสนิทเข้าร่วม ไม่เกิน20คนพอ แล้วก็เตรียมชุดเจ้าสาวอะไรเองไปเลย
ถ้าประโยคแรกๆที่คุณเกริ่นมา ว่าเค้าคือคนที่ใช่ และพร้อมจะอยู่ด้วยกันไปตลอด ก็อย่าไปอินกับเรื่องแต่งงานมากเลยค่ะ
คาดหวังไปจะเหนื่อยใจเปล่าๆ
เราเข้าใจว่าที่สามีคุณนะ อายุ52คือไม่ใช่น้อยๆ เจ้าสาวก็เด็กกว่ามาก จัดไปก็โดนนินทาซะเปล่าๆ นี่คือสิ่งที่ต้องจ่ายเมื่อคบกับคนที่อายุไม่เหมาะสมกัน
เป็นเราจะลองบอกว่า ขอจัดงานเลี้ยง ที่มีแค่คนสนิทเข้าร่วม ไม่เกิน20คนพอ แล้วก็เตรียมชุดเจ้าสาวอะไรเองไปเลย
แสดงความคิดเห็น
คบกับเเฟนมา 7 ปี ต้องการจะจัดงานเเต่งงาน เเต่เเฟนอยากเเค่ผูกข้อไม้ข้อมือแทน เราอายุ 29 ส่วนแฟนอายุ 52 พ่อหม้ายลูกติด
เพราะพ่อเเม่เป็นห่วงด้วยความที่เเฟนเป็นพ่อหม้ายลูกติด เคยเเต่งงานมีลูกเเล้ว 1 คน (กับภรรยาเก่าเลิกไปเป็น 10 ปี มีใบหย่าชัดเจน)
ปัจจุบันลูกชายเค้าอยู่กับเค้าค่ะ (ตัวเเฟนเรา) ตอนคบกันเเฟนอายุประมาณ 47 ขี้นไป เวลาผ่านมา 7 ปี รักลงตัว ยอมรับว่าเเฟนคือคนที่ใช่
นิสัยเข้ากันได้ทุกเรื่อง เข้าใจซี่งกันเเละกัน ตอนนั้นเราอายุยังน้อย 20 ต้นๆ มีเเต่เพื่อนรุ่นเดียวกัน ค้านว่ามาคบกับคนเเก่ทำไม
เเทนที่จะคบผู้ชายหนุ่มกว่านี้เเถมมีลูกติดเป็นพ่อหม้ายอีก
เเต่เราไม่สนใจค่ะ เพราะเเฟนคนนี้ดีมาก เป็นรักที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ที่เราเคยคบมา
*** เข้าเรื่องของปํญหาที่จะปรึกษานะคะ **
ตอนนี้เราทำงานมีเงินเก็บ มั่งคงเลี้ยงตัวเองได้เเล้วค่ะ พร้อมสร้างครอบครัวเต็มที่ เพราะอายุ 29 เเล้วปีหน้าก็จะ 30 เเล้ว อยากเเต่งงาน
เเบบจัดงานเเต่ง เชิญเเขกมา มีกินเลี้ยง ถ่ายรูปกับครอบครัว ตามพิธีการ (เงินทุนจัดงานเเต่งมีเก็บประมาณ 4 เเสนบาท)
เเฟนเราปีนี้อายุ 52 พอดี (หน้าตารูปร่างตัวเค้า ยังดูไม่ได้เเก่มากนะคะ นึกภาพประมาณเเซม ยุรนันท์ เพราะเค้าใส่ใจสุขภาพตัวเองดีตลอด)
ทีนี้เเฟนคัดค้าน บอกว่า "พี่เเก่มากแล้ว ถ้าให้ไปยืนถ่ายรูปหน้างานเเต่งเป็นเจ้าบ่าวอีก อายเเขกคนอื่นๆในงาน จัดเเค่งานผูกข้อไม้ข้อมือเเทนเถอะ"
เราพยายามยกเหตุผลบอกเเฟนว่า "นี่มันครั้งเเรกเเละครั้งเดียวในชีวิตผู้หญิงทุกคนนะ ที่จะได้ใส่ชุดเจ้าสาว สวมเเหวนเเต่งงาน
ได้เจอเพื่อนๆ ร่วมยินดีกับการเริ่มต้นในชีวิตคู่ของเรา ขอได้ไหมคะ เชิญเเค่คนในครอบครัว เเขกแค่ 50 คนเอง"
เราแอบน้อยใจค่ะถ้าไม่ได้จัดงานเเต่ง เพราะเคยบังเอิญไปเห็นรูปเเต่งงานของเเฟนเรา กับอดียภรรยาเก่า ในห้องเก็บของที่บ้านเเฟน
กับภรรยาเก่าเค้า คือ ได้ถ่ายรูปเเต่งงาน และจัดงานเเต่ง
ทั้งพรีเวดดิ้ง เเล้วจะให้เรา ไม่จัดงานเหรอ ทำไมเรามาทีหลัง ตอนเเฟนอายุมากแล้ว เราต้องยอมไมได้เเต่งชุดเจ้าสาว กินเลี้ยงสนุกสนาน
ได้เเค่ผูกข้อไม้ข้อมือเอง
อีกอย่างทางครอบครัวเราก็อยากให้จัดงานเเต่งงานค่ะ เพราะเราเป็นลูกคนโต ของบ้าน พ่อเเเม่อยากเห็นเราใส่ชุดเจ้าสาว
ทำยังไงดีคะ ขอทุกคนช่วยด้วยค่ะ
*** ขอชี้เเจ้งความคิดเห็นที่ตีความว่าเราพยายามดิ้นรน อย่างมาก***
ที่เราพิมพ์ในคอมเม้นท์เน้นๆ ว่าพยายามตั้งใจทำงานมีเงินเก็บเยอะๆ มีเหตุผลดังนี้
1.เราอยากโตเป็นผู้ใหญ่สักที ตลอดเวลาตั้งเเต่อายุ 23 -29 ปีนี้ ตั้งใจทำงานเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงานให้มั่นคงที่สุด เป็นความตั้งใจของตัวเองส่วนตัวอยู่เเล้วว่า ก่อนอายุ 30 อยากให้เงินทำงานเเทนเรา อยากเริ่มต้นเกษียณเเล้ว อยากมี Passive income จะได้ไม่เหนื่อยมาก
2.เเฟนอายุมากกว่าเราเป็น 10ปีขึ้นไป เราต้องทำให้การเงินตัวเองมีรายได้หลายทางอยู่เเล้วค่ะ เพราะเเฟนอายุมากเเก่ขึ้นทุกวัน
ถ้ามัวเเต่ทำงานงกๆอยู่ ใครจะคอยดูเเลสามี เวลาบั้นปลายชีวิตเเก่มากเเล้ว
3.เกิดเรามีลูก สามีเสียไปก่อน (เเน่อยู่เเล้วเค้าอายุมากกว่า ยังไงก็จากไปก่อน) การที่เราพร้อมรู้ตั้งใจจะเป็นเเม่ เป็นภรรยาที่ดี
เกิดวันไหนเรากลายเป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยว Single mom จะทำอย่างไร เราต้องเตรียมรับมือในทางนี้ด้วย
เราถูกคำสบประมาทเยอะว่าคบกับเเฟนคนนี้ไปไม่ตลอดรอดฝั่งหรอก จากคนบ้างคนที่ไม่รู้จักเรากับเเฟนดี
จากคนที่ไม่รู้จริง ไม่รู้ว่าเรากับเเฟนคบกันในความสัมพันธ์เเบบไหน ตีความไปผิดๆ
*** ขอชี้เเจ้งเพิ่มเติม สำหรับข้อสงสัยว่าเเฟนเรา (ว่าที่สามี) ได้ออกค่าใช้จ่ายร่วมด้วยไหม หรือ เราออกทั้งหมด ***
เงิน 4 เเสนบาทคือ เงินเก็บของเราเองค่ะสำหรับเผื่อจัดงานเเต่ง เก็บคนเดียวค่ะ (เก็บเงินมาตั้งเเต่ อายุ 25 ปีมาเรื่อยๆค่ะ)
พ่อเเม่ของเเฟน กับพ่อเเม่เรา คุยกันเเล้วค่ะ ได้ตกลงค่าสินสอดเเล้ว (ขอไม่เอ่ยว่าจำนวนเท่าไรนะคะ ให้เกียรติครอบครัวฝ่ายชาย)
ตอนนี้บ้าน (เรือนหอ) ของเรากับเเฟนที่จะเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เเฟนนำเงินตัวเอง ซื้อบ้านที่อเมริกา
สรุปดังนี้ : เเฟน (ฝ่ายชาย) ออกเงินค่าสินสอด + ซื้อบ้านที่อเมริกา
เรา (ฝ่ายหญิง) ถ้าอยากจัดงานเเต่งเต็มพิธีการ มีเเห่ขันหมาก จะออกเงินครึ่งหนึ่งค่ะ สัก 5 หมื่น เเล้วอีก 5 หมื่น เเฟนออกช่วย
ส่วนอีก 3 เเสนเก็บเข้าบัญชีธนาคารคู่กันค่ะ ไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นต่อไป