[CR] แบกเป้ขึ้นรถไฟลาวจีน เที่ยวหลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน EP.1 Slow Life หลวงพระบาง

สำหรับใครที่อยากจะเดินทางมาหลวงพระบางโดยรถไฟลาวจีน แล้วยังมีข้อสงสัยเหล่านี้
เดินทางยังไง? จองตั๋วที่ไหน? ใช้เอกสารอะไรบ้าง? รถไฟลาวจีนเป็นยังไง?
สามารถย้อนกลับไปอ่านกระทู้ https://ppantip.com/topic/41515784 EP.0 รีวิวการเดินทาง ได้นะครับ

การใช้เวลาในหลวงพระบางของเราครั้งนี้จะเป็นแบบ slow life ชิลๆ เหนื่อยก็พัก ง่วงก็กลับที่พักไปนอน เพี้ยนขำหนักมาก
 Day 1 
     รถตู้โดยสารมาส่งเราตรงสี่แยกตลาดมืดประมาณ 18:00 น. เราก็เดินมุ่งหน้าไป Check in ที่พักทันที โดยที่พักในคืนนี้ของเราคือ Indigo house hotel ซึ่งได้จองผ่านAgoda ไว้แล้ว ราคาประมาณ 1,100 บาทต่อคืน เป็นที่พักที่ทำเลดีมาก อยู่ตรงตลาดมืดที่เป็นแหล่งของกินของเมืองเลย ระหว่างCheck in พนักงานก็เสิร์ฟ welcome drink แล้วก็พาไปยังห้องพัก แนะนำห้องพร้อมบอกระเบียบที่พักต่างๆ 

เป็นห้องพักซูพีเรีย เตียงใหญ่ ห้องโอเคมากก สมกับรีวิว Agoda 8.7 คะแนน มีอ่างอาบน้ำเปิดโล่งกับห้องนอน ส่วนชักโครกจะเป็นห้องแยกต่างหาก

    หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อย เราก็ลงไปหาอะไรกินที่ตลาดมืด เดินสำรวจไปเรื่อยๆ คร่าวๆบริเวณนี้ก็จะอยู่ 3 โซน
1. บนเส้นถนนศรีสว่างวงศ์ กลางคืนจะมีเต็นท์พ่อค้าแม่ค้ามีตั้งจำหน่ายสินค้าพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับ ภาพวาด ส่วนกลางวันก็เป็นถนนสัญจรตามปกติ
2. ซอยเล็กๆข้างโรงแรม Indico ซอยนี้ก็จะขายพวกของกิน
3. ลานเวทีการแสดง บริเวณนี้จะมีเวทีแสดง เปิดเพลง มีแอลกอฮอล์ อาหาร ของกินต่างๆจำหน่าย

พอจะดูออกกันไหมครับ 555+
ถ้าไม่ออกยังไง ลองเข้าไปดู City Map ของเมืองได้ตามลิงค์นี้ครับ https://www.luangprabang-laos.com/Map-of-Luang-Prabang#&gid=1&pid=3

ขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ luangprabang-laos.com 
Indico house ตลาดมืด ตลาดเช้า วัดใหม่สุวรรณพูมี พระราชวัง หอพระบาง ทางขึ้นพระธาตุพูสี จะอยู่บนถนนศรีสว่างวงศ์หมดเลย เดินง่ายไม่ไกลครับ 
  
   สำหรับมื้อนี้เราก็ได้ของกินในซอยเล็กๆข้างโรงแรม สามชั้นทอด (กินที่ไทยก็ได้ 555) แล้วก็ขนมครก รู้สึกว่าซอยนี้จะเงียบๆ ไม่เหมือนกับที่ดูในรีวิวช่วงก่อนสถานการณ์โควิด พวกร้านบุฟเฟ่ก็ไม่เห็นแล้ว

ขนมครก ราคา 6000กีบ เป็นกะทิเหมือนบ้านเรา แต่ให้ความแป้งแพนเค้ก อร่อยดี แนะนำๆ

ดึกแล้วเราก็ขึ้นไปด้านบนโรงแรม หาอะไรเบาๆดื่มก่อนนอน ^^

     ด้านบนสุดโรงแรมจะเป็นชั้นลอยร้านอาหาร ดื่มเบียร์ฟังเพลงไปเพลินๆ ปล่อยอารมย์เลื่อนลอยไปตามเสียงเพลง ตามกระแสผู้คนตลาดมืดด้านล่างก่อนจะกลับไปแช่น้ำอุ่นที่ห้อง นอนพักเก็บแรงไปต่อพรุ่งนี้
     เออลืมบอกไปห้องพักเราอยู่ชั้น2 เลยไม่เห็นวิว ใครอยากแบบว่าเปิดหน้าต่างมาแล้วเห็นวิวเมืองพระบางบาง แนะนำให้จองห้องชั้นบนๆ 

 Day 2
     05:30 เสียงนาฬิกาปลุก ให้เราลุกขึ้นไปสัมผัสวิถีชีวิตยามเช้าของหลวงพระบาง ด้วยความเหนื่อยล้าจากเมื่อวานบวกกับเตียงที่นุ่มสบายดูดวิญญาณ ทำเราเกือบตัดสินใจนอนต่อละ แต่ก็นะ ไหนๆก็มาทั้งที เลยฮึบขึ้นมาล้างหน้า แปรงฟัง เปลี่ยนชุดออกไปเลย
    เช้านี้ตั้งใจขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่พระธาตุพูสี ระหว่างทางที่เดินไป ก็มีแม่ค้าคอยชักชวนให้เราตักบาตรข้าวเหนียว มีบริการครบจบที่เดียว ข้าวเหนียว อาหารแห้ง ปูเสื่อพร้อม แต่เราก็ปฏิเสธไป คิดว่าไว้วันหลังละกัน ยังอยู่อีกหลายวัน



ทางขึ้นวัดพูสีอยู่ตรงข้ามพระราชวัง เดินขึ้นบันไดกว่า 328 ขั้น ( ไม่ได้นับนะ อ่านมา 555+) เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน

และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงด้านบน ไม่เห็นใครเลย ส่วนใหญ่คนจะนิยมขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกกัน ถ้าใครไม่ชอบคนเยอะๆ แนะนำขึ้นมาตอนเช้าก็ได้

ด้วยความสูงกว่า 150 เมตร ทำให้ด้านบนเห็นแทบทุกมุมเมืองของหลวงพระบาง ที่มีขุนเขาโอบล้อมตัวเมือง และแม่น้ำคานที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง


พระธาตุพูสีเปรียบเหมือนหลักเมืองของหลวงพระบาง เป็นทรงดอกบัวสีทอง ยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริดเจ็ดชั้น

    ตอนกลับเราลงอีกทางนึง ฝั่งถนนเจ้ากิ่งกิสราชที่ติดกับแม่น้ำคาน เดินไปจนถึงสามแยกโรงแรมสายน้ำคานริเวอร์วิว เลี้ยงซ้ายกลับไปเข้าถนนศรีสว่างวงศ์ เพื่อไปตลาดเช้าต่อ



     ระหว่างทางให้ความรู้สึกเงียบเหงาของหลวงพระบาง บรรดาร้านต่างๆปิดประกาศให้เช่ากันหลายร้าน คงเนื่องจากพิษโควิดที่มีการปิดประเทศ หวังว่าจะกลับมาเปิดโดยเร็วนะครับ ขี้แง

     เราเดินเข้าไปในซอยเล็กๆข้างวัดใหม่สุวรรณภูมาราม ที่นี่เป็นตลาดที่ชาวบ้านต่างพากันมาหาซื้อผักปลา ผลไม้ ของป่า ของสดต่างๆ



    เราเดินทะลุตลาดไป แล้วเลี้ยวซ้ายไปออกถนนเจ้ากิ่งกิสราช เพื่อไปร้านรับจองตั๋วรถไฟ หาตั๋วก่อนเลย เดี๋ยวจะไม่ได้กลับ 555+ ซึ่งอยู่ติดกับร้านประชานิยม เลยถือโอกาสแวะร้านประชานิยม เป็นร้านที่ดังมากๆในหมู่นักท่องเที่ยว ใครมาก็ต้องแวะมากินกัน

     คือคนเยอะมาก พนักงานร้านมือพัลวันกันเลยทีเดียว เราก็สั่งข้าวเปียกข้าว เอาตรงๆความรู้สึกส่วนตัวคือเฉยๆ ไข่ดิบ ปาท่องโก๋แห้งๆ
ก็เลยกลับไปกินอาหารเช้าโรงแรมต่อ

ด้านล่างโรงแรมเป็นคาเฟ่ เข้าไปแจ้งที่เคาน์เตอร์ขอรับอาหารเช้าได้เลย จะมีรายการมาให้เราเลือก หลังจากกินเสร็จเราก็ขึ้นห้องไปนอน ง่วงมากกก
zzz
เที่ยงเราเก็บข้าวของ ย้ายโรงแรม ในใจก็ยังอยากอยู่ต่อ แต่ประหยัดเงินเลยได้จองที่อื่นไว้แล้ว 2 คืน
ลงบันได้มา Check out แต่ก็ลงแบบปกติไม่ได้ ลื่นครับ ลื่นนนน เท้าพลิกหยอกเย้า โอยย ได้Slow lifeจริงๆละ ค่อยๆเดินกะเผลกๆไปละกัน 
Check out เสร็จก็ไปเช่าจักรยานร้านที่ติดกับโรงแรมเลย ราคา 20000กีบ เอามาคืนพรุ่งนี้เช้า

และนี่คือพาหนะของเราวันนี้ ไม่ต้องเดินละ ยิ่งปวดๆเท้าอยู่ 

     เราก็ปั่นไป Check In ที่โรงแรม Villa Champa ซึ่งเราได้จองผ่านAgoda ไว้แล้ว 2คืนราคาประมาณ 915บาท แต่พอไปถึงโรงแรม เอ๊ะ เดี๋ยวนะ 
เรามาถูกที่รึป่าว ทำไมโรงแรมกำลังปรับปรุงอยู่ 555+ ก็เดินวนไปวนมาอยู่ เดินเข้าไปเรียก ก็ไม่มีเสียงตอบรับ คิดในใจ นอนไหนละคืนนี้ หาที่พักใหม่เลยไหม เพราะก็เห็นที่พักอยู่หลายที่เลย น่าจะwalk in ได้ แต่สักพักก็มีคนชะโงกหน้าต่างชั้น2 มา แล้วเขาก็วิ่งลงมา เขาพาเราไป Check in โรงแรมข้างๆกัน เขาบอกว่าที่พักเหมือนๆกัน ชื่อ Mekong Sunset View Hotel  ซึ่งห้องพักที่นี่ก็โอเค ตามราคา

ด้านหน้า Mekong Sunset View Hotel ส่วนด้านในห้องพักเราไม่ได้ถ่ายไว้เลย

     Check in เก็บของเสร็จแล้วก็ไปจองตั๋วล่องเรือแม่น้ำโขง ที่ Sa Sa Cruise ซึ่งก็อยู่ตรงข้ามโรงแรมเลย ตอนไปถึงก็ไม่มีพนักงานขายตั๋วนะ เขาจะมาขายตอนเย็นๆ ให้โทรไปตามเบอร์ในป้ายหน้าร้านหรือว่า What app คุยกันก็ได้ ถ้าทัก Messeger Facebook ไปเขาจะไม่ได้ตอบนะ หรือถ้าติดต่อไม่ได้จริงๆก็เดินลงไปในเรือเลยครับ น่าจะมีพนักงานจัดเตรียมของอยู่บนเรือ 

ไม่ต้องตกใจนะครับ อาจดูร้างๆหน่อย 555+

ภาพจาก Facebook Page  : SA SA CRUISE

ตั๋วเรือจะเป็นไม้ตะเกียบ 2 ไม้ เราลืมถ่ายรูปมาให้ดู = =  ไม้ยาวเอาไว้ขึ้นเรือ ไม้สั่นเอาไว้แลกCocktail บนเรือ

ได้ตั๋วเรือแล้วก็ปั่นไปกินส้มตำร้าน "ตำบักหุ่งเจ๊ติ๋ม"

ตำหลวงพระบางใส่ปู ปลาร้าหน่อยเดียว คืออร่อยมาก ชอบบ มะละกอเป็นแผ่นๆ เต็มคำดี แซ่บๆ กลับมาไทยแล้วก็ยังนึกถึง อยากกินอีก
ตำหลวงพระบาง 18000 กีบ (44 บาท)
ไก่ย่าง 45000 กีบ (110 บาท)
พิกัดร้าน : https://goo.gl/maps/9rGLKejnGEiWJWmQ8

ของคาวเสร็จต่อด้วยของหวานที่ร้าน "Saffron Coffee"

     ร้านนี้ติดรีวิว ใครมาหลวงพระบางต้องมากินกาแฟที่นี่ ว่ากันว่ากาแฟดีมาก เราเลยมาที่นี่ เดินตรงไปเคาน์เตอร์  ช็อคโกแลตเย็นแก้วนึงครับ อ่าวว!  คือปกติเราไม่กินกาแฟ == เลยไม่ได้ลอง แต่คงดีตามรีวิว เห็นคนแวะเวียนมาสั่งกาแฟกันเยอะ ทั้งนั่งกินที่ร้าน และซื้อกลับ



ช็อกโกแลตเย็น + ขนม  37000 กีบ (90 บาท)
พิกัดร้าน https://g.page/SaffronCoffee?share

เสร็จแล้วเราก็ว่าจะปั่นไปต่อร้าน Dexter แต่เหมือนว่าร้านจะปิดกิจการไปแล้ว  
อากาศหลวงพระบางช่วงนี้ค่อนข้างร้อน เราเลยปั่นกลับที่พัก หลับรอขึ้นเรือตอน 5โมงครึ่ง
zzz
เกือบๆ 5โมงครึ่ง เราก็เดินลงจากที่พักไปขึ้นเรือ แล้วฝนก็โปรยๆลงมาเฉยเลย 555+ ทำให้เรือออกเลทไปหน่อยนึง


บนเรือคนไม่เยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง บรรยากาศดีมาก ลมเย็นสบาย วิวสวย ประทับใจเลยครับ ^^

ระหว่างนี้ก็เอาตั๋วตะเกียบไปแลกcocktail กับขนม ได้เลย

เรือจะพาเราล่องไปตามแม่น้ำโขง แล้วจอดกลางแม่น้ำโขงให้เราดื่มด่ำบรรยากาศชมพระอาทิตย์ตก  ก่อนจะพาเรากลับมาส่งที่ฝั่งประมาณ 19:30 น. 

สำหรับพรุ่งนี้เราจะแว๊นมอเตอร์ไซค์ไปตาดกวางสี
ไว้มาต่อกัน EP หน้ากันนะครับ
EP สุดท้ายละ จะมาสรุปทริปนี้กัน ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? มีอะไรที่เราพลาดไปไหม?  แล้วจะมาหลวงพระบางอีกไหม? 
ฝากติดตาม EP ต่อไปด้วยนะครับ  ^^
ชื่อสินค้า:   EP.1 Slow Life หลวงพระบาง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่