ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่าบุพการีที่เราหมายถึง ณ ที่นี้ ไม่ใช่พ่อ-แม่ของเราเองนะคะ ขอเริ่มเลย เรากับสามี คบกันมาเข้าปีที่14 แต่งงานมาแล้ว5ปี มีลูก1คน อายุ8เดือนค่ะ ในช่วงระหว่างที่คบกันมา คือเราคบกันตั้งแต่สมัยเรียน เราจะไปมาบ้านแฟนตลอด เจอคนในครอบครัวของทั้ง2ฝ่ายมาตลอด
พ่อ-แม่สามีแยกทางกันตั้งแต่เราคบกันได้3ปี สามีพักอยู่กับพ่อมาตลอด แต่ปัญหาเริ่มเกิดหลังจากที่เราเรียนจบ เราเริ่มทำงาน เริ่มได้รับข้อความจากแม่สามี คือมาขอยืมเงินเรา ตั้งแต่ที่พ่อแม่แยกกัน แม่ได้ไปมีครอบครัวใหม่ เราในตอนนั้นพึ่งเรียนจบ ไม่ได้มีเงินเยอะมากอะไร แต่ขอยืมหลักหมื่นนะคะ เราก็บอกเค้าว่าไม่มี แรกๆบอกสามีว่าแม่ทักมานะ ทักมาแบบนี้ สามีก็ขอโทษเราแล้วทักไปคุยกับแม่เค้า จนบางทีเกิดการทะเลาะกันระหว่างสามีกับแม่ จนพักหลังเราเลือกที่จะไม่เล่าให้สามีฟังว่าแม่ทักมาหาเราอีก ก็มีปัญหาแบบนี้เรื่อยๆค่ะ แม่แยกทางกับสามีใหม่ที่คบ ไปคบกับอีกคน เรามีเพื่อนในเฟสบุ๊ค เค้าจะชอบโพสทำนองว่าเหลือตัวคนเดียว เหงา หาแฟน หาคนคุย โพสว่าผู้หญิงของแฟนใหม่ คือไปทางด่าและใช้คำพูดรุนแรงผ่านโซเชี่ยล (แม่อายุประมาน40ต้นๆ) จนสามีเราบอกให้ลบเพื่อนแม่ออก แต่เราไม่กล้าค่ะ จนเราแต่งงานกัน ช่วงจัดงานสามีทะเลาะกับแม่อีก1แมชใหญ่ เพราะเราอยากจัดงานเล็กๆ เพื่อเซฟค่าใช้จ่าย เชิญแต่ญาติที่สนิท แต่แม่คือมาโวยวายจะเอาการ์ด จะขอโต้ะเพิ่ม เพราะจะชวนเพื่อนมา คือจะบอกยังไงดี เพื่อนของแม่ทุกคนที่เราเจอ คือผู้ใหญ่ในคราบเด็กแว๊นค่ะ วุฒิภาวะค่อนข้างต่ำ สามีไม่อยากเชิญ แล้วก็ดราม่าตัดแม่ตัดลูกกันเกิดขึ้นค่ะ บอกว่าสามีเรารักพ่อมากกว่า อะไรก็เอาแต่ญาติฝ่ายพ่อเค้า ทั้งๆทีจัดแบ่งเท่าๆกัน หลังจบงานแต่งคือแม่หายไปเลยค่ะ มีแต่ทักมาว่าโอนตังค์ ค่าชุด ค่าแต่งหน้า ค่าทำผม ค่ารถให้ด้วย เราเลยตัดสินเล่าเรื่องนี้ให้แม่เราฟัง มีประโยคนึงที่แม่เราบอกว่าให้ทำบุญให้เค้า กรวดน้ำให้ คือความเชื่อแม่คือบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องกรวดน้ำให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หรือแค่คนที่เสียชีวิตไปแล้ว เราสามารถกรวดให้คนเป็นนี่แหละ เพื่อให้เค้าไม่สร้างความเดือดร้อนให้เรา มันเลยทำให้เราฉุกคิดมาประโยคนึงว่า บางทีเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบบุพการี ตอนนี้เรามีลูกค่ะ แม่จะชอบโทรมาขอคุยกับลูกเรา แต่เราปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลา(แม่ลูกอ่อนอาจเข้าใจกันดี) เพื่อป้องกันเสียงดังบางครั้งไม่ได้รับสาย ยอมรับว่าแรกๆไม่เคยคิดที่จะกีดกันลูกไม่ให้คุยกับเค้าแต่เค้าชอบทักมาว่าไม่รับโทรศัพท์คือจะไม่ให้คุยใช่ไหม คือคุยดี2คำ ตัดพ้อ น้อยใจไป10คำค่ะ จนบางทีตอนนี้เราเริ่มรู้สึกไม่อยากรับสายจริงๆ เรื่องเลี้ยงลูกเรา ทักมาให้เราทำแบบนั้นแบบนี้ ทำไมไม่เลี้ยงแบบนี้ คือแม่เราเองเรายังเถียงเลยค่ะ เราไม่เลี้ยงลูกแบบตามคำโบราณที่ไม่มีเหตุผลรองรับเลย แต่เค้าทักมาสั่งเรา มาขอเงินเรา หลังๆมาคือสามีกับแม่ไม่คุยกันเลยนะคะ จะมีแต่เราที่คุยกับแม่ แต่สามีคือก็ยังโอนเงินให้บาง คือทุกคนมีค่าใช้จ่าย เรายิ่งมีลูกค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราออกจากงานมาเลี้ยงลูก สามีทำงานคนเดียว ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง แต่เรามีความรู้สึกว่าเค้าไม่ทำ แม่ไม่ทำงาน ทุกเดือนทักมาขอเงิน แล้วตัดพ้อชีวิตว่าทุกคนทิ้งเค้า ในมุมเรา เค้านั้นแหละที่ทิ้งทุกคนไปในตอนนั้น ตอนนี้ก็เหมือนแค่ต้องรับผลการกระทำตัวเอง ตอนนั้นสามีเรียน มีน้องวัยมัธยม ทั้ง2คนอยู่กับพ่อมาตลอด เราอยู่ในเหตุการณ์มาตลอด แต่วันนี้เราว่าแม่เรียกร้องเกินไป เค้าควรช่วยเหลือตัวเองบ้าง ไม่ใช่มารอขอความช่วยเหลือจากสามีเรา บางครั้งที่สามีทำอะไรติดขัด เรามักจะคิดถึงเรื่องนี้ ว่าเราทำตัวไม่ดีกับแม่เค้าหลอ แต่เค้าเองที่เป็นคนทิ้งทุกคนไป ทิ้งพ่อ ทิ้งสามีเรากับน้อง ทิ้งยาย(คือแม่ของแม่สามี) แล้วตอนนี้จะกลับมาเรียกร้องอะไรอีกคะ เราคิดว่าเค้าทำตัวเป็นเด็ก เราเคยอธิบายทุกเรื่องทั้งสถานะทางการเงิน เรื่องลูกเรา อธิบายยาวมาก เค้าตอบเหมือนจะเข้าใจเรากับสามีมากขึ้น แต่ก็ยังทักมาตัดพ้อ นี่แม่เลี้ยงสามีมาตัดแต่เด็กนะ ยอมออกจากเรียนไม่มีอนาคตเพราะมีสามีเรา (เค้ามีสามีเราตั้งแต่อายุ17) ตอนนี้เราไม่อยากคุยกับเค้าเลย เราเหนื่อยค่ะ เหมือนทนมาตลอดเป็น10ปี บางเรื่องเล่าให้สามีฟัง บางเรื่องไม่เล่า แต่สามีจะอยู่ข้างเราเสมอค่ะยังมีความโชคดีอยู่ เราควรคุยกับแม่ยังไง เพื่อให้เค้าเข้าใจมากขึ้น ช่วยเหลือตัวเอง หางานทำ กลับมาบ้าน ดูแลยาย ทำในสิ่งความทำสักที เรากลัวเราพูดไปก็จะเป็นเด็กมากล้าสอนผู้ใหญ่ เราควรทำยังไง
*ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ กระทู้แรกขออภัยหากผิดพลาดค่ะ
*มันรู้สึกอัดอั้น อยากระบาย อยากหาทางออก ถ้าทุกคนเป็นเราจะทำอย่างไร
ทุกคนมีความคิดเห็น อย่างไรกับคำว่า "เจ้ากรรมนายเวรมาในรูปแบบของบุพการี" คะ?
พ่อ-แม่สามีแยกทางกันตั้งแต่เราคบกันได้3ปี สามีพักอยู่กับพ่อมาตลอด แต่ปัญหาเริ่มเกิดหลังจากที่เราเรียนจบ เราเริ่มทำงาน เริ่มได้รับข้อความจากแม่สามี คือมาขอยืมเงินเรา ตั้งแต่ที่พ่อแม่แยกกัน แม่ได้ไปมีครอบครัวใหม่ เราในตอนนั้นพึ่งเรียนจบ ไม่ได้มีเงินเยอะมากอะไร แต่ขอยืมหลักหมื่นนะคะ เราก็บอกเค้าว่าไม่มี แรกๆบอกสามีว่าแม่ทักมานะ ทักมาแบบนี้ สามีก็ขอโทษเราแล้วทักไปคุยกับแม่เค้า จนบางทีเกิดการทะเลาะกันระหว่างสามีกับแม่ จนพักหลังเราเลือกที่จะไม่เล่าให้สามีฟังว่าแม่ทักมาหาเราอีก ก็มีปัญหาแบบนี้เรื่อยๆค่ะ แม่แยกทางกับสามีใหม่ที่คบ ไปคบกับอีกคน เรามีเพื่อนในเฟสบุ๊ค เค้าจะชอบโพสทำนองว่าเหลือตัวคนเดียว เหงา หาแฟน หาคนคุย โพสว่าผู้หญิงของแฟนใหม่ คือไปทางด่าและใช้คำพูดรุนแรงผ่านโซเชี่ยล (แม่อายุประมาน40ต้นๆ) จนสามีเราบอกให้ลบเพื่อนแม่ออก แต่เราไม่กล้าค่ะ จนเราแต่งงานกัน ช่วงจัดงานสามีทะเลาะกับแม่อีก1แมชใหญ่ เพราะเราอยากจัดงานเล็กๆ เพื่อเซฟค่าใช้จ่าย เชิญแต่ญาติที่สนิท แต่แม่คือมาโวยวายจะเอาการ์ด จะขอโต้ะเพิ่ม เพราะจะชวนเพื่อนมา คือจะบอกยังไงดี เพื่อนของแม่ทุกคนที่เราเจอ คือผู้ใหญ่ในคราบเด็กแว๊นค่ะ วุฒิภาวะค่อนข้างต่ำ สามีไม่อยากเชิญ แล้วก็ดราม่าตัดแม่ตัดลูกกันเกิดขึ้นค่ะ บอกว่าสามีเรารักพ่อมากกว่า อะไรก็เอาแต่ญาติฝ่ายพ่อเค้า ทั้งๆทีจัดแบ่งเท่าๆกัน หลังจบงานแต่งคือแม่หายไปเลยค่ะ มีแต่ทักมาว่าโอนตังค์ ค่าชุด ค่าแต่งหน้า ค่าทำผม ค่ารถให้ด้วย เราเลยตัดสินเล่าเรื่องนี้ให้แม่เราฟัง มีประโยคนึงที่แม่เราบอกว่าให้ทำบุญให้เค้า กรวดน้ำให้ คือความเชื่อแม่คือบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องกรวดน้ำให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หรือแค่คนที่เสียชีวิตไปแล้ว เราสามารถกรวดให้คนเป็นนี่แหละ เพื่อให้เค้าไม่สร้างความเดือดร้อนให้เรา มันเลยทำให้เราฉุกคิดมาประโยคนึงว่า บางทีเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบบุพการี ตอนนี้เรามีลูกค่ะ แม่จะชอบโทรมาขอคุยกับลูกเรา แต่เราปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลา(แม่ลูกอ่อนอาจเข้าใจกันดี) เพื่อป้องกันเสียงดังบางครั้งไม่ได้รับสาย ยอมรับว่าแรกๆไม่เคยคิดที่จะกีดกันลูกไม่ให้คุยกับเค้าแต่เค้าชอบทักมาว่าไม่รับโทรศัพท์คือจะไม่ให้คุยใช่ไหม คือคุยดี2คำ ตัดพ้อ น้อยใจไป10คำค่ะ จนบางทีตอนนี้เราเริ่มรู้สึกไม่อยากรับสายจริงๆ เรื่องเลี้ยงลูกเรา ทักมาให้เราทำแบบนั้นแบบนี้ ทำไมไม่เลี้ยงแบบนี้ คือแม่เราเองเรายังเถียงเลยค่ะ เราไม่เลี้ยงลูกแบบตามคำโบราณที่ไม่มีเหตุผลรองรับเลย แต่เค้าทักมาสั่งเรา มาขอเงินเรา หลังๆมาคือสามีกับแม่ไม่คุยกันเลยนะคะ จะมีแต่เราที่คุยกับแม่ แต่สามีคือก็ยังโอนเงินให้บาง คือทุกคนมีค่าใช้จ่าย เรายิ่งมีลูกค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราออกจากงานมาเลี้ยงลูก สามีทำงานคนเดียว ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง แต่เรามีความรู้สึกว่าเค้าไม่ทำ แม่ไม่ทำงาน ทุกเดือนทักมาขอเงิน แล้วตัดพ้อชีวิตว่าทุกคนทิ้งเค้า ในมุมเรา เค้านั้นแหละที่ทิ้งทุกคนไปในตอนนั้น ตอนนี้ก็เหมือนแค่ต้องรับผลการกระทำตัวเอง ตอนนั้นสามีเรียน มีน้องวัยมัธยม ทั้ง2คนอยู่กับพ่อมาตลอด เราอยู่ในเหตุการณ์มาตลอด แต่วันนี้เราว่าแม่เรียกร้องเกินไป เค้าควรช่วยเหลือตัวเองบ้าง ไม่ใช่มารอขอความช่วยเหลือจากสามีเรา บางครั้งที่สามีทำอะไรติดขัด เรามักจะคิดถึงเรื่องนี้ ว่าเราทำตัวไม่ดีกับแม่เค้าหลอ แต่เค้าเองที่เป็นคนทิ้งทุกคนไป ทิ้งพ่อ ทิ้งสามีเรากับน้อง ทิ้งยาย(คือแม่ของแม่สามี) แล้วตอนนี้จะกลับมาเรียกร้องอะไรอีกคะ เราคิดว่าเค้าทำตัวเป็นเด็ก เราเคยอธิบายทุกเรื่องทั้งสถานะทางการเงิน เรื่องลูกเรา อธิบายยาวมาก เค้าตอบเหมือนจะเข้าใจเรากับสามีมากขึ้น แต่ก็ยังทักมาตัดพ้อ นี่แม่เลี้ยงสามีมาตัดแต่เด็กนะ ยอมออกจากเรียนไม่มีอนาคตเพราะมีสามีเรา (เค้ามีสามีเราตั้งแต่อายุ17) ตอนนี้เราไม่อยากคุยกับเค้าเลย เราเหนื่อยค่ะ เหมือนทนมาตลอดเป็น10ปี บางเรื่องเล่าให้สามีฟัง บางเรื่องไม่เล่า แต่สามีจะอยู่ข้างเราเสมอค่ะยังมีความโชคดีอยู่ เราควรคุยกับแม่ยังไง เพื่อให้เค้าเข้าใจมากขึ้น ช่วยเหลือตัวเอง หางานทำ กลับมาบ้าน ดูแลยาย ทำในสิ่งความทำสักที เรากลัวเราพูดไปก็จะเป็นเด็กมากล้าสอนผู้ใหญ่ เราควรทำยังไง
*ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ กระทู้แรกขออภัยหากผิดพลาดค่ะ
*มันรู้สึกอัดอั้น อยากระบาย อยากหาทางออก ถ้าทุกคนเป็นเราจะทำอย่างไร