Rok Možič สุดยอดดาวตบของทีมชาติสโลวีเนีย



“ผมเลือกเลข 9 เพราะพ่อของผมเขาสวมหมายเลขนี้ซึ่งผมก็ชอบด้วย น่าเสียดายที่เลข 9 ในทีมชาติตกเป็นของ Vinčić ไปแล้ว เขาแซวผมว่า เสียใจด้วยไอ้น้องเบอร์ 9 เป็นของฉันแล้ว นายไม่ได้มันไปหรอก (เสียงหัวเราะ ) ผมตอบกลับไปว่าไม่มีปัญหาหรอกพี่ชาย ผมได้เบอร์ 19 แล้ว แม่ผมเคยสวมหมายเลข 1 ส่วนพ่อผมสวม เลข 9 และผมเป็นส่วนผสม 1 กับ 9 ผมเลือกเบอร์นี้แหล่ะ 19 ไม่เอาเบอร์อื่น "เขาพูดถึงเหตุผลที่เขาชอบเลข 9

ในการให้สัมภาษณ์ เขาได้พูดถึงบทบาทกีฬาแห่งชีวิตในเวโรนา

เขาเล่าว่า

“ก่อนจะเดินทางไปเวโรนา ผมมีความกลัวอยู่บ้างว่าผมจะไปใช้ชีวิตในต่างประเทศคนเดียวในปีแรกได้อย่างไร ห่างไกลจากบ้าน อยู่ตามลำพังในเมืองที่ไม่รู้จัก แต่ผมคุ้นเคยกับสนามวอลเลย์บอลแห่งใหม่อย่างรวดเร็ว”  โมสิค กล่าว

“ในภาษาอิตาลี พูดได้เลยว่าผมเข้าใจเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะในด้านวอลเลย์บอล ผมเรียนรู้คำศัพท์เร็วมาก ผมเข้าใจบางสิ่งก่อนที่จะย้ายไปอิตาลีเมื่อ Giuliani เป็นผู้เลือกผม ผมสามารถสื่อสารได้ แน่นอนว่าภาษาอิตาลีของผมไม่คล่องแคล่วนัก แต่ก็ไปได้ บางครั้งก็นึกคำศัพท์ไม่ออก ถ้ามันเกิดขึ้น มันยากที่จะรวบรวมประโยคในภาษาอิตาลี มันแตกต่างออกไป”

“ถ้าคุณฟังใครสักคนแล้วคุณเข้าใจในคำศัพท์คำเดียว คุณยังสามารถตีความสิ่งที่กำลังพูดคุยกันได้ แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจคำศัพท์เลยในระหว่างการพูด มันจะยากกว่ามาก สุดท้ายแล้วก็ต้องมาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ผมก้าวหน้าไปมากในภาษาอิตาลีอย่างแน่นอน ผมดีใจที่แม้ตอนนี้ผมสามารถฝึกภาษาอิตาลีได้นิดหน่อยในทีมชาติ กับโค้ชอีกคน ผู้ฝึกสอนในฟิตเนส และนักกายภาพบำบัด ผมเชื่อว่าผมจะพูดได้ดีขึ้นในทุกปี”


“และผมมาสอบใบขับขี่ ... (หัวเราะ) พวกเขาบอกว่าการสอบใบขับขี่ในอิตาลีนั้นง่ายมากเพราะคุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่ปัญหาคือผมทำการทดสอบ CPP ในสโลวีเนีย แต่การทดสอบเหล่านี้ใช้ไม่ได้ที่อิตาลี”

“ผมตัดสินใจไปสอบที่สโลวีเนีย ดังนั้นทุกวันว่างๆ เมื่อเราไม่มีภาระฝึกซ้อมกับทีมชาติ ผมใช้เวลาไปฝึกขับรถ ผมใช้เวลาสองหรือสามชั่วโมง ตอนนี้ผมสามารถขับรถไปได้ถึง 11 ชั่วโมง มาดูกันว่าผมจะไปได้เร็วแค่ไหน แต่ผมหวังว่าจะสอบผ่านภายในเดือนสิงหาคม และนั่นคือเป้าหมายของผม”

“พูดถึงชีวิตในอิตาลี อย่างไรก็ตามผมคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่อย่างรวดเร็ว บ้านวอลเลย์บอลใหม่ การใช้ชีวิตในต่างประเทศด้วยตัวเอง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่คนเดียวและปรับตัว แน่นอนว่ามันจะไม่ง่ายขนาดนั้นถ้าผมไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีจากทีม ตั้งแต่โค้ชไปจนถึงเพื่อนร่วมทีม พวกเขาเป็นกลุ่มที่ดีจริงๆ”

“Asparuh เป็นคนแรกที่ช่วยเหลือผม เข้ากันได้ดีจริงๆ ผมรู้สึกขอบคุณเขามากที่เขาแนะนำผมให้รู้จักทุกอย่าง ไม่เพียงแต่ในวอลเลย์บอล แต่ยังรวมถึงในเมืองด้วย เขาพร้อมเสมอสำหรับช่วยเหลือผม”

“เมื่อผมได้เข้าร่วมทีมใหม่ ผมไม่รู้อะไรเลย ผู้เล่นที่เหลือทำงานอย่างไร ? ใครมีครอบครัว ? ใครมีแฟน? ใครโสด ?ใครชอบออกไปเที่ยว ? ผมต้องใช้เวลาในการคิดออกว่าใครกำลังทำอะไร. ดังนั้นผมจึงเริ่มเข้าใจดีขึ้นและเข้ากับ (Serb Uroš ) Nikolić เพราะภาษาด้วย ในที่สุดผมก็ออกไปเที่ยวกับเขามากขึ้น”

** ต้องทำอาหารเองในอิตาลี

“ในที่นี่ ทุกคนมีห้องอพาร์ตเมนต์เป็นของตัวเอง บางคนอาศัยอยู่กับครอบครัว บางคนอยู่กับผู้หญิง(แฟน)  ผมอยู่คนเดียว”

“แน่นอนผมต้องฝึกทำงานบ้านเอง ปกติแล้วแม่ผมจะเป็นคนซักผ้าและดูแลเรื่องเสื้อผ้าให้ แต่ผมไม่เคยมีปัญหาใหญ่ๆ กับการซักผ้าและรีดผ้าเลย ปัญหาคือผมไม่เคยทำอาหารมาก่อน ในคลับเรามีอาหารให้สองมื้อต่อวัน แต่ในระหว่างนี้ บางครั้งผมก็ทำอาหารบางอย่างด้วยตัวเอง”



“ผมก็พอรู้ พาสต้า และคาโบนาโร่ “

“ในอิตาลี เป็นที่ทราบกันดีว่า ที่อิตาลีโด่งดัง พาสต้า กับพิซซ่า พิซซ่ามีเป็นล้านหน้า ผมไม่เคยเป็นแฟนตัวยงของพิซซ่ามาก่อน (ไม่ชอบพิซซ่า) แต่ที่อิตาลีผมกินมันบ่อยขึ้น มันอร่อยมากจริงๆ แต่คนในคลับบอกผมว่าต้องระมัดระวังหน่อยเกี่ยวกับสิ่งที่ผมกิน เพราะผมชอบกินมาก ดังนั้นผมจึงเพิ่มผักและเนื้อสัตว์มากขึ้น เพื่อไม่ให้พาสต้าและพิซซ่าเข้าครอบงำ” หัวเราะ

“ผมให้ความสำคัญกับอาหารมากขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจะยาก ผมพยายามฝึกทำอาหารให้เป็นอย่างรวดเร็วในวันว่าง ส่วนใหญ่จะฝึกทำในวันหยุดพักผ่อน”

**อิตาลีเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ศิลปะ อาหาร


“ผมชอบเวโรน่ามาก เพราะไม่ใช่สถานที่ขนาดใหญ่ ผมอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ซึ่งใช้เวลาเดิน 10 นาทีไปยังห้องโถงหรือเดิน 15 นาทีไปยังใจกลางเมือง สถานที่ที่ผมต้องการคือใกล้เคียงกัน ส่วนนี้คุ้นเคยกับผมจริงๆ จากอพาร์ตเมนต์ ของผมไปถึง Castelvecchio ที่เรียกกันว่าปราสาทเก่า และไปยังสะพานที่มีทางเดินเลียบแม่น้ำที่สวยงาม”

“เมื่อไปถึงใจกลางเมือง คุณจะเห็น Piazzo Bra เป็นครั้งแรก ซึ่งมีบาร์และเวทีที่มีชื่อเสียงมากมาย มันคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม ผมคิดว่ามันดีมากในฤดูร้อน ตอนที่คอนเสิร์ตกำลังจะเริ่ม ตอนนั้นตัวผมเองเคยเข้าไปข้างในเพียงครั้งเดียวในฤดูหนาวและได้ชม”

“ตอนแรกผมไปช้อปปิ้งและซื้อของที่จำเป็นจริงๆ แต่พอคุณเดินผ่านไปทุกวัน ก็ไม่รู้สึกอะไรพิเศษแล้ว เมื่อผมต้องการรองเท้าผ้าใบ ผมจะไปซื้อ แต่ไม่ใช่นักช้อปตัวยงอะไรขนาดนั้น ถ้าต้องการอะไรก็แค่ออกไปซื้อ”

“ในวันว่าง วันหยุด ผมยังชอบนอนอยู่เลย แม้กระทั่งหลังซ้อม ก็"หมดแรง" ไปซะหมด แต่ก่อนซ้อมแน่นอน ผมดูซีรีย์ ภาพยนตร์ใน Netflix ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวในเวโรนา ผมยังอ่านหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยชอบอ่านมาก่อนก็ตาม”


***ตอนมาอยู่อิตาลีใหม่ๆ ความกลัวต่อสภาพแวดล้อม

“บอกตามตรงผมรักบทบาทนี้  แม้แต่ในการคัดเลือกรุ่นน้อง ผมก็อยากเป็นหนึ่งในผู้นำเสมอ อยากเป็น"ผู้นำ" ของทีม ผู้รับผิดชอบในยามยากโดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะทำสิ่งนี้ สิ่งนั้น” ผมไม่มีปัญหาในเรื่องการรับผิดชอบ ไม่ใช่เฉพาะการอยู่ในเวโรนา แต่ก่อนที่ผมจะย้ายมาปีแรกของผมที่ต่างประเทศ ความกังวลก็คือ ผมไม่รู้ว่าผมจะเล่นในลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้อย่างไร ?ผมจะเล่นได้มากแค่ไหน ?ผมจะเจอทีมแบบไหน?”

“แต่หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่เกม ชัดเจนว่าผมจะได้เป็น “ผู้นำ” ของทีมนี้ ผมสามารถพูดได้ว่าผมคุ้นเคยกับบทบาทนี้อย่างรวดเร็วและพยายามช่วยทีมอย่างสุดความสามารถตลอดเวลา”

“เมื่อมันยากที่สุด ผมรู้สึกดีที่สุด ผมอยากรับผิดชอบในทีมชาติด้วย อย่างไรก็ตาม ผมตระหนักดีว่าถ้าผมจะรับหน้าหน้าที่ตรงนี้ ผมต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน เพราะไม่มีใครจะมอบมันให้กับผมได้ง่าย”

ชีวิตในสนาม และ นอกสนาม

“ผมมีการแข่งขันสูงเสมอในสนาม นอกสนามผมก็แตกต่างจากในสนามเล็กน้อย ผมมองเห็นตัวเองและคนอื่น ๆ ผมคิดว่าผมผ่อนคลายมากขึ้นเป็นคนที่ไม่ได้แบกรับภาระมากเกินไปกับบางสิ่ง”

“ชีวิตนอกสนามของผมแตกต่างในสนาม ผมกระตือรือร้นที่จะชนะเสมอ ในการแข่งขันเต็มไปด้วยพลังงาน เมื่อบางอย่างไม่เป็นไปตามที่ผมต้องการ รู้สึกโกรธ ผมไม่ชอบมัน ผมรู้วิธีจัดการกับความโกรธ เพราะผมต้องการเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างในขณะนั้น”


***ต้องรับมือกับความพ่ายแพ้

“มันไม่ง่ายเลย ล่าสุดในมาริบอร์หรือทีมชาติ ผมชินกับชัยชนะ เมื่อผมมาที่เวโรนา เราพ่ายแพ้สี่ครั้งในทันที ผมยอมรับว่าผมรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยกับเรื่องนั้น เมื่อเราชนะครั้งแรก มันอาจจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่มันไม่ง่าย เราเล่นได้ดี แต่เพราะทีมอื่นดีกว่ามากในแง่ของคุณภาพที่เราไม่สามารถเอาชนะได้ เราแพ้ มันง่ายกว่าเล็กน้อยที่จะรับมือกับความพ่ายแพ้ ในกรณีนี้ อย่างน้อยคุณสามารถพูดได้ว่า “ทีมทุ่มเททุกอย่างที่ทำได้ แต่ฝ่ายตรงข้ามทำได้ดีกว่า “มันแตกต่างออกไปเมื่อคุณเล่นแย่และแพ้”

“ผมไม่เคยชินกับการพ่ายแพ้ ผมไม่ชอบความรู้สึกนี้ ผมอยากชนะเสมอ อย่างไรก็ตาม ผมตระหนักมากขึ้น การแข่งขัน แพ้ ชนะ เป็นส่วนสำคัญของกีฬาที่จะทำให้นักกีฬาแข็งแกร่งขึ้น ยังไงผมก็หวังว่าจะแพ้ให้น้อยลงในปีหน้า”

***ฤดูกาลแรกในลีกอิตาลีที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยคะแนนสูงสุดในบรรดาผู้เล่น SuperLega ทั้งหมด (466) เพิ่มอีก 66 ในการต่อสู้เพื่ออันดับที่ 5 ได้รับรางวัลส่วนบุคคลหลายรางวัล ...

“เมื่อผมมาถึง ผมต้องการพิสูจน์ตัวเองในการฝึกซ้อมครั้งแรก เพื่อแสดงสิ่งที่ผมมี และสิ่งที่ผมไม่มี และสิ่งที่ผมให้ได้ ผมไม่ได้คาดหวังตัวเลขดังกล่าวอย่างแน่นอน ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ผมต้องการเล่นในระดับสูงสุด ผมจะทำให้ดีที่สุด”

“แต่ก็ไม่เป็นไร ฤดูกาลที่น่าสนใจ จากมุมมองของทีม มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ ผมมักจะนำความสำเร็จของทีมมาก่อนความสำเร็จของบุคคล ผมชอบที่จะชนะมากกว่า แม้ว่าผมจะทำแต้มได้ไม่มาก แม้ว่าจะมีใครมาเปลี่ยนผมออกในระหว่างการแข่งขันก็ตาม เมื่อทีมชนะ ผมรู้สึกดีขึ้นในตัวเอง”

“จุดแข็งของผมคือการจู่โจม และการรับ ส่วนการเสริฟยังแย่ ผมเห็นว่ายังมีช่องว่างให้ปรับปรุงอีกมากในการโจมตี “



***ได้ขยายสัญญาไปอีกสองฤดูกาล จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2024/25

“หลายคนในมาริบอร์เมื่อผมตัดสินใจที่จะอยู่ต่ออีกฤดูกาลหนึ่ง ถามผมว่าทำไมผมไม่ย้ายไปทีมอื่นหรือตปท และผมบอกพวกเขาว่า”นี่ไม่ใช่ระดับสำหรับฉัน”

“การตัดสินใจทั้งหมดของผมเป็นไปด้วยดี แต่หลายคนมักจะสงสัยเสมอว่า (ทำไมยังต่อสัญญากับทีมเดิม) ผมยอมรับสัญญาแล้ว ผมไม่รู้หรอกว่า เราจะได้เห็นอะไรเกิดขึ้นอีกจนกว่าจะสิ้นสุดรอบ(ฤดูกาล)นี้ และผมรู้ว่าผมฝันถึงลีกอิตาลีมาโดยตลอด และตอนนี้ผมก็อยู่ที่นี่แล้ว”



“ผมมองทุกอย่างในแง่บวก ผมพยายามเดินช้าๆเสมอ ถ้าผมไปอยู่ในทีมที่ดีที่สุดในปีแรก อะไรก็เกิดขึ้นได้ รวมถึงการไม่ได้ลงเล่นมากด้วย ผมเชื่อว่าอย่างน้อยสองปีที่สวยงามรอผมอยู่ที่นี่ ผมเชื่อว่าผมยังก้าวหน้าได้อีกมาก ทีมก็จะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยซึ่งเป็นความปรารถนาของผมด้วย เราฝันถึงเหรียญเช่นกัน แต่เราก้าวไปทีละขั้น ครั้งแรกในรอบตัดเชือก จากนั้นอาจเป็นรอบรองชนะเลิศ “

*** ฤดูกาลทีมชาติกำลังจะเริ่มขึ้น

“ผมจำได้เกือบตลอดเวลาเมื่อมีคนจากสหพันธ์ส่งข้อมูลนี้ไปยังกลุ่มร่วมของเรา สโลวีเนียและโปแลนด์ ภายในไม่กี่นาที กลุ่มเต็มไปด้วยคำพูดที่กระตือรือร้น ขอบคุณ แรงจูงใจสำหรับชชลโลกมีสูงมาก สโลวีเนียจะอยู่ที่นั่นเป็นครั้งที่สอง”

“น่าเสียดายที่ผมไม่ได้เล่นในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปในประเทศเมื่อสามปีที่แล้ว แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่สวยงามเช่นกัน ผมติดตามดูทีมจากอัฒจันทร์ในฐานะแฟนคลับ ผมได้เข้าชมชิงชนะเลิศที่ปารีสด้วย และตอนนี้ผมจะอยู่อีกด้านหนึ่งในฐานะนักกีฬาในสนาม ดีใจจริงๆ ที่เราจะสู้ต่อหน้าแฟนบอลเจ้าบ้าน เป็นเกียรติอย่างยิ่ง เราต้องขอบคุณที่ความสัมพันธ์และทุกคนที่เกี่ยวข้องขอให้ประสบความสำเร็จ”

“ผมคิดว่าตัวเองควรตั้งเป้าหมายให้สูงเสมอ แม้สูงสุด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วอลเลย์บอลทีมชาติสโลวีเนียได้แสดงให้เห็นว่าทีมนี้เป็นมหาอำนาจยุโรปและระดับโลก ไม่มีทีมชาติอื่นใดที่ได้สามเหรียญจากสี่แชมป์ยุโรปครั้งล่าสุด แม้ว่าพวกเราจะได้สีเงิน แต่ก็มีความแข็งแกร่งและมีความหมายมาก เราสามารถมุ่งเป้าไปที่จุดสูงสุดได้อย่างแน่นอน แต่ผมเน้นย้ำเสมอว่าจำเป็นต้องไปแข่งขันและตั้งเป้าให้สูง”

“เรารู้ว่ามีทีมชาติชั้นนำมากมายจริงๆ อย่างน้อยแปดทีมสามารถคว้าเหรียญรางวัลได้อย่างแน่นอน ถ้าไม่มากไปกว่านั้น การแข่งขันจะดุเดือดจริงๆ นี่จะเป็นชชลครั้งที่สองสำหรับสโลวีเนีย และครั้งแรกสำหรับผม เรายังไม่มีเหรียญ เราทุกคนต้องการมันอย่างแน่นอน เราต้องการแสดงเกมที่ดีที่สุด และเราทราบดีว่าเราเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งสูงสุดอย่างแน่นอน”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่