พอดีช่วงนี้เจอเรื่องบังเอิญใน 7-11 ต่างสาขากัน 3 ครั้ง ด้วยเหตุการณ์คล้ายๆกัน คือ
ซื้อของเยอะ พนักงานถามเอาถุงมั้ย
เราไม่เอา เพราะเอารถยนต์มา หอบไปได้
สแกนของไป เกิน 150 บาท พนักงานบอกได้ถุงฟรี
จัดใส่ถุง กดคิดตัง มีส่วนลด ยอดไม่ถึง 150
เอาของใส่รถ กลับถึงบ้าน ดูบิล โดนคิดค่าถุงไป 1 บาทถ้วน
ไม่ได้ซีเรียสเรื่อง 3 บาทสักเท่าไร ถึงแม้ถุงทนทาน จะบางกว่าเมื่อก่อน จนจะเป็นก๊อบแก๊บแล้วก็เถอะ
แต่อยู่ว่างๆ มานึกดู ทำไมต้องพยายามขายถุง ถึงจะเกิน 150 แล้วได้ฟรีก็ตาม แนวคิดมาจากเรื่องลดถุงนี่นะ
นอกจากกรณีนี้ เวลาซื้อของก็โดนถามอยู่เนืองๆ
ถ้าพลาดฟังไม่ทัน เหม่อลืมตอบ เป็นโดนยัดใส่ถุง ต้องได้เก๊กเสียงหล่อพร้อมรอยยิ้ม ไม่เอาถุงนะครับ
ถ้าจะรณรงค์เรื่องลดถุง น่าให้ลูกค้าถามเองทุกกรณี
โดนถามบ่อยๆ บางทีก็รู้สึกไม่สะดวกนะครับ
เก๊กเสียงหล่อบ่อยๆ แล้วเจ็บคอ
เรื่องถุงใบละบาทของ 7-11 เขามีบรีฟงานกันว่าต้องเสนอขายถุงหรือเปล่าครับ?
ซื้อของเยอะ พนักงานถามเอาถุงมั้ย
เราไม่เอา เพราะเอารถยนต์มา หอบไปได้
สแกนของไป เกิน 150 บาท พนักงานบอกได้ถุงฟรี
จัดใส่ถุง กดคิดตัง มีส่วนลด ยอดไม่ถึง 150
เอาของใส่รถ กลับถึงบ้าน ดูบิล โดนคิดค่าถุงไป 1 บาทถ้วน
ไม่ได้ซีเรียสเรื่อง 3 บาทสักเท่าไร ถึงแม้ถุงทนทาน จะบางกว่าเมื่อก่อน จนจะเป็นก๊อบแก๊บแล้วก็เถอะ
แต่อยู่ว่างๆ มานึกดู ทำไมต้องพยายามขายถุง ถึงจะเกิน 150 แล้วได้ฟรีก็ตาม แนวคิดมาจากเรื่องลดถุงนี่นะ
นอกจากกรณีนี้ เวลาซื้อของก็โดนถามอยู่เนืองๆ
ถ้าพลาดฟังไม่ทัน เหม่อลืมตอบ เป็นโดนยัดใส่ถุง ต้องได้เก๊กเสียงหล่อพร้อมรอยยิ้ม ไม่เอาถุงนะครับ
ถ้าจะรณรงค์เรื่องลดถุง น่าให้ลูกค้าถามเองทุกกรณี
โดนถามบ่อยๆ บางทีก็รู้สึกไม่สะดวกนะครับ
เก๊กเสียงหล่อบ่อยๆ แล้วเจ็บคอ