สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ส่วนตัวผมทำคล้ายเดิมนะครับ จริงๆไม่ได้ทำแบบนี้เพราะเตรียมสำหรับการเกษียณ แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่อยากทำทุกวันในชีวิตอยู่แล้วครับ
ผมใช้หลักการง่ายๆธรรมดาๆที่คนส่วนใหญ่น่าจะเคยได้ยินกันครับ คือ เก็บเงินและลงทุน(ก่อนใช้), ไม่สร้างหนี้ , ไม่สะสมสิ่งของให้เป็นภาระ (มีแค่พอใช้), ออกกำลังกายรักษาสุขภาพกาย/จิตใจ (ช่วยประหยัดค่ายา ค่าหมอและไม่เป็นภาระให้คนในครอบครัว) ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีสติไม่ประมาท (ช่วยลดการเกิดอุบัติ/การทะเลาะเบาะแว้งโดยไม่จำเป็น) เป็นต้นครับ
ช่วงนี้ก็คงจะมีระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้นบ้าง
(แต่คงไม่ถึงกับอดอยาก ยังเน้นเก็บบ้างใช้บ้าง เดินทางสายกลางครับ) และก็มีชะลอการลงทุนก้อนใหญ่ๆในสินทรัพย์เสี่ยงออกไปก่อนครับ
ผมใช้หลักการง่ายๆธรรมดาๆที่คนส่วนใหญ่น่าจะเคยได้ยินกันครับ คือ เก็บเงินและลงทุน(ก่อนใช้), ไม่สร้างหนี้ , ไม่สะสมสิ่งของให้เป็นภาระ (มีแค่พอใช้), ออกกำลังกายรักษาสุขภาพกาย/จิตใจ (ช่วยประหยัดค่ายา ค่าหมอและไม่เป็นภาระให้คนในครอบครัว) ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีสติไม่ประมาท (ช่วยลดการเกิดอุบัติ/การทะเลาะเบาะแว้งโดยไม่จำเป็น) เป็นต้นครับ
ช่วงนี้ก็คงจะมีระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้นบ้าง
(แต่คงไม่ถึงกับอดอยาก ยังเน้นเก็บบ้างใช้บ้าง เดินทางสายกลางครับ) และก็มีชะลอการลงทุนก้อนใหญ่ๆในสินทรัพย์เสี่ยงออกไปก่อนครับ
ความคิดเห็นที่ 6
แผ่นดินไหวและสึนามิของจริงเราก็เคยเจอเคยผ่านมันมาแล้ว ตอนนั้นสาหัสมากๆของกินของใช้ข้าวสารอาหารแห้งขาดแคลนอย่างหนัก
(มีเงินก็ซื้อไม่ได้ เพราะของไม่มี มีจำนวนจำกัด) น้ำดื่ม1.2ลิตร ทางร้านกำหนดให้ซื้อได้แค่คนละ2ขวด
กว่าจะกล้าออกไปไหนมาไหนที่ไกลจากบ้าน ใช้เวลาทำใจอยู่นานเกือบครึ่งปี
ของแบรนด์เนมเทขายเกือบหมดตู้ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน (เลิกซื้อของแบรนด์เนมไปโดยปริยาย)
ตุนข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ไว้เผื่อฉุกเฉินจำเป็น เพราะแผ่นดินไหวกับสึนามิมันมาปุบปับกระทันหัน แม้จะมีสัญญาณเตือนภัยก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
อะไรไม่จำเป็นไม่เอา ไม่ซื้อ ของประดับตกแต่งบ้านไม่มีเลย เพราะเวลามีแผ่นดินไหว ของบางอย่างมันตกแตก อย่างสมัยก่อนเวลาไปเที่ยวต่างประเทศเราชอบซื้อสะสมแก้วสตาร์บัค แผ่นดินไหวครั้งใหญ่มา มันตกแตกไปหลายใบเสียดาย (ตอนนี้เลิกซื้อแก้วสตาร์บัคเก็บสะสมแล้ว)
เก็บเงิน เก็บทอง แต่ก่อนซื้อสลากออมสิน สลากธกส. แต่พอสองสลากนี้ครบอายุฝาก เราไม่ซื้อต่อแล้ว ปัจจุบันเริ่มลงทุนซื้อกองทุนรวมที่ญี่ปุ่น
ถือเงินบาทกับเงินเยนญี่ปุ่น
เราใช้ชีวิตอยู่2คนกับสามี เราไม่มีลูกไม่มีทายาทค่ะ ตั้งแต่แต่งงานมาเราไม่เคยท้อง และไม่เคยแท้ง เรากับสามีพูดคุยตกลงกันตั้งแต่แรกเลยว่าเราจะไม่มีลูกค่ะ ทั้งสองคนเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก รักอิสระ ไม่อยากมีห่วงมากๆด้วยค่ะ
ส่วนพ่อกับแม่ของสามีอยู่คนละบ้าน แวะเวียนไปมาหาสู่ดูแลอยู่เป็นประจำค่ะ(อายุ81แล้วทั้งคู่)
เราไม่มีหนี้ ไม่กู้เงิน ประหยัดอดออม หมั่นเก็บหอมรอมริบ เอาไว้ใช้จ่ายตอนแก่ตัวลง (อีก5-10ปีสามีจะเกษียณ ระหว่างทางภายในระยะเวลา10ปีนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตเราอีกบ้าง ก็เลยพยายามระมัดระวังการใช้ชีวิตค่ะ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สิ่งไม่คาดฝันมันมักเกิดขึ้นได้เสมอ)
หลังจากที่เจอแผ่นดินไหว สึนามิ
4ปีก่อน เจอพายุไต้ฝุ่น พัดแท่งเหล็กปลิวมาเสียบหน้าต่างบ้านกระจกแตก แท่งเหล็กปลิวไปเสียบในกระถางต้นไม้ที่ปลูกผักสวนครัวไว้ริมระเบียงหลังบ้าน โชคดีที่คนไม่เป็นอะไร ปลอดภัยดี แต่กระจกหน้าต่างแตก ก็ต้องเสียเงินซ่อม(ยังดีที่บ้านทำประกันภัยไว้)
แล้วหลังจากนั้น ก็มีโควิด-19 มา
เราว่าชีวิตเราเจออะไรๆมาเยอะมากเลย จากที่กลัวมาก ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากอะไรก่อน ประสบการณ์ชีวิตมันสอนให้เรามีสติ รอบคอบมากขึ้น คิดพิจารณาไตร่ตรองมากขึ้น และมันทำให้เราเข้มแข็ง หัวใจแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
สุดท้ายเราเชื่อว่า สึนามิทางด้านเศรษฐกิจครั้งนี้ เราจะสามารถประคับประคอง จะต้องผ่านมันไปให้ได้ค่ะ
สู้ๆไปด้วยกันนะคะ ทุกคน...
(มีเงินก็ซื้อไม่ได้ เพราะของไม่มี มีจำนวนจำกัด) น้ำดื่ม1.2ลิตร ทางร้านกำหนดให้ซื้อได้แค่คนละ2ขวด
กว่าจะกล้าออกไปไหนมาไหนที่ไกลจากบ้าน ใช้เวลาทำใจอยู่นานเกือบครึ่งปี
ของแบรนด์เนมเทขายเกือบหมดตู้ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน (เลิกซื้อของแบรนด์เนมไปโดยปริยาย)
ตุนข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ไว้เผื่อฉุกเฉินจำเป็น เพราะแผ่นดินไหวกับสึนามิมันมาปุบปับกระทันหัน แม้จะมีสัญญาณเตือนภัยก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
อะไรไม่จำเป็นไม่เอา ไม่ซื้อ ของประดับตกแต่งบ้านไม่มีเลย เพราะเวลามีแผ่นดินไหว ของบางอย่างมันตกแตก อย่างสมัยก่อนเวลาไปเที่ยวต่างประเทศเราชอบซื้อสะสมแก้วสตาร์บัค แผ่นดินไหวครั้งใหญ่มา มันตกแตกไปหลายใบเสียดาย (ตอนนี้เลิกซื้อแก้วสตาร์บัคเก็บสะสมแล้ว)
เก็บเงิน เก็บทอง แต่ก่อนซื้อสลากออมสิน สลากธกส. แต่พอสองสลากนี้ครบอายุฝาก เราไม่ซื้อต่อแล้ว ปัจจุบันเริ่มลงทุนซื้อกองทุนรวมที่ญี่ปุ่น
ถือเงินบาทกับเงินเยนญี่ปุ่น
เราใช้ชีวิตอยู่2คนกับสามี เราไม่มีลูกไม่มีทายาทค่ะ ตั้งแต่แต่งงานมาเราไม่เคยท้อง และไม่เคยแท้ง เรากับสามีพูดคุยตกลงกันตั้งแต่แรกเลยว่าเราจะไม่มีลูกค่ะ ทั้งสองคนเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก รักอิสระ ไม่อยากมีห่วงมากๆด้วยค่ะ
ส่วนพ่อกับแม่ของสามีอยู่คนละบ้าน แวะเวียนไปมาหาสู่ดูแลอยู่เป็นประจำค่ะ(อายุ81แล้วทั้งคู่)
เราไม่มีหนี้ ไม่กู้เงิน ประหยัดอดออม หมั่นเก็บหอมรอมริบ เอาไว้ใช้จ่ายตอนแก่ตัวลง (อีก5-10ปีสามีจะเกษียณ ระหว่างทางภายในระยะเวลา10ปีนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตเราอีกบ้าง ก็เลยพยายามระมัดระวังการใช้ชีวิตค่ะ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สิ่งไม่คาดฝันมันมักเกิดขึ้นได้เสมอ)
หลังจากที่เจอแผ่นดินไหว สึนามิ
4ปีก่อน เจอพายุไต้ฝุ่น พัดแท่งเหล็กปลิวมาเสียบหน้าต่างบ้านกระจกแตก แท่งเหล็กปลิวไปเสียบในกระถางต้นไม้ที่ปลูกผักสวนครัวไว้ริมระเบียงหลังบ้าน โชคดีที่คนไม่เป็นอะไร ปลอดภัยดี แต่กระจกหน้าต่างแตก ก็ต้องเสียเงินซ่อม(ยังดีที่บ้านทำประกันภัยไว้)
แล้วหลังจากนั้น ก็มีโควิด-19 มา
เราว่าชีวิตเราเจออะไรๆมาเยอะมากเลย จากที่กลัวมาก ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากอะไรก่อน ประสบการณ์ชีวิตมันสอนให้เรามีสติ รอบคอบมากขึ้น คิดพิจารณาไตร่ตรองมากขึ้น และมันทำให้เราเข้มแข็ง หัวใจแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
สุดท้ายเราเชื่อว่า สึนามิทางด้านเศรษฐกิจครั้งนี้ เราจะสามารถประคับประคอง จะต้องผ่านมันไปให้ได้ค่ะ
สู้ๆไปด้วยกันนะคะ ทุกคน...
แสดงความคิดเห็น
คุณมีการวางแผนเกษียณอย่างไร กับสึนามิของเงินเฟ้อครั้งนี้ที่โหดร้าย รุนแรง ทั่วโลก
เงินเก็บของท่าน ก็จะมีอำนาจการซื้อลดลง
ราวกับ ชายชราสมัยเด็กที่เคยได้เงินเดือนงาม=สองพันบาทสมัยของเขา
ราคาบ้านพักคนชราก็จะต้องราคาเฟ้อไปตามเงินเฟ้อ
ราคาผู้ดูแล พยาบาล หมอ โรงพยาบาล ค่ารักษา ค่าเดินทาง เฟ้อหมด
คนเราน่ะ อาจจะตายอายุเก้าสิบปีก็ได้นะครับ ใครจะมั่นใจ การไม่มีรายได้สามสิบปี? กับเงินเฟ้อระดับนี้
คุณมีการวางแผนเกษียณอย่างไร