แม่ค้ารถพ่วงข้างโอด แก๊สแพงน้ำมันแพงทำพิษ แบกรับต้นทุนไม่ไหวต้องปรับราคา
https://ch3plus.com/news/economy/morning/298069

วันนี้ (27 มิ.ย.) สถานการณ์ของแพง ยังคงกระทบต่อการประกอบอาชีพของคนหาเช้ากินค่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตอนนี้ผู้ที่ต้องการซื้อกล้วยทอด มันทอด จะได้เพียง 4 ชิ้นในราคา 10 บาท
 
หลังจากที่ นางสาวนิสา แม่ค้าขายกล้วยทอดต้องตัดสินใจปรับลดจำนวนลง เพราะต้นทุนหลายอย่างได้ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เช่น แก๊สขนาดถัง 15 กิโลกรัม จากเดิม 340 บาท ปรับขึ้นราคาขึ้นเป็นถังละ 400 บาทแล้ว เช่นเดียวกับน้ำมันพืชที่เคยซื้อลังละ 300 กว่าบาท
 
ปัจจุบันปรับขึ้นราคาลังละ 800 กว่าบาทแล้ว ส่วนกล้วยยังราคาเดิมหวีละ 15 ถึง 18บาท นางสาวนิสา บอกว่ามีเพียงกล้วยเท่านั้นที่ต้องปรับขึ้นราคาส่วน มันทอดและไข่นกกระทายังขายราคาเดิมได้ การปรับราคาในครั้งนี้มีความจำเป็นจริงๆ

นางสมคิด แม่ค้าขายขนมโตเกียว ขนมเบื้อง ยาวนานมามากกว่า 40 ปี นางสมคิด ยอมรับว่าราคาต้นทุนปรับเพิ่มสูงขึ้นทุกอย่างจริงๆ โดยเฉพาะแก็สที่ต้องใช้ถังละ 400 บาท แล้ว รวมถึงหมูสับที่ต้องใส่ในขนม แต่ตนเองไม่สามารถปรับราคาขายเพิ่มขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นขนมโตเกียวและขนมเบื้องราคาเริ่มต้นอันละ 5 บาท เพราะราคาเดิมจะทำให้ขายออกได้ง่าย
 
ถึงแม้จะได้กำไรน้อยแต่ก็พออยู่ได้ หากตนเองปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ขายไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะตอนนี้เศรษฐกิจไม่ได้ ขายของแพงลูกค้าก็คงจะไม่ซื้อ
 

---

  
โฆษกเพื่อไทย ฉะ "วันชัย"ดิสเครดิต "อุ๊งอิ๊ง"
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_363655/
 
โฆษกเพื่อไทย ฉะ “วันชัย” ดิสเครดิต “อุ๊งอิ๊ง” เกาะกระแส ย้อนควรหยุดการกระทำที่มีส่วน ทำให้บ้านเมืองมาถึงจุดนี้
 
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ระบุข้อความในเฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ แนวทางแลนด์สไลด์ที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการปราศรัยในกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย
 
พร้อมพาดพิงถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่าตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่ของเล่น ไม่ต้องรีบชิงสุกก่อนห่ามนั้น ว่า 
 
ขอขอบคุณสำหรับคำวิพากษ์วิจารณ์ของนายวันชัยที่ชี้แนะทางการเมืองให้กับนางสาวแพทองธาร
 
ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เปิดรับทุกความคิดเห็นที่มีประโยชน์และสร้างสรรค์ นายวันชัยไม่ควรวิจารณ์เพียงเพราะต้องการดิสเครดิตหรือเกาะกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้
 
นายวันชัยควรจะใช้ความเป็นอาวุโสกว่าพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และควรหยุดการกระทำที่มีส่วนทำให้บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ เพราะที่ผ่านมานายวันชัยเป็นหนึ่งคนที่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่มาแล้วในปี 2560 ที่พูดอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นคนเขียนรัฐธรรมนูญ ปี 2560
 
ให้ ส.ว. 250 คน มีสิทธิ์ร่วมในการโหวตคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ ส.ว.เหล่านั้นไม่ได้รับอนุญาตจากประชาชนให้เข้ามา ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นมรดกบาปที่นายวันชัยและพวกโรยกลีบกุหลาบไว้ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และองคาพยพ ได้มาซึ่งอำนาจจนถึงปัจจุบัน
 
ทั้งนี้ การที่นายวันชัยพูดถึงการรัฐประหารว่าให้นางสาวแพทองธารแบ่งให้ครอบครัวอื่นบ้างนั้น คำพูดดังกล่าวของนายวันชัยเสมือนว่า มองการรัฐประหารเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดขึ้น และผูกขาดโดยคนใดคนหนึ่งหรือไม่
 
การรัฐประหารไม่ใช่การกระทำตามวิถีทางการเมืองทางแนวคิดประชาธิปไตย ทำลายคุณค่าพื้นฐานทางหลักกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายซึ่งนานาประเทศไม่ยอมรับ
 
อย่างไรก็ตาม นางสาวแพทองธาร ยังไม่เคยเอ่ยปากเรื่องการเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯ สักครั้ง นายวันชัยไม่ควรตีโพยตีพายไปมากกว่าความเป็นจริง ในโลกปัจจุบัน ไม่มีอะไรที่เร็วเกินไปหรือช้าเกินไป ทุกคนสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศ ไม่ใช่ชงเอง ตบเองเหมือนที่นายวันชัยและพรรคพวกเคยทำ

---

  
“สุทธวรรณ” ติงศธ.-มท.ยึดติดเครื่องแบบลูกเสือ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_363619/

“สุทธวรรณ” ติง ศธ.-มหาดไทย ยึดติดเครื่องแบบลูกเสือ ผลาญงบประมาณ ไม่เห็นใจผู้ปกครอง
 
นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.จังหวัดนครปฐม และรองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานกรรมการ มีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ
 
โดยมีการประชุมและสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดหาชุดลูกเสือ-เนตรนารี ให้เด็กที่ผู้ปกครองขัดสน ว่า การอ้างเหตุผลดังกล่าวเพื่อนำไปสู่สภาพบังคับในระบบการศึกษาไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพราะเราอยู่ในยุคสมัยที่แตกต่างกัน

ปัจจุบันถึงแม้จะมีนโยบายเรียนฟรี 15 ปี แต่ผู้ปกครองทุกคนยังมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มรวมเบ็ดเสร็จแล้ว ยังมากกว่าที่ได้รับยกเว้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวิกฤตโควิดและวิกฤตค่าครองชีพในปัจจุบันยิ่งทำให้เกิดภาวะยากจน มีเด็กกำลังจะหลุดออกจากระบบการศึกษาจำนวนมากซึ่งควรเป็นเรื่องเร่งด่วนในการแก้ปัญหา แต่ภาครัฐกลับยังยึดติดอยู่กับเครื่องแบบที่ต้องใช้งบจัดหาและเป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มให้ประชาชน
 
นางสาวสุทธวรรณ ยังย้ำว่า กรณีดังกล่าว ขัดแย้งกับที่นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวไว้ตอนต้นเดือน มิ.ย.65 ว่าได้มีหนังสือไปยังโรงเรียนต่างๆ ตั้งแต่ปี 2564 ให้ยืดหยุ่น หรืออนุโลมให้นักเรียนที่ไม่มีความพร้อม ไม่ต้องแต่งชุดลูกเสือ-เนตรนารี เต็มรูปแบบ แค่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกได้ เช่น ผ้าพันคอ หากยืดหยุ่นจริงดังที่รัฐมนตรีกล่าว เหตุใดจึงต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดหาชุดลูกเสือ-เนตรนารีด้วย นี่เป็นการใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลืองและไม่เกิดประโยชน์
  
ทั้งนี้ตนขอเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง และขอคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าตกลงยืดหยุ่นให้ใส่แค่ผ้าพันคอตามที่เคยพูดจริงหรือไม่ ถ้าจริง ทำไมต้องมีให้ทุกจังหวัดจัดหาชุดให้นักเรียนที่ขาดแคลนอีก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นถึงเจ้ากระทรวงและเป็นหัวโต๊ะคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ควรมีความชัดเจนกว่านี้