ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากจะบอกว่า เสื่อผืน หมอนไม่มีสักใบ เข้ากรุงมา แบบทุลักทุเล เริ่มต้นว่ามีเงิน 500 บาทค่าเดินทางก็จะหมดแล้ว
เข้ามาถึงก็งงทางเลย อยากสมัครทำงาน ด้านขาย เนื่องจากจะได้ขายเป็น แต่ไม่มีใครรับเลยเพราะเราดูโทรมเด็กไม่มีประสบการ เฮียๆเลยไม่รับ คืนแรก ก็นอนวัดสิครับ เนื่องจากสมัยเด็กๆ เราไปวัดบ่อยเลยรู้วิธีขอข้าวกินกับหาที่นอน นอนข้างเมรุก็ยอม
1 อาทิตย์ที่วัด เต็มๆ ที่พึ่งใบบุญหลวงตา และแม่ครัว จนได้งานแรก ขายทีวี ทีวีแบบตู้เล็กๆ ขายดีมาก เพราะชาวบ้านฮิตกัน ซึ่งสมัยนี้คงเป็นจอแบนหมดแล้ว ก็เริ่มได้ความรู้ด้านนี้ดี
ขายมาได้ 3 ปี เริ่มรู้ทางหนีทีไล่ เลยหามาขายเองมั่ง เห้ย ขายได้ว้อย กำไรไม่มาก แต่ก็ มีมากกว่าค่าจ้างละกัน จนยุค เครื่องเล่นแผ่นถูกๆมาไม่กี่พัน ผมจับมาขายได้กำไรเทน้ำเทท่า ถ้าจำกันได้ยุคนั้นคนซื้อแผ่นเถื่อน แผ่น18+ กันเยอะ สมัยนั้นต้องบอกเลยหาลูกค้า พูดประโยคเดียวก็ขายได้ "โป๊ไหมพี่" จนหมดยุคเครื่องห่วยๆ เล่นไม่ทีพัง
ผมเลยหันมาขายทีวีแบบ flat screen ซึ่งมันเริ่มมาละ ขายดี แต่เป็นของจีน คุณภาพไม่ค่อยดี แต่ใันถูก ถูกใจชาวบ้านด้วย ก็ขายดีจนมาถึงยุค มือถือ touch screen ผมก็ล้มละลายเพราะมีแต่คนซื้อมือถือแทนทีวี เลยต้องออกจากวงการทีวีไป
และก็มาถึงจุดเปลี่ยนชีวิตผม เงินหมดตัว แถมมีหนี้ เลยหันมามาทำงานประจำ ไปขายของตามห้าง ประทังชีวิตได้ ก็จะเริ่มใหม่ครับเมื่อมีโอกาส
อยากถามว่ามีใครมีประสบการณ์ประสบความสำเร็จไหมครับมาแชร์กันได้
คนจีนสมัยก่อนมาเสื่อผืนหมอนใบ มีใครสมัยนี้มาเสื้อผืนหมอนใบเข้ากรุงแล้วพลิกชีวิตบ้าง
เข้ามาถึงก็งงทางเลย อยากสมัครทำงาน ด้านขาย เนื่องจากจะได้ขายเป็น แต่ไม่มีใครรับเลยเพราะเราดูโทรมเด็กไม่มีประสบการ เฮียๆเลยไม่รับ คืนแรก ก็นอนวัดสิครับ เนื่องจากสมัยเด็กๆ เราไปวัดบ่อยเลยรู้วิธีขอข้าวกินกับหาที่นอน นอนข้างเมรุก็ยอม
1 อาทิตย์ที่วัด เต็มๆ ที่พึ่งใบบุญหลวงตา และแม่ครัว จนได้งานแรก ขายทีวี ทีวีแบบตู้เล็กๆ ขายดีมาก เพราะชาวบ้านฮิตกัน ซึ่งสมัยนี้คงเป็นจอแบนหมดแล้ว ก็เริ่มได้ความรู้ด้านนี้ดี
ขายมาได้ 3 ปี เริ่มรู้ทางหนีทีไล่ เลยหามาขายเองมั่ง เห้ย ขายได้ว้อย กำไรไม่มาก แต่ก็ มีมากกว่าค่าจ้างละกัน จนยุค เครื่องเล่นแผ่นถูกๆมาไม่กี่พัน ผมจับมาขายได้กำไรเทน้ำเทท่า ถ้าจำกันได้ยุคนั้นคนซื้อแผ่นเถื่อน แผ่น18+ กันเยอะ สมัยนั้นต้องบอกเลยหาลูกค้า พูดประโยคเดียวก็ขายได้ "โป๊ไหมพี่" จนหมดยุคเครื่องห่วยๆ เล่นไม่ทีพัง
ผมเลยหันมาขายทีวีแบบ flat screen ซึ่งมันเริ่มมาละ ขายดี แต่เป็นของจีน คุณภาพไม่ค่อยดี แต่ใันถูก ถูกใจชาวบ้านด้วย ก็ขายดีจนมาถึงยุค มือถือ touch screen ผมก็ล้มละลายเพราะมีแต่คนซื้อมือถือแทนทีวี เลยต้องออกจากวงการทีวีไป
และก็มาถึงจุดเปลี่ยนชีวิตผม เงินหมดตัว แถมมีหนี้ เลยหันมามาทำงานประจำ ไปขายของตามห้าง ประทังชีวิตได้ ก็จะเริ่มใหม่ครับเมื่อมีโอกาส
อยากถามว่ามีใครมีประสบการณ์ประสบความสำเร็จไหมครับมาแชร์กันได้