พ่อค้าวัวต่างปะทะผีกะยักษ์ (ตอนจบ)
ล. วิลิศมาหรา
คืนนั้นเอง พ่อค้าทั้งสองจึงทำทีไปเที่ยวที่บ้านของคำแก้ว หลังนั่งคุยกันเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จึงพากันลากลับ พอพ้นจากบ้านของเธอมา ทั้งคู่ก็ไปแอบซุ่มดูอยู่ข้าง ๆ บ้าน โดยเคี้ยวใบหนาดท่องคาถากำบังตัวไว้ เพื่อไม่ให้ภูตผีมันมองเห็น
ขณะคนทั้งสองกำลังจ้องสายตาฝ่าความมืดไปยังบ้านของหญิงสาว เสียงหมาในหมู่บ้านก็พากันโก่งคอหอนเสียงโหยหวน จังหวะนั้นเอง สายตาของทั้งคู่ก็มองเห็นลูกไฟส่องประกายสีเขียวเรือง ๆ ดวงใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ลอยออกจากหน้าต่างบ้านของคำแก้ว มุ่งหน้าไปทางท้ายหมู่บ้าน
“มันออกหากินแล้ว ย่องตามมันไป”
หนานอินถากระซิบบอกเพื่อนเสียงเครียด เขากระชับปืนสั้นใส่ลูกกระสุนลงอาคม เช่นเดียวกันกับหนานแสนเมือง ออกสะกดรอยตามลูกไฟลึกลับนั้นไป ทิ้งระยะห่างพอสมควร จนกระทั่งลูกไฟลอยพุ่งเข้าไปในกระท่อมหลังหนึ่ง ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงร้องโอดโอยของผู้ชายแก่ดังแว่วมา ตามด้วยเสียงเอะอะโครมคราม คล้ายมีการต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในกระท่อม คนทั้งสองไม่รอช้า กระโดดขึ้นไปบนกระท่อม ถีบประตูให้เปิดผางออก พลันก็เห็นหมาสีดำตัวใหญ่ ยืนคร่อมอยู่บนร่างของชายชราคนหนึ่ง มันก้มลงกัดกระชากตรงหน้าท้องของชายเคราะห์ร้ายอย่างโหดเหี้ยม แต่ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ดวงตาแดงฉานของมันก็หันขวับมามอง เมื่อมองไม่เห็นใครอยู่ที่หน้าประตู ปากเลอะเลือดสด ๆ และเศษเนื้อรุ่งริ่งก็แสยะเขี้ยวคำรามขู่ คนทั้งสองขนแขนลุกซู่ หนานอินถาไม่รอช้าเล็งปืนสั้นไปที่มัน ระเบิดกระสุนเข้าใส่ทันที
เปรี้ยง! แต่ทันควันนั้นเอง ร่างสีดำก็กระโจนออกไปทางหน้าต่างกระท่อม หายลับไปในความมืด หนานแสนเมืองถลันตามไปดูที่หน้าต่าง ลั่นไกตามหลังมันไปอีกหลายนัด แต่กระสุนน่าจะพลาดเป้า เพราะเจ้าหมาดำตัวนั้นหายเข้าไปในเงามืดอย่างไร้ร่องรอย
และทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น เสียงฝีเท้าคนหลายต่อหลายคนก็เร่งรุดมาที่กระท่อมของชายชราเคราะห์ร้ายที่ชื่อว่าตาทอง เป็นคนแก่อยู่ตัวคนเดียว ผู้ใหญ่ผานำหน้ามา แกรีบขึ้นไปดูบนกระท่อม พบเข้ากับภาพอันชวนสยดสยอง สภาพศพของตาทองไม่ต่างกันกับศพของคนอื่น คือถูกกัดหน้าท้องเป็นแผลเหวะหวะ ลากเครื่องในออกมากินกระจุยกระจาย
หนานทั้งสองเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ผู้ใหญ่ผาฟัง
“มันหนีไปได้ ลูกกระสุนลงอาคมยิงไม่โดนมัน” หนานแสนเมืองตบกระบอกปืนตนเองอย่างขัดใจ
“ถ้าอย่างนั้นเราต้องหาวิธีจัดการกับมันใหม่ ป่านนี้มันน่ารู้ตัวแล้วว่าเรามาแอบซุ่มดูมันอยู่”
“ตอนที่เข้ามายิงมัน เราใช้คาถากำบังกายจากสายตาของผี มันอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ ว่าเป็นข้าสองคนที่เข้ามายิงมัน”
หนานอินถาบอก
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้ชาวบ้านจัดการกับศพของตาทองก่อน แล้วเราสามคนไปหาหลวงตากัน ไปช่วยกันคิดหาวิธีจัดการกับไอ้ผีตนนี้ให้เด็ดขาดเสียที”
ผู้ใหญ่ผาบอกกับสองพ่อค้า หลังจากให้ชาวบ้านจัดการกับศพของตาทองเสร็จ คนทั้งสามจึงพากันไปหาหลวงตาอุ่นที่วัด
“เป็นอันว่าชัดแล้ว คำแก้วมันถูกผีกะตนนั้นเข้าสิงอย่างแน่นอน มันอาศัยร่างคนเพื่อจะให้อยู่ได้ในเวลากลางวัน บางครั้งผีกะมันก็จะลออกร่างที่มันสิงอยู่ กลายเป็นหมาดำออกล่าเหยื่อ มันเป็นอสุรกายที่กินคนเป็น ๆ ได้ โดยไม่ต้องแฝงร่างกิน แต่พูดออกไปมันจะกลายเป็นปรักปรำคำแก้ว ญาติพี่น้องของเธอจะต้องไม่พอใจ นอกจากหาทางจับผีกะมาให้ได้ ให้มันรับสารภาพออกมาเอง”
พวกเขาจะจัดการกับผีกะยักษ์ตนนี้ด้วยวิธีไหน ติดตามได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
https://youtu.be/qmXVIkn1Bsg
ส่วนผีหลอกคืนหาปลา เอามาอัดเสียงใหม่ค่ะ เรื่องเดิมคือผีหลอกคืนหาปลาที่แม่น้ำอิง
พ่อค้าวัวต่างปะทะผีกะยักษ์ ตอนจบ
คืนนั้นเอง พ่อค้าทั้งสองจึงทำทีไปเที่ยวที่บ้านของคำแก้ว หลังนั่งคุยกันเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จึงพากันลากลับ พอพ้นจากบ้านของเธอมา ทั้งคู่ก็ไปแอบซุ่มดูอยู่ข้าง ๆ บ้าน โดยเคี้ยวใบหนาดท่องคาถากำบังตัวไว้ เพื่อไม่ให้ภูตผีมันมองเห็น
ขณะคนทั้งสองกำลังจ้องสายตาฝ่าความมืดไปยังบ้านของหญิงสาว เสียงหมาในหมู่บ้านก็พากันโก่งคอหอนเสียงโหยหวน จังหวะนั้นเอง สายตาของทั้งคู่ก็มองเห็นลูกไฟส่องประกายสีเขียวเรือง ๆ ดวงใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ลอยออกจากหน้าต่างบ้านของคำแก้ว มุ่งหน้าไปทางท้ายหมู่บ้าน
“มันออกหากินแล้ว ย่องตามมันไป”
หนานอินถากระซิบบอกเพื่อนเสียงเครียด เขากระชับปืนสั้นใส่ลูกกระสุนลงอาคม เช่นเดียวกันกับหนานแสนเมือง ออกสะกดรอยตามลูกไฟลึกลับนั้นไป ทิ้งระยะห่างพอสมควร จนกระทั่งลูกไฟลอยพุ่งเข้าไปในกระท่อมหลังหนึ่ง ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงร้องโอดโอยของผู้ชายแก่ดังแว่วมา ตามด้วยเสียงเอะอะโครมคราม คล้ายมีการต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในกระท่อม คนทั้งสองไม่รอช้า กระโดดขึ้นไปบนกระท่อม ถีบประตูให้เปิดผางออก พลันก็เห็นหมาสีดำตัวใหญ่ ยืนคร่อมอยู่บนร่างของชายชราคนหนึ่ง มันก้มลงกัดกระชากตรงหน้าท้องของชายเคราะห์ร้ายอย่างโหดเหี้ยม แต่ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ดวงตาแดงฉานของมันก็หันขวับมามอง เมื่อมองไม่เห็นใครอยู่ที่หน้าประตู ปากเลอะเลือดสด ๆ และเศษเนื้อรุ่งริ่งก็แสยะเขี้ยวคำรามขู่ คนทั้งสองขนแขนลุกซู่ หนานอินถาไม่รอช้าเล็งปืนสั้นไปที่มัน ระเบิดกระสุนเข้าใส่ทันที
เปรี้ยง! แต่ทันควันนั้นเอง ร่างสีดำก็กระโจนออกไปทางหน้าต่างกระท่อม หายลับไปในความมืด หนานแสนเมืองถลันตามไปดูที่หน้าต่าง ลั่นไกตามหลังมันไปอีกหลายนัด แต่กระสุนน่าจะพลาดเป้า เพราะเจ้าหมาดำตัวนั้นหายเข้าไปในเงามืดอย่างไร้ร่องรอย
และทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น เสียงฝีเท้าคนหลายต่อหลายคนก็เร่งรุดมาที่กระท่อมของชายชราเคราะห์ร้ายที่ชื่อว่าตาทอง เป็นคนแก่อยู่ตัวคนเดียว ผู้ใหญ่ผานำหน้ามา แกรีบขึ้นไปดูบนกระท่อม พบเข้ากับภาพอันชวนสยดสยอง สภาพศพของตาทองไม่ต่างกันกับศพของคนอื่น คือถูกกัดหน้าท้องเป็นแผลเหวะหวะ ลากเครื่องในออกมากินกระจุยกระจาย
หนานทั้งสองเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ผู้ใหญ่ผาฟัง
“มันหนีไปได้ ลูกกระสุนลงอาคมยิงไม่โดนมัน” หนานแสนเมืองตบกระบอกปืนตนเองอย่างขัดใจ
“ถ้าอย่างนั้นเราต้องหาวิธีจัดการกับมันใหม่ ป่านนี้มันน่ารู้ตัวแล้วว่าเรามาแอบซุ่มดูมันอยู่”
“ตอนที่เข้ามายิงมัน เราใช้คาถากำบังกายจากสายตาของผี มันอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ ว่าเป็นข้าสองคนที่เข้ามายิงมัน”
หนานอินถาบอก
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้ชาวบ้านจัดการกับศพของตาทองก่อน แล้วเราสามคนไปหาหลวงตากัน ไปช่วยกันคิดหาวิธีจัดการกับไอ้ผีตนนี้ให้เด็ดขาดเสียที”
ผู้ใหญ่ผาบอกกับสองพ่อค้า หลังจากให้ชาวบ้านจัดการกับศพของตาทองเสร็จ คนทั้งสามจึงพากันไปหาหลวงตาอุ่นที่วัด
“เป็นอันว่าชัดแล้ว คำแก้วมันถูกผีกะตนนั้นเข้าสิงอย่างแน่นอน มันอาศัยร่างคนเพื่อจะให้อยู่ได้ในเวลากลางวัน บางครั้งผีกะมันก็จะลออกร่างที่มันสิงอยู่ กลายเป็นหมาดำออกล่าเหยื่อ มันเป็นอสุรกายที่กินคนเป็น ๆ ได้ โดยไม่ต้องแฝงร่างกิน แต่พูดออกไปมันจะกลายเป็นปรักปรำคำแก้ว ญาติพี่น้องของเธอจะต้องไม่พอใจ นอกจากหาทางจับผีกะมาให้ได้ ให้มันรับสารภาพออกมาเอง”
พวกเขาจะจัดการกับผีกะยักษ์ตนนี้ด้วยวิธีไหน ติดตามได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://youtu.be/qmXVIkn1Bsg
ส่วนผีหลอกคืนหาปลา เอามาอัดเสียงใหม่ค่ะ เรื่องเดิมคือผีหลอกคืนหาปลาที่แม่น้ำอิง