สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การผ่าไฝของเราเอง นี้เป็นรีวิวครั้งแรกของเราเลยค่ะ ไม่มีสปอนเซอร์นะคะ จ่ายเองหมด รีวิวตามประสบการณ์จริงที่ได้รับหมดค่ะ ขออธิบายให้ละเอียดและหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ ก่อนหน้านี้เราพยายามหารีวิวที่ใหม่ๆ เจอปีล่าสุดคือนานมาก เราเลยคิดว่าเราต้องรีวิวบ้างแล้ว 
     เรามีไฝใต้คางด้านขวามาตั้งแต่เกิด เป็นไฝนูน ขนาดประมาณ 1 ซม (ค่อนข้างใหญ่) มีรากที่ค่อนข้างลึกและมีขนขึ้นด้วย ซึ่งหลายคนเชื่อกันว่าเป็นไฝเสน่ห์ แต่ส่วนตัวเรา เรามองว่าเป็นทางกายภาพและเสน่ห์อยู่ที่ตัวเรามากกว่า เราและที่บ้านเลยไม่ซีเรียสเรื่องนี้ เราให้ความสำคัญกับความมั่นใจและบุคลิคภาพมากกว่า เราตัดสินใจบอกลาน้องไฝเพื่อนรัก ก็เพราะว่าเราอยากมีบุคลิกที่ดีขึ้นและมั่นใจมากขึ้น แต่บอกตรงว่าเราเองก็แอบใจหายนิดๆ เพราะน้องอยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด

ก่อนหน้านี้เราอยู่ต่างจังหวัดเคยไปปรึกษาหมอโรงพยายาลที่แถวบ้าน  ตอนนั้นคุณหมอบอกว่าไฝเราไม่ใช่ไฝมะเร็ง แต่เพราะไฝขนาดใหญ่มาก อาจจะทำให้เป็นแผลเป็นและอาจเป็นหลุม รวมถึงโรงพยาบาลตอนนั้น ไม่มีหมอที่เย็บแผลสวยๆเหมือนโรงพยาบาลศัลยกรรม เราเลยอดทนรอจนกว่าจะเจอโรงพยาบาลที่เชี่ยวญชาญด้านนี้ดีกว่า และด้วยความที่ไฝเราใหญ่คลินิกความงามส่วนใหญ่จะไม่รับจี้ไฝให้เรา เพราะรากลึก
       หลังจากรอเวลามานาน เราก็ได้โอกาสเหมาะ เราเลือก “ โรงพยายาบาลยันฮี” โรงพยาบาลที่หลายคนรู้จัก ก่อนการเข้ารับการรักษา เราหาข้อมูล ค่าใช้จ่าย การเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี อย่างที่ทราบว่าราคาของที่นี่ค่อยข้างแรง อยากให้ทุกคนศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบและตัดสินใจดีๆ มาค่ะ เลิกอ้อมค้อมละค่ะ มาที่ขั้นตอนการติดต่อเลยค่ะ 

       ขั้นตอนที่ 1 จากการหาข้อมูล พบว่าราคาแค่ละคนไม่เท่ากันและต้องจองคิวด้วย เราก็เลยเข้าไปหาข้อมูลในเว็บของโรงพยาบาล https://th.yanhee.net/ หรือใครสะดวกโทรสอบถามก็ได้ที่ เบอร์ 02-879-0300 , 02-423-7900 /call center 1723 / Line@yanheehospital / Face book:  โรงพยาบาลยันฮี Yanhee Hospital

       ส่วนเราเข้าเว็บและไปที่ Live Chat กรอกชื่อ-เบอร์-อีเมลและเริ่มสนทนากับแอดมินได้เลยค่ะ เราสอบถามเรื่องราคาก่อนจึงทางแอดมินแจ้งว่า ไฝเราไฝนูนราคาจะเริ่มประมาณ 6500 บาท ค่าบริการ 250 ซึ่งเราเองถามย้ำว่าเป็นราคา net ไหม แอดมินตอบว่าราคาประเมินเบื้องต้น ส่วนราคาแท้จริงจะทราบหลังจากพบหมอ ซึ่งเราตั้งงบไว้ ไม่เกิน 12000 บาท

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใครที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เลื่อดูด้านล่างได้เลยค่ะ 


พอได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว เราก็ทำการนัดหมายเพื่อพบแพทย์กับแอดมินทาง live chat เลย สะดวกมาก ซึ่งแอดมินแนะนำว่าแพทย์จะเข้าตรวจ 09.00-11.00 และเข้าห้องผ่าตัด ช่วงบ่าย เพราะฉะนั้นควรนัดเป็นวันที่ว่างทั้งวันนะคะ เผื่อผ่าวันเดียวกันเลย พอนัดหมายแล้วก็รอเจ้าหน้าที่คอนเฟิร์มและตอบคำถามเกี่ยวกับโควิดก็เป็นอันเสร็จ 

2. ถึงวันนัดเรานัดหมอวันอาทิตย์เพราะเราว่างทั้งวัน เวลา 10.00 เราไปก่อนเวลานัดประมาณ 45 นาที เพราะบ้านเราอยู่ค่อนข้างไกล (มีเพื่อนไปเป็นกำลังใจด้วยก็ได้นะ) การเดินทางสามารถใช้ mrt สายสีน้ำเงิน ไปลงสถานีบางอ้อได้เลยนะ สถานีอยู่หน้าโรงพยาบาลเลย เดินไม่ถึงนาทีก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว สะดวกและรวดเร็วราคาก็ไม่แพง ลงจากสถานีเดินมาที่ตึกนี้เลย ตึกแรกตั้งเด่นชัดเลย

3. พอเข้ามาแล้วให้ไปที่ตึกรพ. ให้ไปติดต่อที่แผนกบริการลูกค้าชั้น 1 เคาน์เตอร์ตรงกลางด้านหน้า เปิดประตูมาเจอเลยบริเวณประตูทางเข้าหน้าตึกรพ. และแจ้งจนท.ว่าได้ทำนัด ผ่านทาง Live Chat เรียบร้อยแล้ว มีจนท.รอบริการเยอะมากและสามารถทำประวัติได้เลยไม่นานค่ะ

หลังจากทำประวัติแล้ว จนท.ก็จะให้ทำบัตรโรงพยาบาลให้และให้ไปนั่งรอจนท.ที่พาขึ้นไปแผนกศัลยกรรมตกแต่งที่บริเวณหน้าลิฟต์ จะมีโซฟาให้นั่งสบายเลย 

4. นั่งรออยู่ซักพักนึงก็มีจนท.เดินมาเรียกชื่อละพาเราขึ้นไปชั้น 4  แผนกศัลยกรรมตกแต่ง แผนกนี้คนเยอะนะจะอยู่ตรงข้ามกับแผนกจักษุ พอมาถึงชั้น 4 แล้ว จนท.จะพาเข้าไปยื่นเอกสารให้พยาบาลที่จุดคัดกรองจุดที่ 1 และให้นั่งรอพยาบาลเรียก รอไปซักก็ถึงเวลาเรียกเรา สอบประวัติ อธิบายว่าถึงขั้นตอนการ เข้าพบแพทย์และจากนั้นก็นั่งรอเข้าห้องตรวจเพื่อพบแพทย์ได้เลย ของเราไปเช้าแต่รอคิวค่อนข้างนานเลย

5. นั่งรอพบแพทย์ที่บริเวณหน้าห้องตรวจ ซึ่งเราได้ห้องที่ 15 ถึงอยู่โซน 2 เรารอนานพอสมควร ช่วงนี้เราเลยเดินไปสอบถามโปรโมชั่นประจำเดือนกับการเงิน จะได้ไม่เสียเวลาและอาจใช้ประกอบการตัดสินใจได้เร็วขึ้นหลังจากพบแพทย์ หลังจากรอซักพักก็ได้เวลาเข้าห้องตรวจ จะมีพยาบาลเรียกชื่อได้ยินชัดเจน พาเดินประกบไปนั่งรอหน้าห้องหมอเลย 

เราได้ตรวจกับคุณหมอดวงกมล คุณหมอน่ารักมาก เป็นกันเอง เข้าห้องหมอก็ขอดูไฝเลย พอหมอเห็นก็บอกเลยว่าไฝใหญ่มาก ต้องผ่าและมีโอกาสที่แผลจะปริสูงมาก เพราะตำแหน่งไฝเราอยู่บริเวณที่กระดูกคางพอดี และด้วยความที่ยังอายุไม่เยอะหน้าเราจะตึง เพราะฉะนั้นถ้าผ่าแล้วจะรู้สึกว่าแผลตึงและอาจดึงจนรู้สึกปากเบี้ยวเล็กน้อยและน่าจะใช้เวลากว่า 2 อาทิตย์แผลถึงจะหาย ตอนแรกเราฟังแล้วก็ตกใจ แต่ก็คิดว่าถ้าไม่ทำที่นี่แล้วจะทำที่ไหนละ อยากให้ฟังคุณหมออธิบายให้เข้าใจ สงสัยสามารถถามหมอได้เลยนะคะ

 จากนั้นหมอก็แจ้งราคามาว่า เคสเราจะอยู่ที่ 10,500 บาท รวมค่ายา+ค่าบริการก็จะอยู่ที่ 10,750 บาท ไม่รวมส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ ซึ่งเราก็ตกลงทำแบบไม่ส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ เพราะเราเคยไปตรวจมาแล้วทราบว่าไม่ใช่ไฝมะเร็งเลยไม่ตรวจ ส่วนใครที่จะส่งชิ้นเนื้อตรวจ ถ้าจำไม่ผิดจะราคาประมาณ 2000 บาท (ไม่ชัวร์) จากนั้นหมอก็อธิบายว่าจะผ่าตัดอย่างไรบ้างและนัดเวลาเลย ในวันเดียวกันช่วงบ่าย พอพบหมอเสร็จพยาบาลก็พาเราออกจากห้องตรวจแลแจ่งขั้นตอนต่อไปกับเราเลย ว่าเราต้องเซ็นเอกสารการผ่าตัดและนัดเวลาผ่าพร้อมกับ และไปนั่งรอที่บริเวณหน้าห้องตรวจ หรือจุดที่ 3 จุดที่เซ็นเอกสาร

6.นั่งรอพัก พยาบาลก็เรียกไปเซ็นเอกสาร อธิบายการผ่าตัดแบบใช่ยาชา และขั้นตอนต่างๆ พร้อมนัดเวลาผ่า ประมาณ 12.45 พอเซ็นเอกสารเสร็จเราก็ ไปรอจ่ายตังค์ (แอบกระซิบว่าต้องจำชื่อคุณหมอที่จะผ่าตัดและรายละเอียดการผ่าตัดที่หมออธิบายด้วยนะคะ)

7.รอแปปเดียวเจ้าหน้าที่ก็เรียกชื่อไปจ่ายตังค์ที่ช่องชำระเงินผู้ป่วยนอก ซึ่งทางโรงพยาบาลรับแบบเงินสดและบัตรเครดิต และพอดีเราเจอโปรโมชั่น 0% 6 เดือน ของทางโรงพยาบาลมาจากทางเว็บไซต์ เราก็เลยแจ้งจนท.ว่าจะใช้โปรนี้ ใครเตรียมเงินมาไม่พอ ทางโรงพยาบาลมีตู้ ATM กรุงศรีอยู่บบริเวณโถงลิฟต์ค่ะ ไม่ต้องกังวลได้เสียเงินแน่ค่ะ (หยอกๆ)

***ค่าเสียหายอยู่ที่ 10,750 บาท ***
ค่าบริการโรงพยาบาล 250.-
ค่าชุดบริการเวชปฎิบัติ 8000.-
ค่าบริการศัลยกรรมตกแต่ง ไฝเม็ดเล็ก 2500.-

 เหลือเวลาอีกเยอะ เราก็เลยบอกพยาบาลว่าจะไปทานข้าว ทานเสร็จให้กลับมาติดต่อพยาบาลที่เดิมได้เลยนะคะ

8.ทานข้าวเสร็จเราก็มาติดต่อจุดที่ 3 แจ้งชื่อกับจนท. และให้ฝากของมีค่ากับญาติได้เลย เครื่องประดับหรืออุปกรณ์ที่เป็นโลหะห้ามนำเข้าห้องผ่าตัด รวมถึงนาฬิกา มือถือด้วย ฝากให้หมดนะคะ ใครไปคนเดียวสามารถฝากของได้ที่จุดฝากของข้างห้องการเงิน (ส่วนเรามีเพื่อนไปด้วย เพื่อนก็รับบทเดอะแบกไปเลยสิคะ) ฝากของเสร็จพยาบาลก็พาไปที่จุดรอเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งจะอยู่ขวามือสุด ใครที่มีญาติมาด้วย นั่งรอ นอนรอได้นะ มีปลั๊กไปให้ชาร์ตแบตเพียบเลย ชิลมาก

9. นั่งรอไปซักพัก พยาบาลก็เดินมาเรียกเข้าไปห้องที่ 4 ห้องเตรียมตัวผ่าตัดค่ะ พยาบาลให้สวมชุดคลุม หมวกคลุมผม เปลี่ยนรองเท้า และให้สวมสายรัดข้อมูลผู้เข้าผ่าตัด จากนั้นให้ล้างหน้า (แอบประทับใจสบู่ล้างหน้ามาก ไม่รู้มีขายมั้ยนะ555) บ้วนปาก และทำความสะอาดรูจมูก จากนั้นก็ไปจุดซักประวัติเล็กน้อย และให้เรานั่งเก้าอี้นุ่มๆดูทีวีรอเรียกเข้าห้องผ่าตัด ชิลๆค่ะ แนะนำให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะคะ 

10.นั่งดูทีวีอยู่ซักพักพยาบาลก็เรียกเข้าห้องผ่าตัด ไปไม่ลึกมากค่ะ เป็นห้องขนาดเล็กไม่ใหญ่ เข้าไปแล้วพยาบาลก็ให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล และให้นอนรอหมอ ห่มผ้าที่ขา ผ้าปกหน้าเหลือช่องเฉพาะบริเวณที่จะผ่า และเอาผ่าปิดตาและทำการทายาฆ่าเชื้อที่บริเวณหน้าก่อนการผ่าตัดด้วยค่ะ และย้ำว่าห้ามเอามือไปสัมผัสเด็ดขาด จากนั้นก็เอาเจลเย็นๆมาแปะที่ต้นขา เพราะต้องจี้รากไฝด้วย แต่สบายดีค่ะ แต่ตอนนี้บอกว่ารอหมอนานมากกกกกกกกกกก เราหลับแล้วหลับอีก เข้าห้องผ่าตัดประมาณ 13.30 ได้ผ่าจริงๆประมาณ น่าจะบ่าย 2 กว่า เพราะหมอน่ะติดเคสก่อนหน้าเสร็จเกือบบ่าย 3 โมง

11. การผ่าตัดใช้เวลาแปปเดียวจริงๆค่ะ 
- หมอจะฉีดยาชาให้ก่อน ซึ่งเต็มโดสเลยค่ะ เจ็บมากเฉพาะตอนฉีดยาชา อยากให้นึกภาพโดนฉีดนี้เข้าผิวหนังเต็มๆเลยค่ะ ปวดสุดๆ แต่แปปเดี่ยวค่ะ ทนได้เพราะเราค่อนข้างทนเจ็บได้ดี 

-หลังจากฉีดยาชายาก็ออกฤทธิ์เลยค่ะ เราแอบลืมตามเห็นหมอเอามีดผ่าตัดมากรีด รู้สึกถึงการสั่นสะเทือน แต่ไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะ จากนั้นก็รู้สึกกว่าหมอดึงเนื้อและกรีดช่วงด้านล่างฐานไฝ จากนั้นหมอก็ใช้ที่จี้มาจี้ค่ะ ได้กลิ่นไหม้มจนต้องกลั้นหายใจเพราะมันอยู่ใต้จมูกเลยค่ะ มันเหม็นไหม้มาก ทนไม่ได้ แสบจมูก และหมอก็ทำการเย็บค่ะ เรารู้สึกว่าหมอเย็บนานมาก ละเอียด เย็บไป 7 เข็ม บรรยากาศในห้องผ่าตัดชิลมากค่ะ หมอพยาบาลเม้ามอยกันสนุกมาก
พอเสร็จแล้วเราพยาบาล ทำความสะอาดหน้าให้ ก็ติดพลาสเตอร์กันน้ำให้ และก็รับแมสออกจากห้องผ่าตัดค่ะ เสร็จเรียบร้อย พยาบาลโชว์ไฝที่ตัดออกให้เราดู เราอึ้งมาก มันกลม ใหญ่อย่างที่เราคิดเลย และนี่คือไฝที่เราเอาออกค่ะ น้องยังนุ่มนิ่มเหมือนตอนอยู่บนหน้าเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพอาจจะน่ากลัวหน่อยนะคะ

12.ออกจากห้องผ่าตัดก็มาที่เคาร์เตอร์พยาบาลเพื่อเปลี่ยนชุด พยาบาลก็ถือรองเท้ามาให้เปลี่ยนถึงที่เลย แล้วก็อธิบายถึงวิธีการดูแลแผล และยาที่จะได้รับ ซึ่งพยาบาลแนะนำว่าล้างหน้าได้ปกติ  ให้ปิดแผลซัก2-3 วันและหลังจากนั้นจะมียาหลอดให้ทาทุกวัน จากนั้นก็ให้บัตรนัดมาตัดไหม อีก 1 สัปดาห์
13. อธิบายเสร็จก็มีพยาบาลพาเราไปที่ห้องรับยาที่ติดกับห้องการเงิน นั่งรอไม่ถึง 3 นาทีเภสัชก็เรียกรับยาและอธิบายการทานยา ทวนการดูแลแผลอีกรอบ รับยาเสร็จก็นั่งแท็กซี่หน้าโรงพยาบาลกลับบ้านสวยๆค่ะ 

สรุปค่าเสียหายวันนี้ 10,750 บาทค่ะ 

และนี่เป็นหลังจากตัดไหมคะ และแผลใน 2 วีค

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ[img]http