ผมอายุ 30 หนัก 105 สูง 178
อยากสอบถามผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคหัวใจหน่อยครับ
เริ่มแรกผมมีอาการ แน่นหน้าอก เริ่มจากนิดๆ และค่อยๆ เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่า กินเยอะไป + กรดไหลย้อน
เลยซื้อยากรดไหลย้อนมากิน ก็ไม่ดีขึ้น และก็มีวันหนึ่งผมต้องไปพบลูกค้า แล้วก็ได้ทานกาแฟ เจ้าดังไป แก้วละ100+ ซึ่งปกติ
เป็นคนไม่กินกาแฟ เลยครับเพราะกินแล้วปวดหัวนอนไม่หลับแต่วันนั้น สั่งผิดเมนู ก็เลยจำใจกิน
หลังจากนั้นผลที่ได้คือ หัวใจเต้นผิดจังหวะ แบบ 1 2 3 ......45 6 7 8 9 ......10,11 มันจะหายไปช่วงหนึ่ง
ผมก็กินน้ำเยอะๆ คิดว่าเป็นเพราะคาเฟอีนในกาแฟเล่นงาน ก็ดีขึ้น
รุ่งเช้า ก็ไม่มีอาการหัวใจเต้นสะดุดแล้ว แต่ยังรู้สึกแน่นๆ อยู่ ก็ทำงานตามปกติ พอตกดึก มันเริ่มกลับมาอีกแล้วครับ
เต้นสะดุด ไม่ยอมหยุด นึกขึ้นได้เลยเอานาฬิกา Apple watch มาจับดู ผลที่ได้คือตามภาพเลยครับ
เป็นๆ หายๆ เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ไป ตรวจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ก็ได้ผลเหมือนกันคือเต้นสะดุด แต่ตอนนั้นเป็นช่วงกลางคืน มีแต่พยาบาล ไม่มีหมอสักคน พยาบาลก็ให้ยาลดความดันโลหิตมากิน และกลับบ้าน
รุ่งเช้า อาการก็ยังไม่หาย เลยเดินทางไป โรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคม
หมอก็ ให้ตรวจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจใหม่ (EKG) แต่ครั้งนี้คือตอนนอนไม่สะดุด แต่นั่งถึงจะมีอาการ แพทย์เลยส่งเคสต่อให้พบคุณหมอเฉพาะทางโรคหัวใจ
เลยได้
ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram, Echocardiography)
ก็พบว่า มีภาระหัวใจโต แต่โตแค่ไหนหมอไม่ได้บอก และมีลิ้นหัวใจรั่ว ก็ไม่ได้บอกอีกว่ารั่วห้องไหน แต่หมอบอกว่าไม่เยอะมาก ไม่จำเป็นต้องผ่า
หมอบอกว่า หัวใจห้องล่างบีบตัวได้ไม่ดี อาจจะ เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เลยนัดผมมา
ฉีดสีสวนหัวใจ (Coronary Angiography)
_________________________________
หลังจากทำฉีดสีสวนหัวใจแล้วหมอบอกว่า หลอดเลือดหัวใจไม่ได้ตีบหรือตัน ปกติดีทุกอย่าง เลยนอน ICU 1 คืนและกลับบ้านไปพักอีก 7 วัน
หลังจากกลับมาพักฟื้นที่บ้าน อาการแน่นหน้าอกไม่ได้หายไปเลย ยังคงจุกแน่นลิ้นปี่อยู่ ก็ไปตามนัด
ยาที่ได้มากินที่บ้านมี
1. Carvedilol 6.25 mg วันละ 2 ครั้งเช้าเย็น (ลดความดัน)
2. Aspirin 81 mg วันละ 1 ครั้ง เช้า
3. Ocid 20mg วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น (ลดกรด)
4. Simvastatin 20 mg วันละ 1 ครั้งก่อนนอน (ลดระดับไขมันในเลือด)
แต่อาการ ปวดเค้นหัวใจ ยังเป็นอยู่ตลอดเวลาและ บางทีก็ร้าวมาที่หัวไหลซ้าย หมอบอกว่าให้ ลดน้ำหนักให้เหลือ 75 และกินยาตามที่หมอสั่ง และอาการทุกอย่างจะดีขึ้น ส่วนตัวผมเอง ไม่สบายใจอยู่ 3 ประเด็นคือ
1. ทำไมกินยาไปแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น
2. ลิ้นหัวใจที่รั่วไม่เยอะที่หมอบอก มันจะรั่วเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ หรือเป็นไปได้ไหมว่า หมอตรวจเอคโค่ไม่เจอลิ้นอื่นที่รั่วมากกว่า
3. ที่ยังแน่นๆ อยู่เกี่ยวกับภาวะหัวใจโตด้วยไหม
#ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ปวดเค้นหัวใจไม่หาย แต่ตรวจไม่เจออะไร
อยากสอบถามผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคหัวใจหน่อยครับ
เริ่มแรกผมมีอาการ แน่นหน้าอก เริ่มจากนิดๆ และค่อยๆ เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่า กินเยอะไป + กรดไหลย้อน
เลยซื้อยากรดไหลย้อนมากิน ก็ไม่ดีขึ้น และก็มีวันหนึ่งผมต้องไปพบลูกค้า แล้วก็ได้ทานกาแฟ เจ้าดังไป แก้วละ100+ ซึ่งปกติ
เป็นคนไม่กินกาแฟ เลยครับเพราะกินแล้วปวดหัวนอนไม่หลับแต่วันนั้น สั่งผิดเมนู ก็เลยจำใจกิน
หลังจากนั้นผลที่ได้คือ หัวใจเต้นผิดจังหวะ แบบ 1 2 3 ......45 6 7 8 9 ......10,11 มันจะหายไปช่วงหนึ่ง
ผมก็กินน้ำเยอะๆ คิดว่าเป็นเพราะคาเฟอีนในกาแฟเล่นงาน ก็ดีขึ้น
รุ่งเช้า ก็ไม่มีอาการหัวใจเต้นสะดุดแล้ว แต่ยังรู้สึกแน่นๆ อยู่ ก็ทำงานตามปกติ พอตกดึก มันเริ่มกลับมาอีกแล้วครับ
เต้นสะดุด ไม่ยอมหยุด นึกขึ้นได้เลยเอานาฬิกา Apple watch มาจับดู ผลที่ได้คือตามภาพเลยครับ
เป็นๆ หายๆ เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ไป ตรวจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ก็ได้ผลเหมือนกันคือเต้นสะดุด แต่ตอนนั้นเป็นช่วงกลางคืน มีแต่พยาบาล ไม่มีหมอสักคน พยาบาลก็ให้ยาลดความดันโลหิตมากิน และกลับบ้าน
รุ่งเช้า อาการก็ยังไม่หาย เลยเดินทางไป โรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคม
หมอก็ ให้ตรวจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจใหม่ (EKG) แต่ครั้งนี้คือตอนนอนไม่สะดุด แต่นั่งถึงจะมีอาการ แพทย์เลยส่งเคสต่อให้พบคุณหมอเฉพาะทางโรคหัวใจ
เลยได้ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram, Echocardiography)
ก็พบว่า มีภาระหัวใจโต แต่โตแค่ไหนหมอไม่ได้บอก และมีลิ้นหัวใจรั่ว ก็ไม่ได้บอกอีกว่ารั่วห้องไหน แต่หมอบอกว่าไม่เยอะมาก ไม่จำเป็นต้องผ่า
หมอบอกว่า หัวใจห้องล่างบีบตัวได้ไม่ดี อาจจะ เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เลยนัดผมมา ฉีดสีสวนหัวใจ (Coronary Angiography)
_________________________________
หลังจากทำฉีดสีสวนหัวใจแล้วหมอบอกว่า หลอดเลือดหัวใจไม่ได้ตีบหรือตัน ปกติดีทุกอย่าง เลยนอน ICU 1 คืนและกลับบ้านไปพักอีก 7 วัน
หลังจากกลับมาพักฟื้นที่บ้าน อาการแน่นหน้าอกไม่ได้หายไปเลย ยังคงจุกแน่นลิ้นปี่อยู่ ก็ไปตามนัด
ยาที่ได้มากินที่บ้านมี
1. Carvedilol 6.25 mg วันละ 2 ครั้งเช้าเย็น (ลดความดัน)
2. Aspirin 81 mg วันละ 1 ครั้ง เช้า
3. Ocid 20mg วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น (ลดกรด)
4. Simvastatin 20 mg วันละ 1 ครั้งก่อนนอน (ลดระดับไขมันในเลือด)
แต่อาการ ปวดเค้นหัวใจ ยังเป็นอยู่ตลอดเวลาและ บางทีก็ร้าวมาที่หัวไหลซ้าย หมอบอกว่าให้ ลดน้ำหนักให้เหลือ 75 และกินยาตามที่หมอสั่ง และอาการทุกอย่างจะดีขึ้น ส่วนตัวผมเอง ไม่สบายใจอยู่ 3 ประเด็นคือ
1. ทำไมกินยาไปแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น
2. ลิ้นหัวใจที่รั่วไม่เยอะที่หมอบอก มันจะรั่วเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ หรือเป็นไปได้ไหมว่า หมอตรวจเอคโค่ไม่เจอลิ้นอื่นที่รั่วมากกว่า
3. ที่ยังแน่นๆ อยู่เกี่ยวกับภาวะหัวใจโตด้วยไหม
#ขอบคุณล่วงหน้าครับ