อาจจะยาวหน่อยนะ แต่เราเศร้าจริงๆ
.
คือตอนนี้เรากำลังทำห้องแยก เลยเอาของออกมาวางรวมๆ กันไว้ (คือของเราทุกอย่างรวมไว้บนโต๊ะนั่งยาวๆที่ไม่มีคนใช้อยู่แล้ว)
เริ่มละนะ
เราไม่อยากให้ใครยุ่งวุ่นวาย ของของเราให้มันเป็นพื้นที่สบายใจของเราได้มั้ย
ไม่ใช่เอาวางไว้ในที่ของเราที่บ้าน แต่ก็ยังมีคนมาหยิบมาจับแบบไม่ขอ
พอมันหายไปแบบเอาคืนมาไม่ได้อีกแล้ว แล้วไม่มีใครรับผิดชอบได้ มันเสียใจมากนะ มันคือคุณค่าทางจิตใจ มันคือสิ่งที่เยียวยาเราเวลาเรามีเรื่องไม่สบายใจอ่ะ
พอเรามีเรื่องเศร้าเรื่องไม่สบายใจหรือเราเครียด เราเอาของชิ้นนั้นออกมาดู มันทำให้เรานึกถึงสิ่งดีๆ เรื่องราวเกี่ยวกับของชิ้นนั้น มันทำให้เราลืมเรื่องไม่ดี เรื่องทุกข์ใจไปชั่วขณะนึงเลย
แต่วันนึง คุณมาหยิบจับของชิ้นนั้นของเราแล้วทำให้มันหายไปตลอดกาล จากที่เราเคยมองสิ่งนั้นแล้วหายเศร้ามันกลายเป็นพอเรามองในที่ที่ของชิ้นนั้นเคยวางอยู่ มันกลับทำให้เราเศร้าไปมากกว่าเดิมอีก
คุณจะรู้มั้ยว่าคุณมาพรากสิ่งที่ฮีลใจเราไป แล้วหลังจากนี้ถ้าเราเศร้าเราจะทำยังไง คุณได้คิดบ้างมั้ย
ไม่ใช่เราไม่บอกนะว่าสิ่งนั้นคือของเรา เราบอกเราย้ำตลอดเวลาคุณมาหยิบจับหรือเก็บของแถวๆนั้น เราเตือนคุณตลอด แต่ในวันที่คุณพรากมันไปจากเรา คุณกลับบอกเราว่า “ลืมไปเลย” “ไม่รู้ว่ามันมีค่า” คือของของคนอื่นอ่ะ ต่อให้มันจะมีค่ามากน้อยขนาดไหนมันไม่สำคัญเท่ากับว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจมากขนาดไหนหรอก แล้วอีกอย่างถ้าไม่ใช่ของของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์เอามันไปทำอะไรด้วยซ้ำ คุณควรวางมันไว้เฉยๆในที่ของมัน
คิดยังไง ถ้ามีคนเอาของที่เรารักมากๆ ไปทิ้ง แล้วทำยังไงให้หายเศร้า
.
คือตอนนี้เรากำลังทำห้องแยก เลยเอาของออกมาวางรวมๆ กันไว้ (คือของเราทุกอย่างรวมไว้บนโต๊ะนั่งยาวๆที่ไม่มีคนใช้อยู่แล้ว)
เริ่มละนะ
เราไม่อยากให้ใครยุ่งวุ่นวาย ของของเราให้มันเป็นพื้นที่สบายใจของเราได้มั้ย
ไม่ใช่เอาวางไว้ในที่ของเราที่บ้าน แต่ก็ยังมีคนมาหยิบมาจับแบบไม่ขอ
พอมันหายไปแบบเอาคืนมาไม่ได้อีกแล้ว แล้วไม่มีใครรับผิดชอบได้ มันเสียใจมากนะ มันคือคุณค่าทางจิตใจ มันคือสิ่งที่เยียวยาเราเวลาเรามีเรื่องไม่สบายใจอ่ะ
พอเรามีเรื่องเศร้าเรื่องไม่สบายใจหรือเราเครียด เราเอาของชิ้นนั้นออกมาดู มันทำให้เรานึกถึงสิ่งดีๆ เรื่องราวเกี่ยวกับของชิ้นนั้น มันทำให้เราลืมเรื่องไม่ดี เรื่องทุกข์ใจไปชั่วขณะนึงเลย
แต่วันนึง คุณมาหยิบจับของชิ้นนั้นของเราแล้วทำให้มันหายไปตลอดกาล จากที่เราเคยมองสิ่งนั้นแล้วหายเศร้ามันกลายเป็นพอเรามองในที่ที่ของชิ้นนั้นเคยวางอยู่ มันกลับทำให้เราเศร้าไปมากกว่าเดิมอีก
คุณจะรู้มั้ยว่าคุณมาพรากสิ่งที่ฮีลใจเราไป แล้วหลังจากนี้ถ้าเราเศร้าเราจะทำยังไง คุณได้คิดบ้างมั้ย
ไม่ใช่เราไม่บอกนะว่าสิ่งนั้นคือของเรา เราบอกเราย้ำตลอดเวลาคุณมาหยิบจับหรือเก็บของแถวๆนั้น เราเตือนคุณตลอด แต่ในวันที่คุณพรากมันไปจากเรา คุณกลับบอกเราว่า “ลืมไปเลย” “ไม่รู้ว่ามันมีค่า” คือของของคนอื่นอ่ะ ต่อให้มันจะมีค่ามากน้อยขนาดไหนมันไม่สำคัญเท่ากับว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจมากขนาดไหนหรอก แล้วอีกอย่างถ้าไม่ใช่ของของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์เอามันไปทำอะไรด้วยซ้ำ คุณควรวางมันไว้เฉยๆในที่ของมัน