สวัสดีค่าา วันนี้เราจะมาแบ่งปันวิธีการขอ Schengen Visa จาก ประเทศ Austria ค่ะ เราเป็นนิสิตปี 4 พี่งเรียนจบ ก็พอมีเวลาว่างสักแปประหว่างรอใบจบ ก่อนจะต้องเข้าทำงาน ก็เลยชวนคุณแม่ไปเที่ยวออสเตรียค่ะ คุณแม่เราไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเป็นแม่บ้านเต็มตัวเลยค่ะ ออกจากงานมา 10 กว่าปีแล้ว ไม่ได้ทำงานจนเกษียณด้วย

เราทำเอกสาร ขอเอกสารเองหมดเลยค่ะ ไปถึง vfs แค่ไปยื่นอย่างเดียว แล้วก็เก็บลายนิ้วมือ เอกสารครบ ผ่านหมด ได้วีซ่ามาพอดีวันตามแผนการเดินทาง เลยอยากมาแบ่งปันให้กับทุกคนค่ะ เผื่อใครเป็นกังวลว่าอยากพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยว หรืออยากไปเที่ยวเอง แต่กลัววีซ่าไม่ผ่านเพราะไม่ได้ทำงาน เรากับแม่ผ่านได้ ก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ

เราจะขอแบ่งเป็น 2 พาร์ทนะคะ พาร์ทแรกจะเล่าถึงขั้นตอนการขอวีซ่าทั้งหมดค่ะ ส่วนอีกพาร์ทจะเป็นเรื่องของเอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่า พร้อมรายละเอียดการขอ/จัดเตรียมเอกสารแต่ละฉบับค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-> รีวิวการขอวีซ่า Schengen ออสเตรียปี 2022 พร้อมตัวอย่างและรูปประกอบ ฉบับนักศึกษา 1 คน กับคุณแม่ที่ไม่ได้ทำงาน (Part2)

*อันนี้เป็นเพียงประสบการณ์ของเราตอนเราทำนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะมีบางอย่างที่เราไม่ได้ทำถูกต้อง 100% แต่เราก็อยากมาแบ่งปันวิธีของเราไว้เป็นแนวทาง เผื่อจะเป็นประโยชน์ และเป็นกำลังใจให้กับทุกคนค่ะ😊

เริ่มกันเลยค่า

Part 1 ขั้นตอนการขอวีซ่า
1. จองคิวนัดหมายกับ vfs Austria
2. จัดเตรียมเอกสารที่ใช้ทำวีซ่าทั้งหมดให้พร้อม
3. ยื่นเอกสารตามวันและเวลาที่นัดหมาย
4. รอรับวีซ่า เตรียมตัวไปเที่ยวว

ที่นี้มาดูรายละเอียดแต่ละขั้นตอนกันค่ะ

1. จองคิวนัดหมายกับ vfs Austria

พอเรากับแม่ตัดสินใจไปเที่ยวออสเตรีย สโลเวเนีย เราก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำวีซ่าเลยค่ะ (ต้องขอบคุณ facebook group: เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง และอีกหลากหลายกระทู้พันทิป มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ😂) หลังจากอ่านเยอะมากก็ค้นพบว่า วีซ่าเชงเก้นช่วงนี้รอคิวนานมากก จองเดือนนี้ได้คิวเดือนหน้า เราก็เลยตัดสินใจจองคิวเป็นอันดับแรกค่ะ ใช้คิวเป็นเดดไลน์ ไฟเดดไลน์จะได้ช่วยลนให้ขยันจัดเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย โดยเราทำการจองคิวนัดหมายขอวีซ่าไปวันที่ 3 เม.ย. 65 ได้คิววันที่ 20 เม.ย. 65 ไฟเดดไลน์มันร้อนทีเดียวค่ะ มีเวลา 2 อาทิตย์กว่าในการจัดเตรียมเอกสาร เริ่มได้! (ใครพร้อมกว่าเรา ก็จองที่พักอะไรอย่างนี้ล่วงหน้าก็ดีนะคะ พอดีเราตัดสินใจปุปปัปไปหน่อย แหะๆ)

ตอนจองคิวนัดหมาย เราไม่แน่ใจว่าของประเทศอื่นเป็นอย่างไร แต่ตอนเราทำ มันให้จองทีละคน ไม่สามารถใช้ 1 account ในการจองพร้อมกันหลายคนได้ เราต้องสร้าง account กับ vfs ให้เรากับแม่ แล้ว vfs จะส่ง e-mail มาให้ทันที เราก็เข้าไปกด activate account ได้เลยค่ะ เท่านี้ก็สร้าง account เสร็จเเล้วค่ะ สามารถเข้าระบบไปจองคิวได้เลย จองคิวเเล้วต้องจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเลยค่ะ ไม่มีตัวเลือกจ่ายที่ vfs (หรือเราไม่เห็นก็ไม่รู้ค่ะ😅) ค่าใช้จ่ายตอนที่ทำการจอง อยู่ที่คนละ 807 บาทค่ะ เป็นค่าดำเนินการของ vfs ราคานี้คือเราไม่ได้เลือกบริการเสริมอื่น ๆ เลยนะคะ (เช่น ถ่ายรูป แปลเอกสาร) ตอนก่อนจ่ายเงินมันจะมีให้เลือกบริการเสริม เราไม่เอาสักอันเลยค่ะ ประหยัดไว้ก่อน😁 เสร็จแล้วเขาจะส่งใบยืนยันการนัดหมายมาให้ทาง e-mail อย่าลืมปริ้นท์แล้วนำไปวันยื่นด้วยนะคะ หน้าตาใบนัดหมายเป็นแบบนี้ค่า 
ด้านล่างใบนัดหมายจะมีหนังสือยินยอมให้กรอก อย่าลืมกรอกกันด้วยนะคะ กรอกทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษเลย อย่างเรา เรากรอกชื่อ นามสกุล เซ็นลายเซ็น ใส่ที่อยู่ที่ติดต่อได้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ หน้าตาใบเป็นแบบนี้ค่า 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-> link vfs Austria: https://visa.vfsglobal.com/tha/en/aut
-> link สร้าง account: https://visa.vfsglobal.com/tha/en/aut/login
-> link จองคิวนัดหมาย: https://visa.vfsglobal.com/tha/en/aut/book-an-appointment

❕อันนี้เราอยากจะมาเตือนทุกคนนะคะ เราคิดว่าคิวนัดหมายออสเตรียจองเเล้วยกเลิกหรือเลื่อนไม่ได้นะ ถ้าอยากเลื่อนต้องจองใหม่ จ่ายใหม่เท่านั้น เงินที่จองไปแล้วก็ไม่ได้คืนอัตโนมัติ ต้องขอทำ refund ตอนเราจอง เราจองของเราก่อนแล้วพอจองเสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อยค่อยจองให้คุณแม่ แต่ว่าตอนจองให้แม่ time slot ที่เราเลือกไปตอนจองให้ตัวเองดันเต็มค่ะ เลยกดจองอีก time slot ให้แม่ไปในวันเดียวกัน แล้วไปยกเลิกนัดหมายเดิมของเรา เพื่อทำการจองใหม่ให้ได้ time slot เดียวกันกับแม่ ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ดีค่ะ ได้เวลาห่างกัน 15 นาที แต่ที่สำคัญคือต้องจ่ายเงินใหม่เลยค่ะ เราก็จ่ายไปใหม่ แล้วค่อยไปขอทำ refund แต่พอถึงวันที่นัดหมายจริง ๆ ตอนถึงคิวคุณแม่ ซึ่งเร็วกว่าคิวเรา พอบอกเจ้าหน้าที่ว่ามาด้วยกัน เขาก็ให้เข้าพร้อมกัน ยื่นเอกสารด้วยกันอยู่ดีค่ะ

ตอนทำ refund แอบวุ่นวายนิดนึง ต้องอีเมล์ไปหาทาง vfs global เพื่อแจ้งเรื่อง แล้วกรอกฟอร์มขอ refund ส่งไปให้เขาพร้อมกับใบนัดหมายเดิม หน้าตาฟอร์มเป็นแบบนี้ค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-> link refund: https://visa.vfsglobal.com/tha/en/aut/refund-policy โหลดฟอร์มได้โดยจิ้มไปที่คำว่า refund request form กรอกรายละเอียดให้เรียบร้อย ส่งไปที่ info.austh@vfshelpline.com

2. จัดเตรียมเอกสารที่ใช้ทำวีซ่าทั้งหมดให้พร้อม

อันนี้ค่อนข้างยาว และมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เราขออนุญาตแยกเป็นอีกพาร์ทนะคะ ใครสนใจติดตามต่อพาร์ท 2 ได้ค่า -> รีวิวการขอวีซ่า Schengen ออสเตรียปี 2022 พร้อมตัวอย่างและรูปประกอบ ฉบับนักศึกษา 1 คน กับคุณแม่ที่ไม่ได้ทำงาน (Part2)

3. ยื่นเอกสารตามวันและเวลาที่นัดหมาย

พอถึงวันนัดหมายของเรา ก็เตรียมตัวให้พร้อมค่ะ เช็คเอกสารให้ดีอีกรอบก่อนออกจากบ้านจะดีมากค่ะ จะได้อุ่นใจขึ้นอีกหน่อย vfs ออสเตรียอยู่ที่อาคารจามจุรีสแควร์ชั้น 4 ไปให้ถึงก่อนเวลานัดสัก 15 นาทีนะคะ เพราะเขาอาจจะเรียกคิวก่อนเวลานัดจริง อย่างตอนเราไป คิวของคุณแม่เป็นตอน 15.15 เจ้าหน้าที่เรียกเข้าข้างในตอน 15.10 ส่วนของคิวของเราเป็นตอน 15.30 แต่เราบอกเจ้าหน้าที่ว่ามาด้วยกันสุดท้ายก็ได้เข้ายื่นเอกสารพร้อมกันค่ะ เข้าไปข้างในเราจะได้รับเลขช่องสำหรับยื่นเอกสาร พร้อมกับเลขคิวสำหรับยื่นเอกสารค่ะ มาด้วยกันก็ได้เลขคิวเดียวกันเลยค่ะ

ที่เหลือคือกระบวนการแห่งการรอค่ะ เข้าไปนั่งรอที่หน้าช่องยื่นเอกสาร รอเรียกคิว เรียกคิวปุ๊ป เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจเอกสารของเราว่าครบถ้วนไหม เราก็นั่งรอต่อไปค่ะ พอตรวจเสร็จ ก็จะได้จ่ายเงินแล้วค่ะ แม้ว่าจะไม่ได้เลือกบริการเสริมใด ๆ มา เขาก็จะให้เรารับบริการเสริมที่สำคัญของเขาค่ะ นั่นก็คือ e-mail และ sms แจ้งสถานะการดำเนินการขอวีซ่าของเราค่ะ เราว่าเป็นที่พึ่งทางใจที่ดีนะคะ มีความหวังทุกเช้าว่าจะได้วีซ่าหรือยัง ลุ้นทุกวันเลยค่ะ5555 เพราะว่าช่วงนี้คนไปเที่ยวยุโรปเยอะมากก วีซ่าก็เลยใชัเวลานานตามไปด้วย อีกบริการเสริมของ vfs ที่เรารับก็คือ บริการส่งเล่ม passport มาที่บ้านค่ะ ไม่ต้องไปรับเองที่ศูนย์ vfs  เสร็จขั้นตอนเรียบร้อยก็ได้เวลาจ่ายค่าเสียหายส่วนที่เหลือค่ะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวม 4,093 บาท/คน แต่ว่าค่าธรรมเนียม vfs ที่เราจ่ายไปตอนจองแล้ว เขาจะหักออกให้ค่ะ เท่ากับว่าเราต้องจ่ายส่วนที่เหลืออีกคนละ 3,286 บาท (ค่าวีซ่า 2960 บาท, ค่าดำเนินการ vfs ที่ต้องจ่ายเพิ่มเพราะมันขึ้นราคาแล้วในวันที่เราไปยื่นเอกสาร 11 บาท, ค่า sms 75 บาท, ค่าส่ง passport 240 บาท) จ่ายเป็นเงินสดเท่านั้นนะคะ อย่าลืมเตรียมเงินมากันด้วยนะ กระบวนการทั้งหมดประมาณ เกือบ ๆ 2 ชั่วโมงค่ะ

แนะนำเอาเอกสารตัวจริงมาด้วยนะคะ เอามาเผื่อไว้ ใครที่มาถึงเเล้วเอกสารไม่ครบหรือมีข้อผิดพลาดจะได้นำฉบับจริงไปถ่ายเอกสาร หรือไปปริ้นท์ใหม่ได้ที่ชั้น 3 ลงบันไดเลื่อนไปแล้วเจอเลยค่ะ เราได้ไปใช้บริการร้านนี้เหมือนกัน เพราะท่องเที่ยวช่วงโควิด เขาจะขอสำเนา vaccine passport กับจดหมายจากบริษัทประกันเพิ่มเติม ว่าประกันคุ้มครอง covid-19 จริง ใบนี้ต้องโทรไปขอกับบริษัทประกันนะคะ เขาจะไม่ได้ให้มาในกรมธรรม์ บอกเขาได้เลยค่ะ ว่าขอใบที่ยืนยันว่าประกันที่เราซื้อคุ้มครองโควิด ทางสถานทูตขอ เขาเข้าใจค่ะ 10 นาที ได้ใบนี้ทางอีเมลล์เลย อย่าลืมปริ้นท์ออกมานะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียตังแบบเรากับแม่ (ค่าปริ้นท์ที่ร้านนั้น ขาวดำใบละ 10 บาท สำเนาเอกสารใบละ 2 บาท)

4. รอรับวีซ่า เตรียมตัวไปเที่ยวได้เลยค่า

ขั้นตอนแห่งความทรมานค่ะ ตื่นเต้นทุกวัน คอยดูเมลล์กับ sms ทุกวันว่ามีอะไรคืบหน้าบ้าง ทุกข้อความตื่นเต้นได้หมด 5555 ของเรายื่นวีซ่าวันที่ 20 เม.ย. 65 หลังจากยื่นไป เราก็ได้รับข้อความอยู่เรื่อย ๆ ตามนี้ค่ะ 

20/04/65 19:26 - visa application for … has been forwarded to Embassy
26/04/65 10:50 - completed visa application for … is ready for collection at Bangkok. Please collect as soon as possible
26/04/65 10:51 - completed visa application for … has been couriered to you via our courier partner on Tue Apr 26 2022.

แล้ววันที่ 27 เม.ย. 65 เล่มพาสพอร์ตก็มาถึงที่หน้าประตูบ้านเลยค่ะ แกะด้วยความตื่นเต้น เปิดดูก็กรี๊ดหนึ่งที เตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวเลยค่า

หวังว่าประสบการณ์ที่เรามาแชร์จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ เราก็พึ่งเคยขอเองเป็นครั้งแรก ทุกคนทำได้ค่ะ! เราไปเที่ยวมาเเล้ว รับรองว่าเที่ยวยุโรปคุ้มค่าเหนื่อยทำวีซ่าแน่นอน! สู้ ๆ นะคะ💕