แล้วก็มาถึงสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศในฝันของใครหลาย ๆ คน
- ประเทศที่บ้านเมืองสวยงามราวกับเทพนิยาย สวิสเซอร์แลนด์มีพื้นที่มากกว่า 70% เป็นเขตภูเขา คือ เทือกเขาแอลป์ บ้านเรือน มักอยู่บนเชิงเขา ที่มีบรรยากาศ สวยงาม หรือไม่ก็อยู่ริมทะเลสาบสีฟ้า ใสราวกับกระจกแก้ว
- ประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่ทวีปยุโรปกลาง มีประชาชนรวมทั้งประเทศประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ภาษาราชการของสวิสเซอร์แลนด์มีถึง 4 ภาษาด้วยกัน คือ เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และโรมานซ์ ขึ้นอยู่ว่าเมืองไหนอยู่ใกล้พรมแดนอะไร ถ้าใกล้พรมแดนฝรั่งเศสคนสวิสเมืองนั้นก็จะพูดฝรั่งเศส ถ้าใกล้เยอรมันก็จะพูดเยอรมัน
- มียอดเขาสูงกว่า 100 แห่ง และส่วนมากก็สูงใกล้เคียงหรือมากกว่า 4,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะยอดเขาที่เป็นหมุดหมายของคนทั่วโลก ได้แก่ Jungfraujoch , Schilthorn , Pilatus และ Alalin (Saas Fee) อากาศบนยอดเขาสูง จะหนาวเย็นกว่าที่ข้างล่างมาก
- ระบบการคมนาคมขนส่ง และการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวทำได้ยอดเยี่ยม มีทั้งเส้นทางรถไฟและเคเบิลคาร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวสวิสและนักท่องเที่ยว
- ด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นภูเขา จึงทำให้อากาศของสวิสเซอร์แลนด์นั้นเย็นสบายตลอดทั้งปี ฤดูร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ฤดูหนาวจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม และฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม
ทริปนี้ดูเผิน ๆ เหมือนผมใช้สวิสเซอร์แลนด์เป็นทางผ่านหลังจากเที่ยวเสร็จจากฝรั่งเศส เพื่อแวะพักก่อนไปสู่อิตาลี แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เป็นแค่ทางผ่านเลย สวิสเซอร์แลนด์เป็นประเทศระดับเกรด A+ ในการท่องเที่ยว เป็นสุดยอดของประเทศในฝัน มีทุกอย่างที่สวยงาม เกินจะบรรยายจริง ๆ
ทริปนี้แผนการเดินทางของผมในสวิสฯ เป็นดังนี้ครับ
1. ออกจาก Paris นั่งรถไฟไปเที่ยวที่ Bern เดินเล่นชิลล์สบาย ๆ ที่เมืองเบิร์น ขึ้นไปดูยอดเขาจุดสูงสุดของเมือง
2. จากเบิร์นเราไม่นอนค้าง นั่งรถไฟต่อไป Interlaken นอนค้างที่ Interlaken
3. เช้าวันถัดมา นั้งรถไฟและกระเช้า ไปขึ้นเขา Murren เดินเล่นบนภูเขา ลงมานอน Interlaken อีกคืน (วันนี้เป็น Hi-light ของหลายวันในสวิสฯ ที่ชอบมากที่สุดเลยครับ ทางเดินและหมู่บ้านบนยอดเขาสวยงามตื่นตาตื่นใจจริง ๆ)
4. เช้าวันต่อไป นั่งรถไฟจาก Interlaken ไป Luzern เดินเล่นในเมือง นอนค้าง Luzern 1 คืน ก่อนที่จะเข้าอิตาลีที่ Venezia
ทริปนี้จริง ๆ แล้ว ยังเที่ยวสวิสฯ ไม่หนำใจเลยครับ ก็คิดกันไว้แล้วว่ามาคราวหลังต้องมาสวิสฯ ให้ครบกว่านี้ เที่ยวนี้มีเวลาไม่มาก แต่ก็ได้สัมผัสถึงความสวยงามของสวิสเซอร์แลนด์จนประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งกระเช้าไปชมภูเขาหิมะ เดินเล่นตรงทางเดินลัดเลาะไปตามเทือกเขา สวยงามสุดบรรยาย กระท่อมเล็กบนภูเขาน่าใช้ชีวิตอยู่มาก ๆ นั่งเรือล่องไปตามทะเลสาบ เห็นบ้านคนสวิสฯ ที่อยู่ริมทะเลสาบแล้วอิจฉาเหลือเกิน และในยามนั่งรถไฟผ่านไปตามทาง ผ่านเมือง ฝ่านทุ่งปศุสัตว์ ก็จะพบว่าประเทศอะไรหนอช่างน่าอยู่ บ้านเมืองสวยงามสงบเป็นระเบียบไปหมด เมืองโบราณที่แวะเที่ยวอย่างเบิร์นและลูเซิร์นก็ควรค่าทุกประการกับการเป็นเมืองมรดกโลก
การเดินทาง
เริ่มต้นเรานั่งรถไฟเที่ยวเช้าตรู่ ออกจากปารีส เพื่อจะไปเปลี่ยนเป็นรถไฟสวิสฯ ที่เมือง Neuchatel
เป็นรถไฟระหว่างประเทศ จองตั๋วล่วงหน้า ใบละ 70 Euro (รวมที่ไป Bern ด้วย)
จากเมือง Neuchatel ต่อรถไฟเข้า Bern
เที่ยว Bern แล้วจับรถไฟเที่ยวเย็น ไป Interlaken ทันที นอน Interlaken 2 คืน แล้วนั่งเรือล่องทะเลสาบ Brienz เพื่อไปนอน Luzern
โรงแรมที่พัก
นอน Interlaken 2 คืน เป็นห้อง dorm room โรงแรมสวิสฯ แพงมาก ๆ ถ้าไม่นอน dorm แล้วล่ะก็ไม่ไหวจริง ๆ แต่โรงแรม Alplodge ที่ Interlaken ดีมาก ๆ ครับ โรงแรมสะอาด ทำเลเยี่ยม ไม่ไกลจากทางรถไฟ ผมพักห้อง dorm แบบ 4 คน ห้องดีมาก ๆ สะอาด กว้างพอสมควร วิวโรงแรมเป็นภูเขา อาหารเช้าก็ดีเยี่ยม แถมพื้นที่ส่วนกลางก็กว้างขวาง มีมุมพักผ่อน มีครัวให้ทำอาหาร ใครไป interlaken แนะนำโรงแรมนี้เลยครับ รับประกัน
ที่ Luzern ผมพัก โรงแรม Lion Lodge Luzern ดีอยู่อย่างเดียว ทำเลใกล้รถไฟฟ้า นอกนั้นไม่ค่อยดีครับ ทั้งบริการ สภาพห้อง แถมยังให้ check in ตั้ง 16.00 ไม่แนะนำครับ (โรงแรมทั่วไปจะเช็คอินได้ 14.00)
[CR] ฝันจะไปยุโรป ก็ได้ไป : ฝรั่งเศส-สวิสเซอร์แลนด์-อิตาลี : Episode 2 ไปแตะขอบฟ้าที่สวิตเซอร์แลนด์
- ประเทศที่บ้านเมืองสวยงามราวกับเทพนิยาย สวิสเซอร์แลนด์มีพื้นที่มากกว่า 70% เป็นเขตภูเขา คือ เทือกเขาแอลป์ บ้านเรือน มักอยู่บนเชิงเขา ที่มีบรรยากาศ สวยงาม หรือไม่ก็อยู่ริมทะเลสาบสีฟ้า ใสราวกับกระจกแก้ว
- ประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่ทวีปยุโรปกลาง มีประชาชนรวมทั้งประเทศประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ภาษาราชการของสวิสเซอร์แลนด์มีถึง 4 ภาษาด้วยกัน คือ เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และโรมานซ์ ขึ้นอยู่ว่าเมืองไหนอยู่ใกล้พรมแดนอะไร ถ้าใกล้พรมแดนฝรั่งเศสคนสวิสเมืองนั้นก็จะพูดฝรั่งเศส ถ้าใกล้เยอรมันก็จะพูดเยอรมัน
- มียอดเขาสูงกว่า 100 แห่ง และส่วนมากก็สูงใกล้เคียงหรือมากกว่า 4,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะยอดเขาที่เป็นหมุดหมายของคนทั่วโลก ได้แก่ Jungfraujoch , Schilthorn , Pilatus และ Alalin (Saas Fee) อากาศบนยอดเขาสูง จะหนาวเย็นกว่าที่ข้างล่างมาก
- ระบบการคมนาคมขนส่ง และการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวทำได้ยอดเยี่ยม มีทั้งเส้นทางรถไฟและเคเบิลคาร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวสวิสและนักท่องเที่ยว
- ด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นภูเขา จึงทำให้อากาศของสวิสเซอร์แลนด์นั้นเย็นสบายตลอดทั้งปี ฤดูร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ฤดูหนาวจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม และฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม
ทริปนี้ดูเผิน ๆ เหมือนผมใช้สวิสเซอร์แลนด์เป็นทางผ่านหลังจากเที่ยวเสร็จจากฝรั่งเศส เพื่อแวะพักก่อนไปสู่อิตาลี แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เป็นแค่ทางผ่านเลย สวิสเซอร์แลนด์เป็นประเทศระดับเกรด A+ ในการท่องเที่ยว เป็นสุดยอดของประเทศในฝัน มีทุกอย่างที่สวยงาม เกินจะบรรยายจริง ๆ
ทริปนี้แผนการเดินทางของผมในสวิสฯ เป็นดังนี้ครับ
1. ออกจาก Paris นั่งรถไฟไปเที่ยวที่ Bern เดินเล่นชิลล์สบาย ๆ ที่เมืองเบิร์น ขึ้นไปดูยอดเขาจุดสูงสุดของเมือง
2. จากเบิร์นเราไม่นอนค้าง นั่งรถไฟต่อไป Interlaken นอนค้างที่ Interlaken
3. เช้าวันถัดมา นั้งรถไฟและกระเช้า ไปขึ้นเขา Murren เดินเล่นบนภูเขา ลงมานอน Interlaken อีกคืน (วันนี้เป็น Hi-light ของหลายวันในสวิสฯ ที่ชอบมากที่สุดเลยครับ ทางเดินและหมู่บ้านบนยอดเขาสวยงามตื่นตาตื่นใจจริง ๆ)
4. เช้าวันต่อไป นั่งรถไฟจาก Interlaken ไป Luzern เดินเล่นในเมือง นอนค้าง Luzern 1 คืน ก่อนที่จะเข้าอิตาลีที่ Venezia
ทริปนี้จริง ๆ แล้ว ยังเที่ยวสวิสฯ ไม่หนำใจเลยครับ ก็คิดกันไว้แล้วว่ามาคราวหลังต้องมาสวิสฯ ให้ครบกว่านี้ เที่ยวนี้มีเวลาไม่มาก แต่ก็ได้สัมผัสถึงความสวยงามของสวิสเซอร์แลนด์จนประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งกระเช้าไปชมภูเขาหิมะ เดินเล่นตรงทางเดินลัดเลาะไปตามเทือกเขา สวยงามสุดบรรยาย กระท่อมเล็กบนภูเขาน่าใช้ชีวิตอยู่มาก ๆ นั่งเรือล่องไปตามทะเลสาบ เห็นบ้านคนสวิสฯ ที่อยู่ริมทะเลสาบแล้วอิจฉาเหลือเกิน และในยามนั่งรถไฟผ่านไปตามทาง ผ่านเมือง ฝ่านทุ่งปศุสัตว์ ก็จะพบว่าประเทศอะไรหนอช่างน่าอยู่ บ้านเมืองสวยงามสงบเป็นระเบียบไปหมด เมืองโบราณที่แวะเที่ยวอย่างเบิร์นและลูเซิร์นก็ควรค่าทุกประการกับการเป็นเมืองมรดกโลก
การเดินทาง
เริ่มต้นเรานั่งรถไฟเที่ยวเช้าตรู่ ออกจากปารีส เพื่อจะไปเปลี่ยนเป็นรถไฟสวิสฯ ที่เมือง Neuchatel
เป็นรถไฟระหว่างประเทศ จองตั๋วล่วงหน้า ใบละ 70 Euro (รวมที่ไป Bern ด้วย)
จากเมือง Neuchatel ต่อรถไฟเข้า Bern
เที่ยว Bern แล้วจับรถไฟเที่ยวเย็น ไป Interlaken ทันที นอน Interlaken 2 คืน แล้วนั่งเรือล่องทะเลสาบ Brienz เพื่อไปนอน Luzern
โรงแรมที่พัก
นอน Interlaken 2 คืน เป็นห้อง dorm room โรงแรมสวิสฯ แพงมาก ๆ ถ้าไม่นอน dorm แล้วล่ะก็ไม่ไหวจริง ๆ แต่โรงแรม Alplodge ที่ Interlaken ดีมาก ๆ ครับ โรงแรมสะอาด ทำเลเยี่ยม ไม่ไกลจากทางรถไฟ ผมพักห้อง dorm แบบ 4 คน ห้องดีมาก ๆ สะอาด กว้างพอสมควร วิวโรงแรมเป็นภูเขา อาหารเช้าก็ดีเยี่ยม แถมพื้นที่ส่วนกลางก็กว้างขวาง มีมุมพักผ่อน มีครัวให้ทำอาหาร ใครไป interlaken แนะนำโรงแรมนี้เลยครับ รับประกัน
ที่ Luzern ผมพัก โรงแรม Lion Lodge Luzern ดีอยู่อย่างเดียว ทำเลใกล้รถไฟฟ้า นอกนั้นไม่ค่อยดีครับ ทั้งบริการ สภาพห้อง แถมยังให้ check in ตั้ง 16.00 ไม่แนะนำครับ (โรงแรมทั่วไปจะเช็คอินได้ 14.00)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้