ก่อนหน้านี้ทางตำรวจมีแนวคิดที่จะออกใบเตือนคนที่ไม่จ่ายค่าปรับกรณีทำผิดกฎหมายจราจรทางบก หากยังเพิกเฉยก็จะเปลี่ยนเป็นการออกหมายเรียก หากยังเพิกเฉยอีกก็จะนำไปสู่การออกหมายจับ ซึ่งก็จริงอยู่ว่าถ้าเราไม่จริงจังกับคนที่ทำผิดกฎจราจร ใบสั่งก็จะเป็นเพียงแผ่นกระดาษ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจตำรวจอะไรมาก แต่ถ้าเป็นการเปรียบเทียบปรับโดยเจ้าหน้าที่ขนส่งทางบกที่ทำผิดตามกฎหมายการขนส่งทางบกและกฎหมายรถยนต์ ก็อาจจะมีผลเรื่องของการต่อทะเบียนและเสียภาษีรถประจำปี

บางคนเวลาเขาได้ใบสั่งหรือถูกเปรียบเทียบปรับแล้ว ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ผิดจริงเขาคือสู้นะ บางคนเขาถึงขั้นจะขอสู้ถึงชั้นศาล เราจึงมีแนวคิดว่าควรจะมีการจัดตั้งศาลอาญาแผนกคดีจราจรทางบก

สำหรับ ศาลอาญาแผนกคดีจราจรทางบก ให้มีอำนาจพิจารณาคดีที่เกิดจากการกระทำความผิดตามกฎหมาย 4 ฉบับประกอบด้วย
1. กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก
2. กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก
3. กฎหมายว่าด้วยรถยนต์
4. กฎหมายว่าด้วยทางหลวง
โดยให้ศาลนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นแผนกหนึ่งในศาลแขวงของแต่ละท้องที่ ท้องที่ใดไม่มีศาลแขวงให้จัดตั้งขึ้นเป็นแผนกหนึ่งในศาลจังหวัด