คุณมีการวางแผนเกษียณอย่างไร กับสึนามิของเงินเฟ้อครั้งนี้ที่โหดร้าย รุนแรง ทั่วโลก

เงินเฟ้อออกอาการไปทั่วโลกกับพิษพิมพ์แบงค์โควิดของสารพัดประเทศ
เงินเก็บของท่าน  ก็จะมีอำนาจการซื้อลดลง
ราวกับ ชายชราสมัยเด็กที่เคยได้เงินเดือนงาม=สองพันบาทสมัยของเขา
ราคาบ้านพักคนชราก็จะต้องราคาเฟ้อไปตามเงินเฟ้อ
ราคาผู้ดูแล พยาบาล หมอ  โรงพยาบาล ค่ารักษา ค่าเดินทาง เฟ้อหมด
คนเราน่ะ อาจจะตายอายุเก้าสิบปีก็ได้นะครับ  ใครจะมั่นใจ การไม่มีรายได้สามสิบปี? กับเงินเฟ้อระดับนี้
คุณมีการวางแผนเกษียณอย่างไร
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ส่วนตัวผมทำคล้ายเดิมนะครับ จริงๆไม่ได้ทำแบบนี้เพราะเตรียมสำหรับการเกษียณ แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่อยากทำทุกวันในชีวิตอยู่แล้วครับ

ผมใช้หลักการง่ายๆธรรมดาๆที่คนส่วนใหญ่น่าจะเคยได้ยินกันครับ คือ เก็บเงินและลงทุน(ก่อนใช้), ไม่สร้างหนี้ , ไม่สะสมสิ่งของให้เป็นภาระ (มีแค่พอใช้), ออกกำลังกายรักษาสุขภาพกาย/จิตใจ (ช่วยประหยัดค่ายา ค่าหมอและไม่เป็นภาระให้คนในครอบครัว) ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีสติไม่ประมาท (ช่วยลดการเกิดอุบัติ/การทะเลาะเบาะแว้งโดยไม่จำเป็น) เป็นต้นครับ

ช่วงนี้ก็คงจะมีระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้นบ้าง
(แต่คงไม่ถึงกับอดอยาก ยังเน้นเก็บบ้างใช้บ้าง เดินทางสายกลางครับ) และก็มีชะลอการลงทุนก้อนใหญ่ๆในสินทรัพย์เสี่ยงออกไปก่อนครับ
ความคิดเห็นที่ 6
แผ่นดินไหวและสึนามิของจริงเราก็เคยเจอเคยผ่านมันมาแล้ว ตอนนั้นสาหัสมากๆของกินของใช้ข้าวสารอาหารแห้งขาดแคลนอย่างหนัก
(มีเงินก็ซื้อไม่ได้ เพราะของไม่มี มีจำนวนจำกัด) น้ำดื่ม1.2ลิตร ทางร้านกำหนดให้ซื้อได้แค่คนละ2ขวด
กว่าจะกล้าออกไปไหนมาไหนที่ไกลจากบ้าน ใช้เวลาทำใจอยู่นานเกือบครึ่งปี

ของแบรนด์เนมเทขายเกือบหมดตู้ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน (เลิกซื้อของแบรนด์เนมไปโดยปริยาย)

ตุนข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ไว้เผื่อฉุกเฉินจำเป็น เพราะแผ่นดินไหวกับสึนามิมันมาปุบปับกระทันหัน แม้จะมีสัญญาณเตือนภัยก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

อะไรไม่จำเป็นไม่เอา ไม่ซื้อ ของประดับตกแต่งบ้านไม่มีเลย เพราะเวลามีแผ่นดินไหว ของบางอย่างมันตกแตก อย่างสมัยก่อนเวลาไปเที่ยวต่างประเทศเราชอบซื้อสะสมแก้วสตาร์บัค แผ่นดินไหวครั้งใหญ่มา มันตกแตกไปหลายใบเสียดาย (ตอนนี้เลิกซื้อแก้วสตาร์บัคเก็บสะสมแล้ว)

เก็บเงิน เก็บทอง แต่ก่อนซื้อสลากออมสิน สลากธกส. แต่พอสองสลากนี้ครบอายุฝาก เราไม่ซื้อต่อแล้ว ปัจจุบันเริ่มลงทุนซื้อกองทุนรวมที่ญี่ปุ่น

ถือเงินบาทกับเงินเยนญี่ปุ่น

เราใช้ชีวิตอยู่2คนกับสามี เราไม่มีลูกไม่มีทายาทค่ะ ตั้งแต่แต่งงานมาเราไม่เคยท้อง และไม่เคยแท้ง เรากับสามีพูดคุยตกลงกันตั้งแต่แรกเลยว่าเราจะไม่มีลูกค่ะ ทั้งสองคนเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก รักอิสระ ไม่อยากมีห่วงมากๆด้วยค่ะ  
ส่วนพ่อกับแม่ของสามีอยู่คนละบ้าน แวะเวียนไปมาหาสู่ดูแลอยู่เป็นประจำค่ะ(อายุ81แล้วทั้งคู่)

เราไม่มีหนี้ ไม่กู้เงิน ประหยัดอดออม หมั่นเก็บหอมรอมริบ เอาไว้ใช้จ่ายตอนแก่ตัวลง (อีก5-10ปีสามีจะเกษียณ ระหว่างทางภายในระยะเวลา10ปีนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตเราอีกบ้าง ก็เลยพยายามระมัดระวังการใช้ชีวิตค่ะ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สิ่งไม่คาดฝันมันมักเกิดขึ้นได้เสมอ)

หลังจากที่เจอแผ่นดินไหว สึนามิ

4ปีก่อน เจอพายุไต้ฝุ่น พัดแท่งเหล็กปลิวมาเสียบหน้าต่างบ้านกระจกแตก แท่งเหล็กปลิวไปเสียบในกระถางต้นไม้ที่ปลูกผักสวนครัวไว้ริมระเบียงหลังบ้าน โชคดีที่คนไม่เป็นอะไร ปลอดภัยดี แต่กระจกหน้าต่างแตก ก็ต้องเสียเงินซ่อม(ยังดีที่บ้านทำประกันภัยไว้)

แล้วหลังจากนั้น ก็มีโควิด-19 มา

เราว่าชีวิตเราเจออะไรๆมาเยอะมากเลย จากที่กลัวมาก ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากอะไรก่อน ประสบการณ์ชีวิตมันสอนให้เรามีสติ รอบคอบมากขึ้น คิดพิจารณาไตร่ตรองมากขึ้น และมันทำให้เราเข้มแข็ง หัวใจแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม


สุดท้ายเราเชื่อว่า สึนามิทางด้านเศรษฐกิจครั้งนี้ เราจะสามารถประคับประคอง จะต้องผ่านมันไปให้ได้ค่ะ

สู้ๆไปด้วยกันนะคะ ทุกคน...
ความคิดเห็นที่ 5
อาจจะจนลง แต่คงไม่ถึงกับตาย

บอกตรงๆ
ข้าวของแพงทั้งโลก
ผมก็เพิ่งเคยเจอ
ในเซนต์ผม
อดีต ของเราแพงเพราะเราอ่อนแอ
คราวนี้ต้นทางคือทั้งโลก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่