เวลามีคนบอกว่า ปล่อยให้มันพล่ามไปทุกวันๆ เราไม่มีปฎิกิริยาอะไรเดียวมันก็เบื่อไปเอง

มันใช้ได้ทุกสถานการณ์จริงๆเหรอครับ

แล้วถ้าไอคนที่มันพล่ามด่าทุกวันโดยไม่เบื่อ     คนที่วางตัวเฉย  จะเฉยได้ตลอดรอดฝั่งจริงหรือเปล่า
ในใจต้องรู้สึกบ้างเหละพอโดนไปนานๆ   เหมือนคำที่คนบอกว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน

เลยสอบถามว่าคนที่บอกว่าปล่อยให้มันพล่ามไปไม่สนไม่แคร์     คิดว่าถ้าโดนไปเรื่อยๆยังไงก็ต้องรู้สึกบ้างใช่ไหมครับ
เหมือนสำนวนที่คนชอบพูดว่า   น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน  (ถ้าไอ้คนพล่ามมันไม่เบื่อและพล่ามได้ทุกวัน)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
___ ปล่อยให้มันพล่ามไปทุกวันๆ เราไม่มีปฎิกิริยาอะไรเดี๋ยวมันก็เบื่อไปเอง จริงหรือ ? ___
____ คนที่วางตัวเฉย  จะเฉยได้ตลอดรอดฝั่งจริงหรือเปล่า คิดว่าถ้าโดนไปเรื่อยๆยังไงก็ต้องรู้สึกบ้างใช่ไหมครับ ? ____

ตอบว่า …มีความเป็นไปได้ หลายทางค่ะ  (ขอยกตัวอย่างให้เห็นคร่าวๆ สองทางนะคะ)

1. ศัตรู กลับมาเป็นมิตร เพราะเขาสำนึกตนได้  ว่าเรื่องที่เขาด่าไม่จริง ที่ด่าเพราะเข้าใจผิด แค่ฟังตามๆกันมา
หรือ แค่อิจฉา / หมั่นไส้ชั่วครู่
เขาจะมาขอโทษ แล้วจะทำตัวดี ชดเชยความผิด ที่เคยว่าเราให้เสียหาย
เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่ขาดสติชั่วครั้งคราว มิได้ปากพล่อยจนเป็นนิสัย
เลวแล้วกลับตัวทัน  และรังเกียจตัวเองทัน โดยที่จะไม่ยอมให้ตนเป็นคนแบบนั้นอีก  
หากเจอคนแบบนี้ ควรให้อภัย … ไม่รื้อฟื้นความผิดของเขา สามารถคบหากัน ดีต่อกันไปเรื่อยๆได้

2. ยังคงเป็นศัตรูสม่ำเสมอ จนกระทั่ง พัฒนาตนไปสู่เจ้ากรรมนายเวรข้ามภพข้ามชาติ
เพราะเขายึดถือในความคิดตน ทนไม่ได้ที่จะยอมรับความจริง ว่าเขาเป็นฝ่ายผิด
หากยอมรับ เท่ากับว่า “เขาแพ้”  

ความรู้สึกแข่งดีอยู่ในใจลึกๆ จะขับเคลื่อนให้เขา มองแต่เรื่องร้ายๆของเราไม่จบสิ้น

แม้หากไม่มีเรื่องร้ายๆให้มอง เขาก็จะ เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา เพื่อสนับสนุนความเชื่อในใจเขา
จะได้ใช้จินตนาการในหัวตัวเอง เป็นหลักฐานสนับสนุนความคิดตัวเอง ว่าที่เขาอิจฉาริษยาและเกลียดชังนั้น สมเหตุสมผล

หากเจอคนแบบนี้ ควรแผ่เมตตาให้ เพื่อรักษาใจตัวเองไว้ ไม่ให้ไปโกรธตอบ แล้ววางเฉยไปเสีย
ต่อให้เราทำดีด้วย ความดีจะไม่สามารถแทรกแซงเข้าไปในใจที่หยาบช้าของเขาได้ เขาจะไม่เปลี่ยนความคิดตน เพราะความดีใคร
เพราะในใจเขา ไม่มีเชื้อความดีงาม พอที่จะเชื่อมโยงคุณความดีทั้งหลายเข้าไปสู่ใจตนเองได้

ที่ไม่ควรไปตอบโต้ เพราะหากใจเรามีโทสะเพราะเขา / เท่ากับว่า “เราแพ้”
เท่ากับว่าเชื้อชั่วจากปากเขา มีพลังมากพอ ที่จะทำลายความสงบสุข ในใจเราได้  __มันคุ้มหรือ__ ???

หากวางเฉย แบบไม่มีหลักการ จะทนไม่ได้นานค่ะ / วันหนึ่ง จะอยากเอาคืน และจะเอาคืน ทบเท่าทวี ให้สมกับที่อดทนมานานด้วย
เช่น ในข่าว เด็กถูกบูลลี่บ่อยๆเข้า เมื่อฟิวส์ขาด ก็ถือปืนมากราดยิง ล้างแค้นให้ใจตน ที่โดนคนปากหมาทำร้ายไม่หยุดหย่อน
แบบนี้ไม่เกิดผลดีกับใครเลย นอกจากความสะใจเพียงชั่วครู่  ___ ไม่คุ้มเลย___!!!

ต้องวางเฉยแบบให้ใจ มีหลักยึดเหนี่ยว _ จะได้ไม่เผลอ ตกเป็นทาสของโทสะในใจตน

คุณต้องหยุดคิดเรื่องคำพูดเขาไปเลย  ฟังผ่านหู ว่านั่นแค่เสียง ผ่านมา และ ผ่านไป
มาโฟกัสเฉพาะใจเราอย่างเดียว

วัดกันชัดๆ ว่า แต่ละวัน ที่เขาพล่ามเรื่องร้าย เราสามารถรับมือ ความรู้สึกทางใจที่เกิดขึ้นเป็นความดีงามได้ไหม

หากยังเมตตาได้ ให้อภัยได้ ถือว่าได้คะแนนเต็ม
หากวันไหนโกรธตอบ อยากด่าคืนกลับไปบ้าง ถือว่า ได้คะแนนไม่ดี
หากด่าตอบไปด้วยถ้อยคำที่รุนแรงกว่า แล้วสาแก่ใจ ให้ถือว่า สอบตก ต้องสอบซ่อม / สอบใหม่

หลักสำคัญ ที่จะต้องแม่น อย่าเขวไปจากนี้ คือ หากเกลียดการกระทำของเขา ก็อย่าเผลอไปทำแบบเขา
มิเช่นนั้น กรรมจะไม่จบสิ้น จะเหวี่ยงเราและเขาให้ไปเจอกันอีก

เพราะฉะนั้น ยิ่งเกลียดคนเลว เรายิ่งต้องทำความดี หนี ไปให้ไกลค่ะ

ระดับคุณธรรมที่ต่างกัน หากเขายังหลับหูหลับตาด่าไปเรื่อยๆ ผลจะส่งไปในทางตรงกันข้าม

เขาจะทำลายตัวเองต่ำลง … ต่ำลง ในขณะที่เราจะยกใจตัวเองให้ สูงขึ้น และ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
เส้นทางระหว่างเราและเขา จะไม่มีวันได้มาบรรจบกันอีกค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่