กล้องติดรถ เองนั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนต้องมี ในยุคสมัยนี้หลายๆคนก็น่าจะรู้กันว่าการขับขี่ในเมือง ต่างจังหวัดล้วนมีความเสี่ยงหรือแม้แต่อุบัติเหตุต่างๆครับ และ หลายๆเหตุการณ์เองก็ไม่คาดคิด ซึ่งถ้ามีกล้องหน้ารถ หลังรถคอยบันทึกอะไรไว้ก็ช่วยได้เยอะ ทั้งเป็นหลักฐาน หรือ แม้แต่การเอามาแชร์ประสบการณ์ป้องกันหรือเตือนภัยต่างๆก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งในตลาดตอนนี้มีหลากหลายตัวเยอะมาก แต่รุ่นนี้ที่เราเอามารีวิวถือว่าน่าสนใจเพราะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบ และ ใช้งานได้จริง รวมถึงส่วนตัวชอบกล้องติดรถที่ไม่เกะกะ ไม่มีหน้าจออะไรเยอะแยะ เน้นความเรียบง่ายมากๆ ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจ มาพร้อมกับกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมถึงฟีเจอร์ แอปต่างๆที่ครบและมี GPS ในตัวด้วยกับแบรนด์ DDPAI ในกล้องติดรถรุ่น MOLA N3 PRO GPS รุ่นล่าสุด ที่จัดเต็มมากกว่าเดิม และ ทำราคาได้ดี
DDPAI Mola N3 Pro รุ่นนี้จะมาพร้อมกับ SigmaStar8629Q แต่สำหรับกล้องหน้าเลนส์ก็ถือว่าสำคัญแน่นอนว่าเลนส์หลักตัวนี้ใช้งาน 6 ชิ้นเลนส์ พร้อมความละเอียด 5MP และ รองรับ 2,560 x 1,600 พิกเซล 2K นั้นเอง รวมถึงระยะมุมภาพกว้าง 140 องศา และ รูรับแสง f1.8 ถือว่าสเปกไม่ธรรมดา ส่วนกล้องหลังเองนั้นจะมาพร้อมกับ 125 องศา และ FHD แน่นอนว่าส่วนใหญ่กล้องหลังเองอาจจะไม่ได้เน้นมาก แต่เน้นบันทึกภาพรวมเท่านั้นครับ สำคัญที่ด้านหน้าเป็นหลัก ส่วนฟีเจอร์อื่นๆอันนี้น่าสนใจเพราะมาพร้อมกับ GPS ในตัวไม่ต้องติดอะไรเพิ่ม รวมถึง GYRO 3 แกน และ มีฟังก์ชันเตือนการชน ออกนอกเลนต่างๆ รวมถึง หน้าตา UI ที่โดดเด่นคือ Sense Reality Skin 2.0 ที่มาพร้อมกับหน้าตาคล้าย เรือนไมล์รถ บอกทั้ง ความเร็ว แรง G ความสูงระดับน้ำทะเล ทิศต่างๆ ต่างๆครบมาก และ ราคาจับต้องได้ง่ายเช่นกัน ในงบ 3,000 บาท
UNBOX
ตัวกล่องจะมาด้วยกันในแพ็กใหญ่ และแยกเป็นกล้องหน้า และกล้องหลังต่างหากชัดเจนครับ ซึ่งก็สะดวกในการหาและแยกชิ้นส่วนกัน จะได้ไม่สับสน ถือว่าออกแบบมาดีครับ ดีไซน์เรียบๆมีรูปกล้องชัดเจนส่วนกล้องหลังไม่มีรูปอะไรเท่าไรมาในสีดำทั้งหมด มีการแถม Micro-Sd Card พร้อมชุดติดตั้ง Fuse Box มาให้เป็นออฟชั่นเสริมนอกเหนือจากในกล่อง
- กล้องหน้า Mola N3 Pro
- ตัวฐานกล้องหน้า Mola N3 Pro
- สาย กล้องหน้า USB-C / USB-A
- ที่งัดสำหรับติดตั้งสาย
- Adaptor ในรถเสียบชาร์จ USB-A
- คู่มือการใช้งาน
- แผ่น สูญญากาศ ติดกระจก
- กาว 3M สำรองกล้องหน้า
- กล้องหลัง
- สายต่อกล้องหลัง
- คู่มือ
- กาว 3M สำรองกล้องหลัง
* Micro-Sd Card
* ชุดติดตั้งผ่าน Fuse Box
DESIGN
งานออกแบบนั้นเรียบง่ายเน้นความเล็กเป็นหลักด้วยการออกแบบที่ไม่เน้นจอ ทำให้เราได้ขนาดที่เล็กและสามารถซ่อนได้ง่ายสำหรับใครที่อยากได้กล้องติดรถไม่เกะกะบริเวณกระจกและไม่มีแสงรบกวนเวลาขับ ตัวนี้ออกแบบมาตอบโจทย์ได้ดีมากๆ ส่วนวัสดุงานประกอบเองนั้นถือว่าดูดีสมราคาแน่นและมีช่องระบายความร้อนหลากหลายจุดเลยครับ
กล้องหน้าเองนั้นงานประกอบแน่นสวยและมีการออกแบบส่วนหน้าเลนส์รอบๆเสริมด้วยสีดำเงาทำให้มีอะไรมากกว่าบอดี้เรียบๆ พร้อมกับไฟสถานะในด้านหน้า และไมค์รับเสียงเพิ่มเติม เมื่อเราเสียบเข้าไปในฐานก็จะสามารถเสียบได้ทั้งหน้าและหลังสลับฝั่งได้สบายครับ มีตัวล็อคแน่นหนาพอสมควร แต่น่าเสียดายว่ามันปรับมุมหันซ้ายขวาไม่ได้ ได้แค่ก้มหงายเท่านั้นเป็นจุดที่น่าเสียดายในตัวขาอันนี้ และพอร์ตเชื่อมต่อหลักๆคือ USB-C นั้นเอง กับรู 2.5มม.นั้นจะเป็นรูสำหรับต่อภาพจากกล้องหลังเข้ามาครับ ถือว่าทำออกมาได้ดูดีเลย
ในด้านข้างตัวกล้องเมื่อเสียบฐานก็ถือว่าไม่ได้ใหญ่มากนัก ด้านขวาจะเป็นตัวใส่ Micro-SD และด้านซ้ายจะเป็นรูระบายอากาศปกติไม่มีปุ่มอะไรเลยทั้งบอดี้กล้อง
แต่ในด้านล่างฐานนั้นเราจะเห็นว่าบอดี้พยายามเจาะรูระบายอากาศมาให้เยอะมากๆ เพราะตัวกล้องทำงาน 24 ชั่วโมงกันเลยและอาจจะมีความร้อนได้ง่าย และ มีรูไมค์ และ รูสำหรับ Reset กล้องให้มา และ ในด้านหลังเองก็เรียบๆไม่มีหน้าจอ และ ปุ่ม ถือว่าเรียบง่ายมากครับ ทำให้ทั้งบอดี้ของตัวกล้องไม่มีปุ่มที่สามารถกดได้เลยแม้แต่ปุ่มเดียว
และ กล้องหลังเองหน้าตาเรียบๆไม่ได้มีเขียนชื่อแบรนด์ อะไรพิเศษครับคล้ายๆกับกล้องหลังที่เราเห็นกันคุ้นตากันดีสามารถปรับหมุนได้ 360 องศา และ มีไฟสถานะให้ด้านข้างถือว่าเล็กและติดได้ง่ายครับ ตัวกล้องเองยึดด้วยกาว 3M เช่นเดิม ติดบนตัวรถ
มุมมองในการใช้งานจริงกล้องหน้าถือว่าอิสระตรงที่ปรับสลับฝั่งได้จะถ่ายในรถ หรือ ด้านหน้ารถครับ เพราะสายอยู่ที่ฐานหมดเลยถือว่าออกแบบได้ดี เมื่อติดตั้งขนาดเล็กและมองจากมุมคนขับแทบจะไม่เห็นตัวกล้องเลยแม้แต่น้อย และไม่มีไฟสถานะอะไรกวนสายตาเลยครับ ตัวบอดี้สีดำเมื่อมองผ่านๆก็เข้าไปกับตัวรถได้ดีไม่ได้มีปัญหาเลย
SPEC
- หน่วยประมวลผล SigmaStar8629Q
- ขนาดกล้องหน้ารถ: 99 x 33 x 25มม.,
- ขนาดกล้องหลังรถ: 54 x 39 x 29มม.
- WiFi 2.4G built-in, GPS built-in GPS
- การอัดวิดีโอกล้องหน้า: 2,560 x 1,600 พิกเซล ได้ที่ 30fps
- การอัดวิดีโอกล้องหลัง: 1,920 x 1,080 พิกเซล ได้ที่ 25fps
- เลนส์กล้องหน้าเลนส์ optical 5 และ เซนเซอร์อินฟราเรด ถ่ายมุมกว้าง 140 องศา (f/1.8 )
- เลนส์กล้องหลังเลนส์ optical 5 และเซนเซอร์อินฟราเรด ถ่ายมุมกว้าง 125 องศา (f/2.0)
- เซนเซอร์ gyro 3 แกน, emergency lock,
- ปรับแต่งควบคุมได้ผ่านแอป
- หน่วยความจำ MicroSD สูงสุด 128GB
- Sense Reality Skin 2.0
- Super Capacitor
- อัดวิดีโอแบบวนซ้ำ
APP
แน่นอนว่าตัว APP ที่โดดเด่นคือ Sense Reality Skin ในด้านบนเราจะเป็น หน้าตาจริงๆเมื่อเราเปิดดูบนมือถือและสามารถดูได้ทั้ง ความเร็ว ระยะทาง ความสูง ระยะเวลาการขับ แรง G และ ทิศทางได้ทั้งหมด หน้าตาดูสวยคล้ายๆกับการเล่นเกมถือว่าออกแบบได้หวือหวาและสวย และ สามารถ ใช้งานดู บันทึก หรือ แม้แต่การโหลดต่างๆได้ง่ายมาก ตัวแอปสามารถปรับเป็น Km/h ได้สบาย และถือว่าเชื่อมต่อผ่าน WIFI ได้ง่ายและสะดวกมากๆ
ตัวแอปสามารถตั้งค่าได้ทั้งหมดว่าจะบันทึกแบบไหน ความละเอียดต่างๆ หรือแม้แต่ ความดังของลำโพง รวมถึงเปิดปิดไมค์ และ มีตั้งค่าด้วยในหลายๆส่วน เช่นความดัง การแจ้งเตือนการชน โหมดจอดรถ หรือ ไมค์ปิด/เปิด และ ตั้งค่าอื่นๆเพิ่มเติมว่าจะเป็นการบันทึกภาพนานแค่ไหน โหมดจอดรถกี่นาที และ ความยาววิดีโอในโหมดจอดรถครับ
และหน้าตาในการใช้งานเมื่อดูแบบ realtime เราสามารถดูได้ละเอียดเช่นกันทั้ง ความเร็วต่างๆแต่จะแสดงผลในส่วนล่างหน้าจอแทน ถ้าไม่ได้ดูแบบเต็มจอ สลับกล้องหน้าหลังได้ และ มีเส้นวัดกึ่งกลางมาให้ และดูแผนที่ผ่าน Maps ได้สบายมากว่าเราขับไปไหนมาไหนบ้าง และ เส้นทางภาพรวมเป็นยังไงบอกเลยว่าละเอียดเอาเรื่องเลยครับ
DAY SCENE
ในเวลากลางวันเองนั้นถือว่าภาพที่ได้คม และ ชัดเจนมากป้ายทะเบียนหลายๆระยะในการใช้งานในเมือง และ นอกเมืองถือว่าคมสวยและชัดเจน ป้ายทะเบียนเรามีการเบลอมาให้อีกทีนะครับตัวเลขเลยแปลกๆ และกล้องหลังถ้ากลางวันถือว่ายังคงคุณภาพภาพรวมทำได้ดีเช่นกันถือว่า ระยะภาพสามารถเก็บตัวรถได้ทั้งหมด และ คมในหลายๆระยะ
NIGHT SCENE
ส่วนกลางคืนนั้นต้องบอกว่าภาพได้คมและไม่ฟุ้งซึ่งอาจจะไม่ได้เน้นความสว่างมาก แต่จะได้ความคมมากกว่าทำให้ป้ายทะเบียนอะไรค่อนข้างชัดและไม่ฟุ้ง แต่ถ้าที่ไม่มีแสงไฟช่วยอาจจะมืดไปหน่อยครับ ซึ่งอาจจะน่าเสียดายว่าไม่ได้เน้นความสว่างหรือ Nightmode มากนักแต่ถ้าขับในเมืองหรือมีแสงสว่างพอเราสามารถเห็นป้ายทะเบียนในหลายๆระยะได้เหมือนกัน อันนี้ถือว่าคมสวยครับ แต่กล้องหลังกลางคืนอาจจะไม่ได้โหดมากนักแต่ะระยะใกล้เห็นทะเบียนชัด
[SR] รีวิวกล้องติดรถ DDPAI MOLA N3 PRO GPS ในตัว หน้า-หลัง ภาพคม 2K ดีไซน์ไม่มีจอ !
กล้องติดรถ เองนั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนต้องมี ในยุคสมัยนี้หลายๆคนก็น่าจะรู้กันว่าการขับขี่ในเมือง ต่างจังหวัดล้วนมีความเสี่ยงหรือแม้แต่อุบัติเหตุต่างๆครับ และ หลายๆเหตุการณ์เองก็ไม่คาดคิด ซึ่งถ้ามีกล้องหน้ารถ หลังรถคอยบันทึกอะไรไว้ก็ช่วยได้เยอะ ทั้งเป็นหลักฐาน หรือ แม้แต่การเอามาแชร์ประสบการณ์ป้องกันหรือเตือนภัยต่างๆก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งในตลาดตอนนี้มีหลากหลายตัวเยอะมาก แต่รุ่นนี้ที่เราเอามารีวิวถือว่าน่าสนใจเพราะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบ และ ใช้งานได้จริง รวมถึงส่วนตัวชอบกล้องติดรถที่ไม่เกะกะ ไม่มีหน้าจออะไรเยอะแยะ เน้นความเรียบง่ายมากๆ ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจ มาพร้อมกับกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมถึงฟีเจอร์ แอปต่างๆที่ครบและมี GPS ในตัวด้วยกับแบรนด์ DDPAI ในกล้องติดรถรุ่น MOLA N3 PRO GPS รุ่นล่าสุด ที่จัดเต็มมากกว่าเดิม และ ทำราคาได้ดี
DDPAI Mola N3 Pro รุ่นนี้จะมาพร้อมกับ SigmaStar8629Q แต่สำหรับกล้องหน้าเลนส์ก็ถือว่าสำคัญแน่นอนว่าเลนส์หลักตัวนี้ใช้งาน 6 ชิ้นเลนส์ พร้อมความละเอียด 5MP และ รองรับ 2,560 x 1,600 พิกเซล 2K นั้นเอง รวมถึงระยะมุมภาพกว้าง 140 องศา และ รูรับแสง f1.8 ถือว่าสเปกไม่ธรรมดา ส่วนกล้องหลังเองนั้นจะมาพร้อมกับ 125 องศา และ FHD แน่นอนว่าส่วนใหญ่กล้องหลังเองอาจจะไม่ได้เน้นมาก แต่เน้นบันทึกภาพรวมเท่านั้นครับ สำคัญที่ด้านหน้าเป็นหลัก ส่วนฟีเจอร์อื่นๆอันนี้น่าสนใจเพราะมาพร้อมกับ GPS ในตัวไม่ต้องติดอะไรเพิ่ม รวมถึง GYRO 3 แกน และ มีฟังก์ชันเตือนการชน ออกนอกเลนต่างๆ รวมถึง หน้าตา UI ที่โดดเด่นคือ Sense Reality Skin 2.0 ที่มาพร้อมกับหน้าตาคล้าย เรือนไมล์รถ บอกทั้ง ความเร็ว แรง G ความสูงระดับน้ำทะเล ทิศต่างๆ ต่างๆครบมาก และ ราคาจับต้องได้ง่ายเช่นกัน ในงบ 3,000 บาท
UNBOX
ตัวกล่องจะมาด้วยกันในแพ็กใหญ่ และแยกเป็นกล้องหน้า และกล้องหลังต่างหากชัดเจนครับ ซึ่งก็สะดวกในการหาและแยกชิ้นส่วนกัน จะได้ไม่สับสน ถือว่าออกแบบมาดีครับ ดีไซน์เรียบๆมีรูปกล้องชัดเจนส่วนกล้องหลังไม่มีรูปอะไรเท่าไรมาในสีดำทั้งหมด มีการแถม Micro-Sd Card พร้อมชุดติดตั้ง Fuse Box มาให้เป็นออฟชั่นเสริมนอกเหนือจากในกล่อง
- กล้องหน้า Mola N3 Pro
- ตัวฐานกล้องหน้า Mola N3 Pro
- สาย กล้องหน้า USB-C / USB-A
- ที่งัดสำหรับติดตั้งสาย
- Adaptor ในรถเสียบชาร์จ USB-A
- คู่มือการใช้งาน
- แผ่น สูญญากาศ ติดกระจก
- กาว 3M สำรองกล้องหน้า
- กล้องหลัง
- สายต่อกล้องหลัง
- คู่มือ
- กาว 3M สำรองกล้องหลัง
* Micro-Sd Card
* ชุดติดตั้งผ่าน Fuse Box
DESIGN
งานออกแบบนั้นเรียบง่ายเน้นความเล็กเป็นหลักด้วยการออกแบบที่ไม่เน้นจอ ทำให้เราได้ขนาดที่เล็กและสามารถซ่อนได้ง่ายสำหรับใครที่อยากได้กล้องติดรถไม่เกะกะบริเวณกระจกและไม่มีแสงรบกวนเวลาขับ ตัวนี้ออกแบบมาตอบโจทย์ได้ดีมากๆ ส่วนวัสดุงานประกอบเองนั้นถือว่าดูดีสมราคาแน่นและมีช่องระบายความร้อนหลากหลายจุดเลยครับ
กล้องหน้าเองนั้นงานประกอบแน่นสวยและมีการออกแบบส่วนหน้าเลนส์รอบๆเสริมด้วยสีดำเงาทำให้มีอะไรมากกว่าบอดี้เรียบๆ พร้อมกับไฟสถานะในด้านหน้า และไมค์รับเสียงเพิ่มเติม เมื่อเราเสียบเข้าไปในฐานก็จะสามารถเสียบได้ทั้งหน้าและหลังสลับฝั่งได้สบายครับ มีตัวล็อคแน่นหนาพอสมควร แต่น่าเสียดายว่ามันปรับมุมหันซ้ายขวาไม่ได้ ได้แค่ก้มหงายเท่านั้นเป็นจุดที่น่าเสียดายในตัวขาอันนี้ และพอร์ตเชื่อมต่อหลักๆคือ USB-C นั้นเอง กับรู 2.5มม.นั้นจะเป็นรูสำหรับต่อภาพจากกล้องหลังเข้ามาครับ ถือว่าทำออกมาได้ดูดีเลย
ในด้านข้างตัวกล้องเมื่อเสียบฐานก็ถือว่าไม่ได้ใหญ่มากนัก ด้านขวาจะเป็นตัวใส่ Micro-SD และด้านซ้ายจะเป็นรูระบายอากาศปกติไม่มีปุ่มอะไรเลยทั้งบอดี้กล้อง
แต่ในด้านล่างฐานนั้นเราจะเห็นว่าบอดี้พยายามเจาะรูระบายอากาศมาให้เยอะมากๆ เพราะตัวกล้องทำงาน 24 ชั่วโมงกันเลยและอาจจะมีความร้อนได้ง่าย และ มีรูไมค์ และ รูสำหรับ Reset กล้องให้มา และ ในด้านหลังเองก็เรียบๆไม่มีหน้าจอ และ ปุ่ม ถือว่าเรียบง่ายมากครับ ทำให้ทั้งบอดี้ของตัวกล้องไม่มีปุ่มที่สามารถกดได้เลยแม้แต่ปุ่มเดียว
และ กล้องหลังเองหน้าตาเรียบๆไม่ได้มีเขียนชื่อแบรนด์ อะไรพิเศษครับคล้ายๆกับกล้องหลังที่เราเห็นกันคุ้นตากันดีสามารถปรับหมุนได้ 360 องศา และ มีไฟสถานะให้ด้านข้างถือว่าเล็กและติดได้ง่ายครับ ตัวกล้องเองยึดด้วยกาว 3M เช่นเดิม ติดบนตัวรถ
มุมมองในการใช้งานจริงกล้องหน้าถือว่าอิสระตรงที่ปรับสลับฝั่งได้จะถ่ายในรถ หรือ ด้านหน้ารถครับ เพราะสายอยู่ที่ฐานหมดเลยถือว่าออกแบบได้ดี เมื่อติดตั้งขนาดเล็กและมองจากมุมคนขับแทบจะไม่เห็นตัวกล้องเลยแม้แต่น้อย และไม่มีไฟสถานะอะไรกวนสายตาเลยครับ ตัวบอดี้สีดำเมื่อมองผ่านๆก็เข้าไปกับตัวรถได้ดีไม่ได้มีปัญหาเลย
SPEC
- หน่วยประมวลผล SigmaStar8629Q
- ขนาดกล้องหน้ารถ: 99 x 33 x 25มม.,
- ขนาดกล้องหลังรถ: 54 x 39 x 29มม.
- WiFi 2.4G built-in, GPS built-in GPS
- การอัดวิดีโอกล้องหน้า: 2,560 x 1,600 พิกเซล ได้ที่ 30fps
- การอัดวิดีโอกล้องหลัง: 1,920 x 1,080 พิกเซล ได้ที่ 25fps
- เลนส์กล้องหน้าเลนส์ optical 5 และ เซนเซอร์อินฟราเรด ถ่ายมุมกว้าง 140 องศา (f/1.8 )
- เลนส์กล้องหลังเลนส์ optical 5 และเซนเซอร์อินฟราเรด ถ่ายมุมกว้าง 125 องศา (f/2.0)
- เซนเซอร์ gyro 3 แกน, emergency lock,
- ปรับแต่งควบคุมได้ผ่านแอป
- หน่วยความจำ MicroSD สูงสุด 128GB
- Sense Reality Skin 2.0
- Super Capacitor
- อัดวิดีโอแบบวนซ้ำ
APP
แน่นอนว่าตัว APP ที่โดดเด่นคือ Sense Reality Skin ในด้านบนเราจะเป็น หน้าตาจริงๆเมื่อเราเปิดดูบนมือถือและสามารถดูได้ทั้ง ความเร็ว ระยะทาง ความสูง ระยะเวลาการขับ แรง G และ ทิศทางได้ทั้งหมด หน้าตาดูสวยคล้ายๆกับการเล่นเกมถือว่าออกแบบได้หวือหวาและสวย และ สามารถ ใช้งานดู บันทึก หรือ แม้แต่การโหลดต่างๆได้ง่ายมาก ตัวแอปสามารถปรับเป็น Km/h ได้สบาย และถือว่าเชื่อมต่อผ่าน WIFI ได้ง่ายและสะดวกมากๆ
ตัวแอปสามารถตั้งค่าได้ทั้งหมดว่าจะบันทึกแบบไหน ความละเอียดต่างๆ หรือแม้แต่ ความดังของลำโพง รวมถึงเปิดปิดไมค์ และ มีตั้งค่าด้วยในหลายๆส่วน เช่นความดัง การแจ้งเตือนการชน โหมดจอดรถ หรือ ไมค์ปิด/เปิด และ ตั้งค่าอื่นๆเพิ่มเติมว่าจะเป็นการบันทึกภาพนานแค่ไหน โหมดจอดรถกี่นาที และ ความยาววิดีโอในโหมดจอดรถครับ
และหน้าตาในการใช้งานเมื่อดูแบบ realtime เราสามารถดูได้ละเอียดเช่นกันทั้ง ความเร็วต่างๆแต่จะแสดงผลในส่วนล่างหน้าจอแทน ถ้าไม่ได้ดูแบบเต็มจอ สลับกล้องหน้าหลังได้ และ มีเส้นวัดกึ่งกลางมาให้ และดูแผนที่ผ่าน Maps ได้สบายมากว่าเราขับไปไหนมาไหนบ้าง และ เส้นทางภาพรวมเป็นยังไงบอกเลยว่าละเอียดเอาเรื่องเลยครับ
DAY SCENE
ในเวลากลางวันเองนั้นถือว่าภาพที่ได้คม และ ชัดเจนมากป้ายทะเบียนหลายๆระยะในการใช้งานในเมือง และ นอกเมืองถือว่าคมสวยและชัดเจน ป้ายทะเบียนเรามีการเบลอมาให้อีกทีนะครับตัวเลขเลยแปลกๆ และกล้องหลังถ้ากลางวันถือว่ายังคงคุณภาพภาพรวมทำได้ดีเช่นกันถือว่า ระยะภาพสามารถเก็บตัวรถได้ทั้งหมด และ คมในหลายๆระยะ
NIGHT SCENE
ส่วนกลางคืนนั้นต้องบอกว่าภาพได้คมและไม่ฟุ้งซึ่งอาจจะไม่ได้เน้นความสว่างมาก แต่จะได้ความคมมากกว่าทำให้ป้ายทะเบียนอะไรค่อนข้างชัดและไม่ฟุ้ง แต่ถ้าที่ไม่มีแสงไฟช่วยอาจจะมืดไปหน่อยครับ ซึ่งอาจจะน่าเสียดายว่าไม่ได้เน้นความสว่างหรือ Nightmode มากนักแต่ถ้าขับในเมืองหรือมีแสงสว่างพอเราสามารถเห็นป้ายทะเบียนในหลายๆระยะได้เหมือนกัน อันนี้ถือว่าคมสวยครับ แต่กล้องหลังกลางคืนอาจจะไม่ได้โหดมากนักแต่ะระยะใกล้เห็นทะเบียนชัด
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้