หลังจากที่ทีมชาติเวียดนาม มีผลงานประสบความสำเร็จในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนแทบทุกรุ่นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในอาเซียนถือเป็นชาติที่มีผลงานดีที่สุดในช่วงหลายปีหลัง
“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล เปิดเผยว่า ตนเองคือผู้ทำหน้าที่ประเมินโครงสร้างการพัฒนานักเตะเยาวชนของเอเชียให้กับทางเอเอฟซี และสมาคมฟุตบอลเวียดนาม ถือเป็นชาติที่วางรูปแบบการพัฒนาอคาเดมี่ได้ดีที่สุดชาติหนึ่งของโลก โดยมีการวางรากฐานรูปแบบได้อย่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง ด้วยทีมงานจากต่างประเทศที่เข้ามายกระดับศูนย์อคาเดมี่ในการสร้างแข้งเยาวชน ซึ่งผลการประเมินล่าสุด เวียดนาม ได้คะแนนถึง 3 ดาว เทียบเท่ากับศูนย์ฝึกระดับโลกอย่าง แอสไปร์, ดอร์ทมุนด์ และบาเยิร์น มิวนิก และเหนือกว่าสมาคมฟุตบอลของญี่ปุ่นที่ได้เพียง 2 ดาว
ส่วนไทยนั้นตอนนี้ การ์เลส รามาโกซ่า ประธานฝ่ายเทคนิคชาวสเปน ได้วางโครงสร้างที่จะพัฒนาระบบไทยแลนด์เวย์ ต่อยอดจากที่เคยออกแบบไว้ ทว่าทีมชาติแต่ละชุดยังขาดการทำงานให้สอดคล้องกัน และอคาเดมีต่างๆ ทั่วประเทศก็ยังไม่มีความพร้อมเท่ากับชาติอื่นๆ ในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม, มาเลเซีย และเมียนมา
จึงน่าเป็นห่วงว่าในอนาคต การผลิตนักฟุตบอลเยาวชนของไทยอาจจะเป็นรองหลายๆ ชาติในอาเซียนก็เป็นได้ หากยังไม่มีการพัฒนาโครงสร้างต่างๆ ให้มีระบบมาตรฐานมากขึ้นกว่านี้
Credit :
https://www.matichon.co.th/sport-slide/news_3446232
โค้ชเฮง เผย เวียดนาม ได้คะแนนโครงสร้างอคาเดมี สูงกว่า ญี่ปุ่น พร้อมห่วงอนาคต อคาเดมีไทย อาจจะเป็นลูกไล่ อคาเดมีเวียดนาม
“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล เปิดเผยว่า ตนเองคือผู้ทำหน้าที่ประเมินโครงสร้างการพัฒนานักเตะเยาวชนของเอเชียให้กับทางเอเอฟซี และสมาคมฟุตบอลเวียดนาม ถือเป็นชาติที่วางรูปแบบการพัฒนาอคาเดมี่ได้ดีที่สุดชาติหนึ่งของโลก โดยมีการวางรากฐานรูปแบบได้อย่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง ด้วยทีมงานจากต่างประเทศที่เข้ามายกระดับศูนย์อคาเดมี่ในการสร้างแข้งเยาวชน ซึ่งผลการประเมินล่าสุด เวียดนาม ได้คะแนนถึง 3 ดาว เทียบเท่ากับศูนย์ฝึกระดับโลกอย่าง แอสไปร์, ดอร์ทมุนด์ และบาเยิร์น มิวนิก และเหนือกว่าสมาคมฟุตบอลของญี่ปุ่นที่ได้เพียง 2 ดาว
ส่วนไทยนั้นตอนนี้ การ์เลส รามาโกซ่า ประธานฝ่ายเทคนิคชาวสเปน ได้วางโครงสร้างที่จะพัฒนาระบบไทยแลนด์เวย์ ต่อยอดจากที่เคยออกแบบไว้ ทว่าทีมชาติแต่ละชุดยังขาดการทำงานให้สอดคล้องกัน และอคาเดมีต่างๆ ทั่วประเทศก็ยังไม่มีความพร้อมเท่ากับชาติอื่นๆ ในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม, มาเลเซีย และเมียนมา
จึงน่าเป็นห่วงว่าในอนาคต การผลิตนักฟุตบอลเยาวชนของไทยอาจจะเป็นรองหลายๆ ชาติในอาเซียนก็เป็นได้ หากยังไม่มีการพัฒนาโครงสร้างต่างๆ ให้มีระบบมาตรฐานมากขึ้นกว่านี้
Credit : https://www.matichon.co.th/sport-slide/news_3446232