(ที่ใช้คำว่า แม่ของพ่อ เพราะความเข้าใจง่าย และเพื่อให้รับรู้ว่าเราอยู่ใน่บทบาทของหลาน)
ต้องขออภัยหากดูขัดหูขัดตาไปหน่อย ปกติก็เรียกย่าอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่แต่งงานแล้ว มีย่าหลายย่า หลายบทบาท เลยอยากระบุเพื่อความชัดเจน
งานศพ+งานทำบุญ = 5วัน
บ้านอยู่ไม่ห่างกันมาก (ห่างกัน 5 หลัง)
วันแรกที่แกเสียเราก็เป็นตัวหลักในการจัดเตรียมอาหาร ออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน 3 หมื่น
วันที่ 2 เราไปทำงาน เพราะลูกหลาน ญาติพี่น้องมากันเกือบหมด (ลูก 6 คน) ลูกแกเยอะคิดว่าไม่ได้หน้ามีอะไรต้องกังวลในเรื่องเตรียมงาน
วันที่ 3 วันเอาศพไปเผา วันนี้เราหยุดช่วยงาน
วันที่ 4 เตรียมงานทำบุญ เราก็ไปทำงาน
วันที่ 5 (วันนี้) งานบุญช่วงเช้า ช่วงสายๆหน่อยเก็บของเที่ยงๆก็เสร็จแล้ว ที่แรกเราตั้งใจจะหยุด แต่หัวหน้าเร่งงานให้มาทำสรุปงบก่อนค่อยกลับ แต่กว่าจะสรุปเสร็จก็เที่ยง ตอนบ่ายหมอนัดไปเจาะเลือดโรคประจำตัว
(ตั้งแต่วันที่แกเสีย เราตื่นตี 5 ไปช่วยงาน เลิกงานก็มาช่วยงานเตรียมอาหารจนถึง 5 ทุ่ม ทุกวัน )
ญาติฝั่งพ่อจะคิดว่าเราทำน่าเกลียดไหม ที่ไม่ได้อยู่ช่วยงานตลอด
งานศพแม่ของพ่อ แต่เราหยุดช่วยงานแค่วันเดียว มันจะน่าเกลียดไปไหม
ต้องขออภัยหากดูขัดหูขัดตาไปหน่อย ปกติก็เรียกย่าอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่แต่งงานแล้ว มีย่าหลายย่า หลายบทบาท เลยอยากระบุเพื่อความชัดเจน
งานศพ+งานทำบุญ = 5วัน
บ้านอยู่ไม่ห่างกันมาก (ห่างกัน 5 หลัง)
วันแรกที่แกเสียเราก็เป็นตัวหลักในการจัดเตรียมอาหาร ออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน 3 หมื่น
วันที่ 2 เราไปทำงาน เพราะลูกหลาน ญาติพี่น้องมากันเกือบหมด (ลูก 6 คน) ลูกแกเยอะคิดว่าไม่ได้หน้ามีอะไรต้องกังวลในเรื่องเตรียมงาน
วันที่ 3 วันเอาศพไปเผา วันนี้เราหยุดช่วยงาน
วันที่ 4 เตรียมงานทำบุญ เราก็ไปทำงาน
วันที่ 5 (วันนี้) งานบุญช่วงเช้า ช่วงสายๆหน่อยเก็บของเที่ยงๆก็เสร็จแล้ว ที่แรกเราตั้งใจจะหยุด แต่หัวหน้าเร่งงานให้มาทำสรุปงบก่อนค่อยกลับ แต่กว่าจะสรุปเสร็จก็เที่ยง ตอนบ่ายหมอนัดไปเจาะเลือดโรคประจำตัว
(ตั้งแต่วันที่แกเสีย เราตื่นตี 5 ไปช่วยงาน เลิกงานก็มาช่วยงานเตรียมอาหารจนถึง 5 ทุ่ม ทุกวัน )
ญาติฝั่งพ่อจะคิดว่าเราทำน่าเกลียดไหม ที่ไม่ได้อยู่ช่วยงานตลอด