ผมเลือกเวนิส เป็นเมืองเปิดเมืองแรกให้กับการเดินทางเข้าสู่อิตาลีในชีวิตครั้งแรกของผม และก็ไม่ผิดหวังเลย เวนิสต้อนรับผมอย่างอลังการ ในระดับที่ว่า พอออกจากสถานีรถไฟเวนิเซีย แล้วเห็นภาพเมือง เป็นภาพแรกที่ตื่นตาตะลึงใจมากที่สุด ภาพหนึ่งในชีวตการเดินทาง และเป็นภาพที่ไม่สามารจะลืมได้อีกเลย ภาพบ้านเมืองของเวนิส ที่ยังสมบูรณ์เหมือนสมัยที่บ้านเมืองยังเจริญเมื่อหลายร้อยปีก่อน ภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลเดินกันขวักไขว่ ภาพโบสถ์อาคารที่งดงามของเวนิส และภาพนครที่เหมือนกับแขวนลอยอยู่บนสายน้ำ

เวนิส เมืองที่มีฉายาว่า เมืองแห่งสายน้ำ ความสวยงามตรึงใจของบ้านเมืองที่นี่เหมือนได้อยู่ในโลกนิทาน มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน จนหลายคนตั้งเป้าว่าชาตินี้ขอให้ได้ไปเยือนสักครั้ง

เมืองเวนิสเป็นเกาะ อยู่ออกไปในทะเลเอเดรียติก (Adriatic Sea) การเดินทางมาเวนิสจากสนามบินมาได้สามทาง คือ ทางรถบัส เรือ และรถไฟ เมืองเวนิสมีสถานีรถไฟหลัก คือ Venezia Santa Lucia  ซึ่งผมเลือกมาโดยวิธีนี้ สำหรับการเดินทางภายในตัวเมืองสามารถเลือกได้ คือเดินเท้า นั่งเรือโดยสาร Vaporetto นั่งเรือแท๊กซี่ หรือนั่งเรือกอนโดล่าไปตามจุดต่างๆ ในตัวเมือง ไม่ว่าวิธีไหน ก็จะได้บรรยากาศซึมซับเวนิสได้ไม่แพ้กัน












แผนที่ตั้งของเวนิส จะเห็นว่าเป็นเกาะที่อยู่ด้านหนือของอิตาลี ติดทะเลเอเดรียติก



จาก Luzern เรานั่งรถไฟ วิ่งตรงข้ามประเทศไปยังเวนิสเลยครับ มาถึงครึ่งทางการเดินทางของเราแล้ว



ค่ารถไฟแพงหน่อย และใช้เวลายาวนานเลย นั่งรถไฟสวิสจากลูเซิร์น แล้วไปเปลี่ยนเป็นรถไฟอิตาลีที่มิลาน ตอนเปลี่ยนรถไฟมีเรื่องตื่นเต้นนิดหน่อยด้วยครับ แต่ก็เอาตัวรอดมาได้







ที่เวนิสเราพัก 2 คืน ผมว่ากำลังดี สำหรับเวนิส คืนเดียวน้อยไปแน่นอน แต่ถ้า 3 คืน ก็เหมือนจะนานไปหน่อย เวนิสสวยงามมากก็จริง แต่ก็เป็นเกาะเล็ก อยู่สัก 2 วันก็เที่ยวทั่วแล้ว ยกเว้นแต่ใครอยากจะดื่มด่ำซึมซับกับเวนิสให้มากกว่านั้นก็ได้ครับ

แน่นอน ค่าโรงแรมที่เวนิสแพงหูฉี่ เราต้องเลือกนอนห้อง dorm 4 เตียง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งก็ได้โรงแรมดีพอสมควรครับ นอนหลับสบาย มีห้องครัวให้ทำอาหาร ทำเลโรงแรมก็ดี มองจากหน้าต่างห้องนอนเห็นนักท่องเที่ยวในเวนิสเดินกันขวักไขว่ ผมกับแฟนยังไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าเรามาอยุ่ที่เวนิสได้จริง ๆ หรือ

 

พัก 2 คืนนะครับ แต่จองแยก booking กัน