https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7123159
ทำขายไม่ทัน! ออเดอร์’เตามหาเศรษฐี’ พุ่ง 10,000 เตายังไม่พอ ส่งขายตปท.ด้วย ทั้งลาว และกัมพูชา ตอนนี้มีคำสั่งซื้อจากพ่อค้าคนกลางเข้ามามาก
วันที่ 22 มิ.ย.65 สำหรับบรรยากาศการผลิตเตาถ่านใช้หุงต้มที่บ้านช่างหม้อ ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แหล่งผลิตเตาอั้งโล่แบบประหยัดพลังงานใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน และเทศบาลตำบลคำน้ำแซบมานานหลายปี ทำให้ปัจจุบันที่หมู่บ้านมีผู้ผลิตเตาถ่านแบบใหม่เกือบ 10 ราย โดยแต่ละรายมีกำลังผลิตประมาณ 1,000 ลูกต่อเดือน ราคาขายส่งลูกละ 150-200 บาท ราคาหน้าร้าน 300-350 บาทแล้วแต่ขนาด
นายสมจิตร ผันผอง อายุ 61 ปี ผู้ผลิตเตาถ่านแบบประหยัดพลังงาน เล่าว่า ชาวบ้านช่างหม้อได้สืบทอดอาชีพปั้นเตาถ่านส่งขายตามครัวเรือนมาจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ และเมื่อกว่า 20 ปีก่อน ได้รับผลกระทบยอดขายลดลงตามสมัยนิยม เพราะเตาแบบเดิมสิ้นเปลืองถ่านที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงมาก แต่เมื่อได้รับความรู้การผลิตเตาแบบประหยัดพลังงาน สามารถใช้ถ่านได้อย่างคุ้มค่า ทำให้เตาของหมู่บ้านกลับมาเป็นที่ต้องการของตลาด ยิ่งช่วงนี้ที่แก๊สใช้หุงต้มมีราคาแพงขึ้น ทำให้เตาถ่านอั้งโล่ประหยัดพลังงานได้รับความนิยม เพราะให้ความร้อนสูง แต่อัตราการสิ้นเปลืองน้อยกว่าเตาแก๊สเกือบครึ่งหนึ่ง ที่สำคัญเตาถ่าน เมื่อใช้ปรุงอาหารมีรสชาติดีกว่าเตาแก๊ส
นายสมจิตร กล่าวว่า ตอนนี้มีคำสั่งซื้อจากพ่อค้าคนกลางเข้ามามาก ทำให้กำลังผลิตของชุมชนที่มีอยู่ประมาณ 10,000 ลูกต่อเดือน ไม่พอต่อความต้องการ เพราะนอกจากขายในประเทศแล้ว ยังต้องส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว และกัมพูชา
ด้านนายณฐพล บุญชู นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ กล่าวว่า หลังกระทรวงพลังงานมาสนับสนุนให้ชุมชนผลิตเตาถ่านประหยัดพลังงาน ชาวบ้านก็นำความรู้มาเป็นอาชีพ และเทศบาลได้ส่งเสริมให้เตาประหยัดพลังงานเป็นสินค้าโอทอป เพราะสามารถส่งไปขายประเทศลาว และกัมพูชา นอกจากขายในประเทศและภาคอีสานของไทย
ทำขายไม่ทัน! ออเดอร์'เตามหาเศรษฐี' พุ่ง 10,000 เตายังไม่พอ ส่งขายตปท.ด้วย
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7123159
ทำขายไม่ทัน! ออเดอร์’เตามหาเศรษฐี’ พุ่ง 10,000 เตายังไม่พอ ส่งขายตปท.ด้วย ทั้งลาว และกัมพูชา ตอนนี้มีคำสั่งซื้อจากพ่อค้าคนกลางเข้ามามาก
วันที่ 22 มิ.ย.65 สำหรับบรรยากาศการผลิตเตาถ่านใช้หุงต้มที่บ้านช่างหม้อ ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แหล่งผลิตเตาอั้งโล่แบบประหยัดพลังงานใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน และเทศบาลตำบลคำน้ำแซบมานานหลายปี ทำให้ปัจจุบันที่หมู่บ้านมีผู้ผลิตเตาถ่านแบบใหม่เกือบ 10 ราย โดยแต่ละรายมีกำลังผลิตประมาณ 1,000 ลูกต่อเดือน ราคาขายส่งลูกละ 150-200 บาท ราคาหน้าร้าน 300-350 บาทแล้วแต่ขนาด
นายสมจิตร ผันผอง อายุ 61 ปี ผู้ผลิตเตาถ่านแบบประหยัดพลังงาน เล่าว่า ชาวบ้านช่างหม้อได้สืบทอดอาชีพปั้นเตาถ่านส่งขายตามครัวเรือนมาจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ และเมื่อกว่า 20 ปีก่อน ได้รับผลกระทบยอดขายลดลงตามสมัยนิยม เพราะเตาแบบเดิมสิ้นเปลืองถ่านที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงมาก แต่เมื่อได้รับความรู้การผลิตเตาแบบประหยัดพลังงาน สามารถใช้ถ่านได้อย่างคุ้มค่า ทำให้เตาของหมู่บ้านกลับมาเป็นที่ต้องการของตลาด ยิ่งช่วงนี้ที่แก๊สใช้หุงต้มมีราคาแพงขึ้น ทำให้เตาถ่านอั้งโล่ประหยัดพลังงานได้รับความนิยม เพราะให้ความร้อนสูง แต่อัตราการสิ้นเปลืองน้อยกว่าเตาแก๊สเกือบครึ่งหนึ่ง ที่สำคัญเตาถ่าน เมื่อใช้ปรุงอาหารมีรสชาติดีกว่าเตาแก๊ส
นายสมจิตร กล่าวว่า ตอนนี้มีคำสั่งซื้อจากพ่อค้าคนกลางเข้ามามาก ทำให้กำลังผลิตของชุมชนที่มีอยู่ประมาณ 10,000 ลูกต่อเดือน ไม่พอต่อความต้องการ เพราะนอกจากขายในประเทศแล้ว ยังต้องส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว และกัมพูชา
ด้านนายณฐพล บุญชู นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ กล่าวว่า หลังกระทรวงพลังงานมาสนับสนุนให้ชุมชนผลิตเตาถ่านประหยัดพลังงาน ชาวบ้านก็นำความรู้มาเป็นอาชีพ และเทศบาลได้ส่งเสริมให้เตาประหยัดพลังงานเป็นสินค้าโอทอป เพราะสามารถส่งไปขายประเทศลาว และกัมพูชา นอกจากขายในประเทศและภาคอีสานของไทย