*** หมาคอร์กี้และราชินีอลิซาเบธ ***
บทความนี้เป็นการกล่าวถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จพระราชินีแห่งราชอาณาจักรอังกฤษ และก้อนโชกุปัง (หมาคอร์กี้ก็เรียก) เขียนขึ้นในวาระงานฉลองครองราชย์สมบัติครบ 70 ปี เพื่อยกย่องในรสนิยมอันวิไลของพระองค์ ในการทอดพระเนตรเห็นความงดงามในความเตี้ย
ท่านผู้อ่านเคยสงสัยไหมครับว่าหมาแมวก็มีมากมาย ทำไมจึงเป็นหมาคอร์กี้ที่มีบุญญาธิการ? วันนี้ผมจะพาท่านไปดูด้วยกันครับ
*** ทำความรู้จักกับคอร์กี้ ***
ก้อนโชกุปังสายพันธุ์ที่โด่งดังที่สุด และเป็นพันธุ์ที่พระราชินีอลิซาเบธเลี้ยงมาแต่เริ่ม คือ “พ็อมโบรค เวลช์ คอร์กี้” (Pembroke Welsh Corgi) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในรัฐเวลส์ สหราชอาณาจักร…
หากท่านชอบอ่านพวกตำนานเรื่องเล่า ก็อาจพอคุ้นว่าเวลส์เป็นหนึ่งในแหล่งอารยธรรมเคลติก ที่มีเรื่องราวของแฟรี่หรือภูตจิ๋ว
เรื่องของคอร์กี้มีความเกี่ยวข้องกับแฟรี่ ตามตำนานที่ว่าครั้งหนึ่งเคยมีสงครามระหว่างแฟรี่สองเผ่า หลังการสู้รบอันดุเดือด แฟรี่กลุ่มหนึ่งพบว่าฝ่ายตนเสียสมาชิกไปสองตน จึงมีการจัดงานศพขึ้น
บังเอิญมีเด็กมนุษย์สองคนหลงมาพบแฟรี่จัดงานศพในป่า เหล่าภูตจึงยกสัตว์พาหนะอันสูงศักดิ์ (ซึ่งหน้าคล้ายก้อนโชกุปังต่อแง่งขิง) ของสมาชิกที่ล่วงลับให้ป้องกันเด็กๆ ในการกลับบ้าน
ภูตตนหนึ่งบรรยายสรรพคุณว่าปกติสัตว์พาหนะนี้จะทำหน้าที่เทียมรถ และใช้ขี่ออกศึกได้ด้วย มันพวกมันมีนิสัยกล้าหาญ เป็นนักรบ และชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อน
ภาพแนบ: สัตว์มหัศจรรย์กับโชกุปัง
เมื่อเด็กทั้งสองคนนำสัตว์พาหนะอันสูงส่งกลับถึงบ้านแล้ว จึงคิดหาทางตั้งชื่อมัน ...ซึ่งในภาษาเวลส์ gi แปลว่า “สุนัข” และ cor แปลว่า “แคระ” รวมๆ กันแล้วพวกเด็กจึงเรียกหมาพันธุ์นี้ว่า คอร์กี้ (Corgi) หรือ “หมาแคระ”
…ใช่แล้วครับ นี่แหละคือนิทานต้นกำเนิดหมาคอร์กี้นั่นเอง!
นอกจากนี้ ชาวเวลส์ยังเชื่อว่าคอร์กี้เป็น “หมาวิเศษ” นอกจากจะเป็นพาหนะสำหรับภูตแล้ว ตอนกลางคืนมันจะชอบแอบไปเล่นกับเหล่าแฟรี่ตัวน้อยตามหุบเขาลึกลับ เวลาปกติเราจึงเห็นมันแรงเยอะและดีดมาก เพราะได้บัฟเวทมนต์จากแฟรี่มานั่นเอง
ความเกี่ยวข้องกับแฟรี่นี่เองจึงอธิบายเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงเรียกขนสีเข้มบริเวณกลางหลังของหมาคอร์กี้ว่า “Fairy Saddle” หรืออานของแฟรี่ เพราะเชื่อว่ามันเป็นอานที่เหล่าภูตใช้ขี่เจ้าหมาเวทกันมาแต่โบราณ
*** จุดเริ่มต้นคอร์กี้คู่ราชวงศ์ ***
ในปี 1933 ตอนพระราชินีอลิซาเบธยังเป็นเพียงเจ้าหญิงตัวน้อยอายุ 7 ขวบ พระองค์กับน้องสาวหรือเจ้าหญิงมาร์กาเรต รู้สึกรักและเอ็นดูหมาคอร์กี้ของเพื่อนมาก ทั้งสองจึงไปรบเร้าขอกับพระบิดาหรือท่านดยุคแห่งยอร์ค (หรือต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่ 6)
ท่านดยุคได้ติดต่อนำสุนัขคอร์กี้จากฟาร์มโรซาเวลที่เป็นฟาร์มคอร์กี้รุ่นบุกเบิกมาให้เหล่าเจ้าหญิงเลือกสามตัว โดยครอบครัวท่านดยุคก็ได้เลือกหมาคอร์กี้ที่มีชื่อรุ่นและรหัสว่า “โรซาเวล โกลเด้น อีเกิล” เพราะมันเป็นตัวเดียวที่มีหาง
ภาพแนบ: เรนโบว์ ต้นตระกูลของคอร์ดี้ฟาร์มโรซาเวล
อนึ่งตอนนั้นผู้เลี้ยงหมาคอร์กี้มักใช้มันคุมปศุสัตว์ เพราะมันสง่างาม กล้าหาญ มีสเน่ห์ สามารถบัญชาสัตว์อื่นได้ดี และความเตี้ยของมันยังทำให้ไม่โดนสัตว์ใหญ่อย่างวัว แพะ แกะ ถีบได้ง่ายๆ (ลูกถีบจะลอยข้ามหัวมันไป) อย่างไรก็ตามคอร์กี้ยังมีจุดอ่อนคือโดนเหยียบหางได้ คนเลี้ยงเลยนิยมตัดหางมันออกตั้งแต่อายุเพียง 2 - 5 วัน และเป็นเช่นนั้นสืบมาจนปัจจุบัน แม้เราจะไม่ค่อยได้ให้มันไปต้อนสัตว์แล้วก็ตาม
…อลิซาเบธให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Cairns Post ในปี 1952 ว่าอยากเห็นหมาคอร์กี้มีความสุขจากการกระดิกหาง จึงเลือกตัวที่มีหาง
ภาพแนบ: คอร์กี้ผู้ห้าวหาญไล่ต้อนแกะ
อลิซาเบธเปลี่ยนชื่อโรซาเวลโกลเด้นอีเกิลเป็นชื่อว่า “ดูกี้” (Dookie) มาจากชื่อที่ทีมเพาะพันธุ์เรียกมันอย่างล้อๆ ว่าถูกราชวงศ์เลือกไปแล้วมีตำแหน่งเป็นดยุค (Duke) จึงเรียกว่า “ดุกกี้” (Dukie) ซึ่งครอบครัวท่านดยุคก็ชอบใจ เลยเรียกตามๆ มา
ดูกี้เป็นคอร์กี้ซน แต่ร่าเริงสดใส อลิซาเบธรักมันมาก ถึงกับป้อนอาหารด้วยตนเอง และมักพาออกสื่อบ่อยๆ ทำให้คอร์กี้กลายเป็นสุนัขที่รู้จักกันดีในวงสังคมอังกฤษตามไปด้วย
ภาพแนบ: เจ้าหญิงอลิซาเบธกับดูกี้
สามปีต่อมา ครอบครัวดยุคซื้อแง่งขิงคอกโรซาเวลมาอีกตัวเพื่อเป็นคู่กับดูกี้ ชื่อ “เลดี้เจน” ซึ่งในปีเดียวกันนั้นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ได้สละราชสมบัติ ทำให้ท่านดยุคได้ขึ้นเป็นพระเจ้าจอร์จที่ 6
ปี 1936 นี่เอง สโมสรสุนัขแห่งสหราชอาณาจักรอันเก่าแก่ The Kennel Club ได้มีการบันทึกไว้ว่า มีคนมาขึ้นทะเบียนสุนัขพ็อมโบรค เวลช์ คอร์กี้ มากเป็นประวัติการณ์ เพราะทำตามราชวงศ์ เป็นกระแสแรงแบบเดียวกับตอนที่มีกระแสชอบหมาดัลเมเชียนจากหนังเรื่อง 101 ดัลเมเชียนในยุคหลัง
ภาพแนบ: เจ้าหญิงกับดูกี้และเจน
กระแสนิยมคอร์กี้พุ่งสูงแบบนี้อีกครั้งในปี 1944 ซึ่งเป็นปีที่เจ้าหญิงอลิซาเบธได้รับคอร์กี้ชื่อ “ซูซาน” เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 18 ปีจากพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งซูซานจะเป็นต้นตระกูลของคอร์กี้ที่จะอยู่คู่กับพระราชินียาวนานถึง 74 ปี…
ภาพแนบ: เจ้าหญิงกับซูซาน
*** ตระกูลหมาคอร์กี้ราชสำนัก หรือคอร์กี้หลวง ***
ตระกูลคอร์กี้ของพระราชินีอลิซาเบธล้วนสืบจากซูซาน แต่แยกเป็นสองสาย ได้แก่ คอร์กี้พันธุ์แท้ กับ “ดอร์กี้” หรือ คอร์กี้+ดัชชุน เกิดจากเหตุหมาคอร์กี้ตัวหนึ่งของราชินีอลิซาเบธได้แอบไปกุ๊กกิ๊กกับหมาดัชชุน (หมาไส้กรอก) ของเจ้าหญิงมาร์กาเรต จึงเกิดเป็นสุนัขพันธุ์ใหม่ “นวัตกรรมแห่งความเตี้ย” ที่ได้รับความนิยมในหมู่ชั้นสูงและสาธารณะชน
ภาพแนบ: พระราชินีกับดอร์กี้
หลายปีผ่านพ้น ฝูงหมาคอร์กี้ของพระราชินีได้ทยอยล่วงลับตามอายุขัยแทบหมดสิ้น พระราชินีอลิซาเบธเคยตรัสว่าถึงจะชอบหมาคอร์กี้อย่างไรก็ไม่อยากจะมีเพิ่มแล้ว เพราะกลัวตัวเองจะสวรรคตก่อน แล้วทิ้งให้สุนัขต้องไร้เจ้าของ
อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าชายฟิลิปซึ่งเป็นพระสวามีของพระองค์ได้ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 พระโอรสเจ้าชายแอนดรูว์ก็ได้ซื้อคอร์กี้พันธุ์แท้และพันธุ์ผสมมาอย่างละตัวให้พระมารดาเพื่อปลอบใจ ซึ่งช่วยเยียวยาพระองค์อย่างยิ่ง
ปัจจุบันพระราชินีอลิซาเบธมีขนมปังปอนด์พันธุ์แท้สองก้อนไว้อบอุ่นใจ ชื่อ “มิค” กับ “แซนดี้” (บางแหล่งรายงานว่าชื่อ "ลิสซี") และยังมีลูกผสมอีกหนึ่งตัวชื่อ “แคนดี้”
ภาพแนบ: พระราชินีกับเจ้าแคนดี้ในปี 2022
*** ความสำคัญของหมาคอร์กี้ต่อพระราชินี ***
พระราชินีอลิซาเบธขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักสุนัขอย่างยิ่ง มักพาก้อนขนมปังติดแง่งขิงไปไหนมาไหนด้วยตลอด แม้กระทั่งตอนพระองค์แต่งงานกับเจ้าชายฟิลิปในปี 1947 เจ้าซูซานยังได้แอบขึ้นรถไปฮันนีมูนกับคู่บ่าวสาวด้วย
ภาพแนบ: พระราชินีอลิซาเบธ เจ้าชายฟิลิป และหมาคอร์กี้
แม้จะมีภารกิจรัดตัวหลังขึ้นครองราชย์ในปี 1952 แต่พระราชินีอลิซาเบธก็จะพยายามหาเวลาอยู่กับคอร์กี้ ซึ่งสุนัขเหล่านี้จะอยู่รวมกันที่ห้องพักภายในพระราชวังบักกิ้งแฮม (สื่อเรียกลำลองว่า “ห้องคอร์กี้”) มีตระกร้านอนเป็นของตัวเอง มีเชฟคอยปรุงอาหารสุกสดใหม่ให้ทุกวัน และในวันคริสต์มาส พระราชินีอลิซาเบธจะทำถุงเท้าใส่ของเล่นและขนมมาให้คอร์กี้ด้วย
ถึงคนในราชวงศ์จะไม่ได้อินกับหมาคอร์กี้มากเท่าพระราชินี แต่พวกเขายอมรับว่าคอร์กี้ช่วยเยียวยาจิตใจพระราชินีเวลาเครียดจากงาน และการได้พาคอร์กี้ไปเดินเล่นก็ถือเป็นการบำบัดแบบหนึ่ง เรียกกันในครอบครัวว่า “dog mechanism”
*** คอร์กี้ในฐานะตัวแทนของพระราชินี ***
เราจะเห็นได้ว่า คอร์กี้เป็นสิ่งที่อยู่คู่พระราชินีอลิซาเบธมาอย่างยาวนานตั้งแต่เป็นเด็ก จึงไม่แปลกที่มันจะกลายเป็นสัญลักษณ์แทนตัวพระองค์ในหลายบริบท โดยหลายสื่อวิเคราะห์ว่า สุนัขคอร์กี้ทำให้พระองค์ดูอ่อนโยน เป็นมิตร และจับต้องได้
ท่านอาจเห็นได้จากพิธีเปิดโอลิมปิกลอนดอน 2012 เมื่อผู้กำกับพิธีมาทูลขอให้มีฉากที่ยอดสายลับเจมส์ บอนด์ (แดเนียล เครก) จะพาพระราชินีไปยังสนามแข่ง นอกจากพระองค์จะตกลงเล่นเองแล้ว ยังให้คอร์กี้หลวงสามตัวได้เข้าร่วมซีนด้วย
ภาพแนบ: ฉากที่เจมส์ บอนด์ มารับราชินีอลิซาเบธ
ในปี 2016 ศัลยแพทย์สงคราม เดวิด น็อตต์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่า หลังผ่านการรบในประเทศซีเรียมาได้ไม่นาน เขามีโอกาสเข้าเฝ้าพระราชินิอลิซาเบธ แต่ก็เกิดอาการ PTSD ขึ้น นางจึงให้มหาดเล็กพาคอร์กี้มาหาน็อตต์เพื่อปลอบ
…อาจมองได้ว่านี่แสดงให้เห็นว่าพระองค์เข้าใจความสำคัญที่สัตว์เลี้ยงมีต่อมนุษย์นั่นเอง
ภาพแนบ: พระราชินีอลิซาเบธ, กลุ่มผู้เข้าเฝ้าและคอร์กี้หลวง
ราชสำนักอังกฤษจัดทำของที่ระลึกรูปคอร์กี้ออกมามากมาย ทั้งตุ๊กตาคอร์กี้ พวงกุญแจคอร์กี้ กระเป๋าคอร์กี้ บิสกิตคอร์กี้ ฯลฯ หรือตอนฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (Golden Jubilee) ในปี 2002 ก็มีการทำเหรียญคราวน์ที่ระลึกเป็นรูปคอร์กี้ด้วย
ภาพแนบ: เหรียญคอร์กี้
ในการฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ที่เกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แอคเคาท์ทวิตเตอร์ของราชวงศ์อังกฤษยังได้ปล่อยภาพของ PJ เจ้าคอร์กี้สวมมงกุฎหน้าแป้นแล้น ตลอดการเฉลิมฉลองยังมีของเกี่ยวกับคอร์กี้อีกมาก เช่น หุ่นคอร์กี้ในขบวนสวนสนาม และโดรนรูปคอร์กี้
ภาพแนบ: โดรนจัดเรียงเป็นรูปคอร์กี้เหนือพระราชวังบัคกิ้งแฮม
*** หมาคอร์กี้และราชินีอลิซาเบธ ***
บทความนี้เป็นการกล่าวถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จพระราชินีแห่งราชอาณาจักรอังกฤษ และก้อนโชกุปัง (หมาคอร์กี้ก็เรียก) เขียนขึ้นในวาระงานฉลองครองราชย์สมบัติครบ 70 ปี เพื่อยกย่องในรสนิยมอันวิไลของพระองค์ ในการทอดพระเนตรเห็นความงดงามในความเตี้ย
ท่านผู้อ่านเคยสงสัยไหมครับว่าหมาแมวก็มีมากมาย ทำไมจึงเป็นหมาคอร์กี้ที่มีบุญญาธิการ? วันนี้ผมจะพาท่านไปดูด้วยกันครับ
*** ทำความรู้จักกับคอร์กี้ ***
ก้อนโชกุปังสายพันธุ์ที่โด่งดังที่สุด และเป็นพันธุ์ที่พระราชินีอลิซาเบธเลี้ยงมาแต่เริ่ม คือ “พ็อมโบรค เวลช์ คอร์กี้” (Pembroke Welsh Corgi) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในรัฐเวลส์ สหราชอาณาจักร…
หากท่านชอบอ่านพวกตำนานเรื่องเล่า ก็อาจพอคุ้นว่าเวลส์เป็นหนึ่งในแหล่งอารยธรรมเคลติก ที่มีเรื่องราวของแฟรี่หรือภูตจิ๋ว
เรื่องของคอร์กี้มีความเกี่ยวข้องกับแฟรี่ ตามตำนานที่ว่าครั้งหนึ่งเคยมีสงครามระหว่างแฟรี่สองเผ่า หลังการสู้รบอันดุเดือด แฟรี่กลุ่มหนึ่งพบว่าฝ่ายตนเสียสมาชิกไปสองตน จึงมีการจัดงานศพขึ้น
บังเอิญมีเด็กมนุษย์สองคนหลงมาพบแฟรี่จัดงานศพในป่า เหล่าภูตจึงยกสัตว์พาหนะอันสูงศักดิ์ (ซึ่งหน้าคล้ายก้อนโชกุปังต่อแง่งขิง) ของสมาชิกที่ล่วงลับให้ป้องกันเด็กๆ ในการกลับบ้าน
ภูตตนหนึ่งบรรยายสรรพคุณว่าปกติสัตว์พาหนะนี้จะทำหน้าที่เทียมรถ และใช้ขี่ออกศึกได้ด้วย มันพวกมันมีนิสัยกล้าหาญ เป็นนักรบ และชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อน
ภาพแนบ: สัตว์มหัศจรรย์กับโชกุปัง
เมื่อเด็กทั้งสองคนนำสัตว์พาหนะอันสูงส่งกลับถึงบ้านแล้ว จึงคิดหาทางตั้งชื่อมัน ...ซึ่งในภาษาเวลส์ gi แปลว่า “สุนัข” และ cor แปลว่า “แคระ” รวมๆ กันแล้วพวกเด็กจึงเรียกหมาพันธุ์นี้ว่า คอร์กี้ (Corgi) หรือ “หมาแคระ”
…ใช่แล้วครับ นี่แหละคือนิทานต้นกำเนิดหมาคอร์กี้นั่นเอง!
นอกจากนี้ ชาวเวลส์ยังเชื่อว่าคอร์กี้เป็น “หมาวิเศษ” นอกจากจะเป็นพาหนะสำหรับภูตแล้ว ตอนกลางคืนมันจะชอบแอบไปเล่นกับเหล่าแฟรี่ตัวน้อยตามหุบเขาลึกลับ เวลาปกติเราจึงเห็นมันแรงเยอะและดีดมาก เพราะได้บัฟเวทมนต์จากแฟรี่มานั่นเอง
ความเกี่ยวข้องกับแฟรี่นี่เองจึงอธิบายเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงเรียกขนสีเข้มบริเวณกลางหลังของหมาคอร์กี้ว่า “Fairy Saddle” หรืออานของแฟรี่ เพราะเชื่อว่ามันเป็นอานที่เหล่าภูตใช้ขี่เจ้าหมาเวทกันมาแต่โบราณ
*** จุดเริ่มต้นคอร์กี้คู่ราชวงศ์ ***
ในปี 1933 ตอนพระราชินีอลิซาเบธยังเป็นเพียงเจ้าหญิงตัวน้อยอายุ 7 ขวบ พระองค์กับน้องสาวหรือเจ้าหญิงมาร์กาเรต รู้สึกรักและเอ็นดูหมาคอร์กี้ของเพื่อนมาก ทั้งสองจึงไปรบเร้าขอกับพระบิดาหรือท่านดยุคแห่งยอร์ค (หรือต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่ 6)
ท่านดยุคได้ติดต่อนำสุนัขคอร์กี้จากฟาร์มโรซาเวลที่เป็นฟาร์มคอร์กี้รุ่นบุกเบิกมาให้เหล่าเจ้าหญิงเลือกสามตัว โดยครอบครัวท่านดยุคก็ได้เลือกหมาคอร์กี้ที่มีชื่อรุ่นและรหัสว่า “โรซาเวล โกลเด้น อีเกิล” เพราะมันเป็นตัวเดียวที่มีหาง
ภาพแนบ: เรนโบว์ ต้นตระกูลของคอร์ดี้ฟาร์มโรซาเวล
อนึ่งตอนนั้นผู้เลี้ยงหมาคอร์กี้มักใช้มันคุมปศุสัตว์ เพราะมันสง่างาม กล้าหาญ มีสเน่ห์ สามารถบัญชาสัตว์อื่นได้ดี และความเตี้ยของมันยังทำให้ไม่โดนสัตว์ใหญ่อย่างวัว แพะ แกะ ถีบได้ง่ายๆ (ลูกถีบจะลอยข้ามหัวมันไป) อย่างไรก็ตามคอร์กี้ยังมีจุดอ่อนคือโดนเหยียบหางได้ คนเลี้ยงเลยนิยมตัดหางมันออกตั้งแต่อายุเพียง 2 - 5 วัน และเป็นเช่นนั้นสืบมาจนปัจจุบัน แม้เราจะไม่ค่อยได้ให้มันไปต้อนสัตว์แล้วก็ตาม
…อลิซาเบธให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Cairns Post ในปี 1952 ว่าอยากเห็นหมาคอร์กี้มีความสุขจากการกระดิกหาง จึงเลือกตัวที่มีหาง
ภาพแนบ: คอร์กี้ผู้ห้าวหาญไล่ต้อนแกะ
อลิซาเบธเปลี่ยนชื่อโรซาเวลโกลเด้นอีเกิลเป็นชื่อว่า “ดูกี้” (Dookie) มาจากชื่อที่ทีมเพาะพันธุ์เรียกมันอย่างล้อๆ ว่าถูกราชวงศ์เลือกไปแล้วมีตำแหน่งเป็นดยุค (Duke) จึงเรียกว่า “ดุกกี้” (Dukie) ซึ่งครอบครัวท่านดยุคก็ชอบใจ เลยเรียกตามๆ มา
ดูกี้เป็นคอร์กี้ซน แต่ร่าเริงสดใส อลิซาเบธรักมันมาก ถึงกับป้อนอาหารด้วยตนเอง และมักพาออกสื่อบ่อยๆ ทำให้คอร์กี้กลายเป็นสุนัขที่รู้จักกันดีในวงสังคมอังกฤษตามไปด้วย
ภาพแนบ: เจ้าหญิงอลิซาเบธกับดูกี้
สามปีต่อมา ครอบครัวดยุคซื้อแง่งขิงคอกโรซาเวลมาอีกตัวเพื่อเป็นคู่กับดูกี้ ชื่อ “เลดี้เจน” ซึ่งในปีเดียวกันนั้นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ได้สละราชสมบัติ ทำให้ท่านดยุคได้ขึ้นเป็นพระเจ้าจอร์จที่ 6
ปี 1936 นี่เอง สโมสรสุนัขแห่งสหราชอาณาจักรอันเก่าแก่ The Kennel Club ได้มีการบันทึกไว้ว่า มีคนมาขึ้นทะเบียนสุนัขพ็อมโบรค เวลช์ คอร์กี้ มากเป็นประวัติการณ์ เพราะทำตามราชวงศ์ เป็นกระแสแรงแบบเดียวกับตอนที่มีกระแสชอบหมาดัลเมเชียนจากหนังเรื่อง 101 ดัลเมเชียนในยุคหลัง
ภาพแนบ: เจ้าหญิงกับดูกี้และเจน
กระแสนิยมคอร์กี้พุ่งสูงแบบนี้อีกครั้งในปี 1944 ซึ่งเป็นปีที่เจ้าหญิงอลิซาเบธได้รับคอร์กี้ชื่อ “ซูซาน” เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 18 ปีจากพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งซูซานจะเป็นต้นตระกูลของคอร์กี้ที่จะอยู่คู่กับพระราชินียาวนานถึง 74 ปี…
ภาพแนบ: เจ้าหญิงกับซูซาน
*** ตระกูลหมาคอร์กี้ราชสำนัก หรือคอร์กี้หลวง ***
ตระกูลคอร์กี้ของพระราชินีอลิซาเบธล้วนสืบจากซูซาน แต่แยกเป็นสองสาย ได้แก่ คอร์กี้พันธุ์แท้ กับ “ดอร์กี้” หรือ คอร์กี้+ดัชชุน เกิดจากเหตุหมาคอร์กี้ตัวหนึ่งของราชินีอลิซาเบธได้แอบไปกุ๊กกิ๊กกับหมาดัชชุน (หมาไส้กรอก) ของเจ้าหญิงมาร์กาเรต จึงเกิดเป็นสุนัขพันธุ์ใหม่ “นวัตกรรมแห่งความเตี้ย” ที่ได้รับความนิยมในหมู่ชั้นสูงและสาธารณะชน
ภาพแนบ: พระราชินีกับดอร์กี้
หลายปีผ่านพ้น ฝูงหมาคอร์กี้ของพระราชินีได้ทยอยล่วงลับตามอายุขัยแทบหมดสิ้น พระราชินีอลิซาเบธเคยตรัสว่าถึงจะชอบหมาคอร์กี้อย่างไรก็ไม่อยากจะมีเพิ่มแล้ว เพราะกลัวตัวเองจะสวรรคตก่อน แล้วทิ้งให้สุนัขต้องไร้เจ้าของ
อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าชายฟิลิปซึ่งเป็นพระสวามีของพระองค์ได้ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 พระโอรสเจ้าชายแอนดรูว์ก็ได้ซื้อคอร์กี้พันธุ์แท้และพันธุ์ผสมมาอย่างละตัวให้พระมารดาเพื่อปลอบใจ ซึ่งช่วยเยียวยาพระองค์อย่างยิ่ง
ปัจจุบันพระราชินีอลิซาเบธมีขนมปังปอนด์พันธุ์แท้สองก้อนไว้อบอุ่นใจ ชื่อ “มิค” กับ “แซนดี้” (บางแหล่งรายงานว่าชื่อ "ลิสซี") และยังมีลูกผสมอีกหนึ่งตัวชื่อ “แคนดี้”
ภาพแนบ: พระราชินีกับเจ้าแคนดี้ในปี 2022
*** ความสำคัญของหมาคอร์กี้ต่อพระราชินี ***
พระราชินีอลิซาเบธขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักสุนัขอย่างยิ่ง มักพาก้อนขนมปังติดแง่งขิงไปไหนมาไหนด้วยตลอด แม้กระทั่งตอนพระองค์แต่งงานกับเจ้าชายฟิลิปในปี 1947 เจ้าซูซานยังได้แอบขึ้นรถไปฮันนีมูนกับคู่บ่าวสาวด้วย
ภาพแนบ: พระราชินีอลิซาเบธ เจ้าชายฟิลิป และหมาคอร์กี้
แม้จะมีภารกิจรัดตัวหลังขึ้นครองราชย์ในปี 1952 แต่พระราชินีอลิซาเบธก็จะพยายามหาเวลาอยู่กับคอร์กี้ ซึ่งสุนัขเหล่านี้จะอยู่รวมกันที่ห้องพักภายในพระราชวังบักกิ้งแฮม (สื่อเรียกลำลองว่า “ห้องคอร์กี้”) มีตระกร้านอนเป็นของตัวเอง มีเชฟคอยปรุงอาหารสุกสดใหม่ให้ทุกวัน และในวันคริสต์มาส พระราชินีอลิซาเบธจะทำถุงเท้าใส่ของเล่นและขนมมาให้คอร์กี้ด้วย
ถึงคนในราชวงศ์จะไม่ได้อินกับหมาคอร์กี้มากเท่าพระราชินี แต่พวกเขายอมรับว่าคอร์กี้ช่วยเยียวยาจิตใจพระราชินีเวลาเครียดจากงาน และการได้พาคอร์กี้ไปเดินเล่นก็ถือเป็นการบำบัดแบบหนึ่ง เรียกกันในครอบครัวว่า “dog mechanism”
*** คอร์กี้ในฐานะตัวแทนของพระราชินี ***
เราจะเห็นได้ว่า คอร์กี้เป็นสิ่งที่อยู่คู่พระราชินีอลิซาเบธมาอย่างยาวนานตั้งแต่เป็นเด็ก จึงไม่แปลกที่มันจะกลายเป็นสัญลักษณ์แทนตัวพระองค์ในหลายบริบท โดยหลายสื่อวิเคราะห์ว่า สุนัขคอร์กี้ทำให้พระองค์ดูอ่อนโยน เป็นมิตร และจับต้องได้
ท่านอาจเห็นได้จากพิธีเปิดโอลิมปิกลอนดอน 2012 เมื่อผู้กำกับพิธีมาทูลขอให้มีฉากที่ยอดสายลับเจมส์ บอนด์ (แดเนียล เครก) จะพาพระราชินีไปยังสนามแข่ง นอกจากพระองค์จะตกลงเล่นเองแล้ว ยังให้คอร์กี้หลวงสามตัวได้เข้าร่วมซีนด้วย
ภาพแนบ: ฉากที่เจมส์ บอนด์ มารับราชินีอลิซาเบธ
ในปี 2016 ศัลยแพทย์สงคราม เดวิด น็อตต์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่า หลังผ่านการรบในประเทศซีเรียมาได้ไม่นาน เขามีโอกาสเข้าเฝ้าพระราชินิอลิซาเบธ แต่ก็เกิดอาการ PTSD ขึ้น นางจึงให้มหาดเล็กพาคอร์กี้มาหาน็อตต์เพื่อปลอบ
…อาจมองได้ว่านี่แสดงให้เห็นว่าพระองค์เข้าใจความสำคัญที่สัตว์เลี้ยงมีต่อมนุษย์นั่นเอง
ภาพแนบ: พระราชินีอลิซาเบธ, กลุ่มผู้เข้าเฝ้าและคอร์กี้หลวง
ราชสำนักอังกฤษจัดทำของที่ระลึกรูปคอร์กี้ออกมามากมาย ทั้งตุ๊กตาคอร์กี้ พวงกุญแจคอร์กี้ กระเป๋าคอร์กี้ บิสกิตคอร์กี้ ฯลฯ หรือตอนฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (Golden Jubilee) ในปี 2002 ก็มีการทำเหรียญคราวน์ที่ระลึกเป็นรูปคอร์กี้ด้วย
ภาพแนบ: เหรียญคอร์กี้
ในการฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ที่เกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แอคเคาท์ทวิตเตอร์ของราชวงศ์อังกฤษยังได้ปล่อยภาพของ PJ เจ้าคอร์กี้สวมมงกุฎหน้าแป้นแล้น ตลอดการเฉลิมฉลองยังมีของเกี่ยวกับคอร์กี้อีกมาก เช่น หุ่นคอร์กี้ในขบวนสวนสนาม และโดรนรูปคอร์กี้
ภาพแนบ: โดรนจัดเรียงเป็นรูปคอร์กี้เหนือพระราชวังบัคกิ้งแฮม