เช้าวันหนึ่งของช่วงกลางเดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ จู่ๆเจ้านายก็โทรมาบอกว่า วันนี้ผมให้คุณหยุดงาน ๑ วันนะ ผมได้แต่ตอบรับว่า “ครับๆ” แต่หลังจากวางสายเจ้านายลง พลันก็ต้องตื่นลืมตาโพลงขึ้นมาทันที กระวีกระวาดลุกจากที่นอนแล้วไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เพราะนึกขึ้นได้ว่า รับปากกับพระเดชพระคุณที่วัดสระเกศฯว่า จะเขียนสารคดีเรื่องศาลเจ้าในประเทศไทยให้ท่านได้อ่าน แว่บแรกเกิดขึ้นในหัวคือ ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ที่อยู่ภายในวัดพนัญเชิง พระนครศรีอยุธยา
ว่าแล้วก็ขับรถบึ่งไปทันที พอไปถึงก็เป็นเวลาเกือบ ๑๐ โมงแล้ว แดดเริ่มร้อนเปรี้ยงๆ แม้จะเป็นฤดูฝนที่วันใดฝนไม่ตก ก็กลายเป็นฤดูร้อนแทนทันที
คว้ากล้องได้ก็มุ่งตรงๆไปที่ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากทันที กดชัตเตอร์กล้องเก็บภาพภายนอกหลายมุม พอเดินเข้าไปในศาลเจ้า กลับรู้สึกเกิดความสงบขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด อากาศที่ร้อนก็ร่มเย็นขึ้นทันที ผมจึงเดินถ่ายรูปภายใน แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน เห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งมาไหว้ เลยถามว่า น้องขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม (ตามกฎหมาย PDPA เป๊ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนถ่ายเลยไม่ขอหรอก) แต่น้องผู้ชายบอกว่า ไม่เป็นไรครับพี่ ...โอเค ไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายครับ
จากนั้น ก็เดินเก็บภาพบรรยากาศไปเรื่อยๆ จนลงมาข้างล่าง เจอพี่ผู้หญิงท่านหนึ่งที่ดูแลศาลเจ้า เลยสอบถามว่า ถ้าอยากได้ประวัติของเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก เพื่อมาเขียนสารคดี พี่สาวบอกว่าภายในโบสถ์วัด พนัญเชิง ก็มีให้แสกนคิวอาร์โค้ดได้แล้ว โอว...ทันสมัยด้วย แต่ผมไปเดินดูกลับหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหรือไม่ เพราะไม่ได้ไปวัดพนัญเชิงนานแล้ว และตอนนี้ที่วัดก็จัดการจราจรการเดินใหม่ให้เดินตามลูกศรที่ทางวัดทำไว้ ไม่ใช่เดินสะเปะสะปะเหมือนเมื่อก่อน
ถึงอย่างไรก็ไม่เกินความสามารถที่จะหาประวัติของเจ้าแม่สร้อยดอกหมากหรอกครับ ขอเขียนเล่าประวัติคร่าวๆของท่านให้เพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้ได้รับทราบกันสักหน่อยครับ
“...ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักนอกกำแพงแก้วด้านเหนือของเขตวัดพนัญเชิง เป็นศาลเจ้าจีน จากพระราชพงศาวดารเหนือ ทำให้ทราบว่า พระนางสร้อยดอกหมากเป็นบุคคลสำคัญ การสิ้นพระชนม์ ทำให้พระเจ้าสายน้ำผึ้งสถาปนาพระอาราม ตั้งชื่อว่า วัดพระเจ้าพระนางเชิง (น่าจะเรียกเป็นวัด พนัญเชิงในปัจจุบัน-ความคิดผู้เขียน) ณ บริเวณพระราชทานเพลิงพระศพ ส่วนศาลเจ้านั้นสันนิษฐานว่าคนไทยเชื้อสายจีนสร้างขึ้น ก่ออิฐถือปูนประดับลายปูนปั้นเป็นรูปเทวดา สัตว์มงคล และภายในสวรรค์ตามความเชื่อเพื่อถวายเป็นที่สถิตของพระนางสร้อยดอกหมาก เรียกศาลนี้ว่า ศาลเจ้าแม่อาเนี้ย เป็นอาคาร ๒ ชั้น เดิมชั้นล่างเป็นพื้นที่ว่าง ชั้นบนเป็นที่ตั้งแทนบูชาพระนางสร้อยดอกหมาก และจัดตั้งสมอเรือที่งมได้จากแม่น้ำหน้าวัด ซึ่งผู้เชื่อว่าเป็นสมอเรือของเรือสำเภาที่พระนางสร้อยดอกหมากประทับมา ปัจจุบันพื้นที่ชั้นล่างเป็นที่ตั้งแท่นบูชารูปเจ้าแม่สร้อยดอกหมากจำลอง และเทพในนิกายมหายาน....”
ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากเป็นที่เคารพนับถือและศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นอย่างมาก ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศในประเทศไทยเดินทางมาขอพรท่านทุกวัน
หลังจากไหว้ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากแล้ว ก็เดินสำรวจบริเวณรอบๆ เก็บภาพสวยๆมาฝากทุกท่านให้ได้รับชมกันครับ
อ่อเกือบลืมไป ติดกับศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากยังมีศาลเจ้าติดกัน มีเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เจ้าพ่อกวนอูให้กราบไหว้ขอพรด้วยนะครับ
ไหว้ศาลเจ้า (EP1)
ภาพ-เรื่อง โดยนายสามเหลี่ยม
ไปไหว้เจ้าแม่สร้อยดอกหมากกันครับ
ว่าแล้วก็ขับรถบึ่งไปทันที พอไปถึงก็เป็นเวลาเกือบ ๑๐ โมงแล้ว แดดเริ่มร้อนเปรี้ยงๆ แม้จะเป็นฤดูฝนที่วันใดฝนไม่ตก ก็กลายเป็นฤดูร้อนแทนทันที
คว้ากล้องได้ก็มุ่งตรงๆไปที่ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากทันที กดชัตเตอร์กล้องเก็บภาพภายนอกหลายมุม พอเดินเข้าไปในศาลเจ้า กลับรู้สึกเกิดความสงบขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด อากาศที่ร้อนก็ร่มเย็นขึ้นทันที ผมจึงเดินถ่ายรูปภายใน แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน เห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งมาไหว้ เลยถามว่า น้องขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม (ตามกฎหมาย PDPA เป๊ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนถ่ายเลยไม่ขอหรอก) แต่น้องผู้ชายบอกว่า ไม่เป็นไรครับพี่ ...โอเค ไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายครับ
จากนั้น ก็เดินเก็บภาพบรรยากาศไปเรื่อยๆ จนลงมาข้างล่าง เจอพี่ผู้หญิงท่านหนึ่งที่ดูแลศาลเจ้า เลยสอบถามว่า ถ้าอยากได้ประวัติของเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก เพื่อมาเขียนสารคดี พี่สาวบอกว่าภายในโบสถ์วัด พนัญเชิง ก็มีให้แสกนคิวอาร์โค้ดได้แล้ว โอว...ทันสมัยด้วย แต่ผมไปเดินดูกลับหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหรือไม่ เพราะไม่ได้ไปวัดพนัญเชิงนานแล้ว และตอนนี้ที่วัดก็จัดการจราจรการเดินใหม่ให้เดินตามลูกศรที่ทางวัดทำไว้ ไม่ใช่เดินสะเปะสะปะเหมือนเมื่อก่อน
ถึงอย่างไรก็ไม่เกินความสามารถที่จะหาประวัติของเจ้าแม่สร้อยดอกหมากหรอกครับ ขอเขียนเล่าประวัติคร่าวๆของท่านให้เพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้ได้รับทราบกันสักหน่อยครับ
“...ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักนอกกำแพงแก้วด้านเหนือของเขตวัดพนัญเชิง เป็นศาลเจ้าจีน จากพระราชพงศาวดารเหนือ ทำให้ทราบว่า พระนางสร้อยดอกหมากเป็นบุคคลสำคัญ การสิ้นพระชนม์ ทำให้พระเจ้าสายน้ำผึ้งสถาปนาพระอาราม ตั้งชื่อว่า วัดพระเจ้าพระนางเชิง (น่าจะเรียกเป็นวัด พนัญเชิงในปัจจุบัน-ความคิดผู้เขียน) ณ บริเวณพระราชทานเพลิงพระศพ ส่วนศาลเจ้านั้นสันนิษฐานว่าคนไทยเชื้อสายจีนสร้างขึ้น ก่ออิฐถือปูนประดับลายปูนปั้นเป็นรูปเทวดา สัตว์มงคล และภายในสวรรค์ตามความเชื่อเพื่อถวายเป็นที่สถิตของพระนางสร้อยดอกหมาก เรียกศาลนี้ว่า ศาลเจ้าแม่อาเนี้ย เป็นอาคาร ๒ ชั้น เดิมชั้นล่างเป็นพื้นที่ว่าง ชั้นบนเป็นที่ตั้งแทนบูชาพระนางสร้อยดอกหมาก และจัดตั้งสมอเรือที่งมได้จากแม่น้ำหน้าวัด ซึ่งผู้เชื่อว่าเป็นสมอเรือของเรือสำเภาที่พระนางสร้อยดอกหมากประทับมา ปัจจุบันพื้นที่ชั้นล่างเป็นที่ตั้งแท่นบูชารูปเจ้าแม่สร้อยดอกหมากจำลอง และเทพในนิกายมหายาน....”
ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากเป็นที่เคารพนับถือและศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นอย่างมาก ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศในประเทศไทยเดินทางมาขอพรท่านทุกวัน
หลังจากไหว้ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากแล้ว ก็เดินสำรวจบริเวณรอบๆ เก็บภาพสวยๆมาฝากทุกท่านให้ได้รับชมกันครับ
อ่อเกือบลืมไป ติดกับศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากยังมีศาลเจ้าติดกัน มีเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เจ้าพ่อกวนอูให้กราบไหว้ขอพรด้วยนะครับ
ไหว้ศาลเจ้า (EP1)
ภาพ-เรื่อง โดยนายสามเหลี่ยม