น้อมรับทุกความคิดเห็น ไม่โกรธกันแสดงความคิดเห็นมาได้เลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จขกท.ไม่ค่อยเอ็นดูเด็กเท่าไหร่แต่จะมีบางคนที่เออน่ารักอยากเข้าหา หรืออีกความหมายนึงคือไม่ชอบเด็ก(บางคน)
เรื่องมีอยู่ว่า มีอยู่คนนึงเอาลูกประมาณ 3-4ขวบเป็นเด็กผู้ชาย มาไว้ที่ทำงาน เพราะที่บ้านก็มีคนเลี้ยงให้แต่ไม่ยอมฝากเลี้ยง ไม่รู้ทำไม
ซึ่งก็เข้าใจในความเป็นเด็กอ่ะเนอะว่าต้องมีซนเป็นธรรมดา แต่เด็กคนนี้พูดไม่ค่อยชัดแต่รู้เรื่องทุกอย่างนะแต่นี่มันเกิดเด็กแล้ว เรื่องของนิสัยเลย
เป็นเด็กติดโทรศัพท์มาก คนที่ทำงานจับโทรศัพท์หรือคุยโทรศัพท์จะต้องเดินเข้าไปหาทุกคนแล้วก็ไปยืนพูดอยู่ข้างๆในทำนองขอ โวยวาย เสียงดังใส่
ผลักเก้าอี้ แล้วก็พูดๆๆๆๆๆๆๆ คือทุกคนก็ต่างทำงานกันไม่ได้มีเวลามาเลี้ยงดูให้ (ส่วนตัวผู้ปกครองของเด็กคนนี้ออกไปส่งงานข้างนอก
แล้วก็ปล่อยให้ลูกอยู่ในบริษัท) บางคนก็คุยเล่นด้วย บางคนก็เอาสมุดระบายสีมาให้ แต่ก็ไม่ยอม วาดรูปเล่นก็ไม่ ร้องแต่จะเอาโทรศัพท์อย่างเดียว
ด้วยความที่ผมสงสารผมก็เอาโทรศัพท์ของบริษัทให้ไปดูการ์ตูน อ่ะก็เงียบ ซักพักนึงมีลูกค้าโทรเข้ามา แล้วพี่ข้างโต๊ะบอกว่า หนูขอโทรศัพท์คืนหน่อยเร็ว
เด็กคนนี้ก็ยังคงนิ่งไม่ยอมคืน นอนดูต่อ โทรศัพท์จากลูกค้ายังคงดังต่อ พูดดีครั้งที่สองก็ไม่ยอมคืน เงยขึ้นมามองหน้า ทำตาจิกแรงๆใส่ ทำตาขวางใส่
แบะปากจะแหกปากร้อง ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ถูกแต่ก็ต้องรีบหยิบออกมาจากมือเพื่อยื่นให้พี่โต๊ะข้างๆรับสายลูกค้า พอไม่มีไรให้ดูแล้วผมก็สละโทรศัพท์ของผมเอาให้เด็กดูการ์ตูน ผ่านไปไม่นานมีสายเข้าจากโทรศัพท์ของผม ทีนี้ผมหันไปมองแล้วนั่งดูสิว่าเด็กคนนี้จะทำยังไง เด็กคนนี้ก็ยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติงใดๆ
พูดกับเด็กว่า ขอคืนนะ พูดดีๆขอดีๆ ไม่ยอม ทีนี้ผมเลยจะไปดึงออกจากมือ ปรากฏว่า โยนโทรศัพท์ให้ผม แล้วทำกิริยาคือ มองแล้วจิกตาใส่ไม่พอใจ แล้วพูดๆๆๆตะโกนใส่ซึ่งฟังไม่รู้เรื่องเพราะเด็กคนนี้ น่าจะพัฒนาการช้า พูดไม่ชัดฟังไม่รู้เรื่องเลย ผมนี่สะตั้นกับพฤติกรรมของเด็กคนนี้เลย คือทางบ้านเขาสอนมายังไงอ่ะซึ่งคนในบริษัทก็มีคนพูดเตือนกับผู้ปกครองของเด็กคนนี้นะ แต่เหมือนเขามองว่า "ก็แล้วทำไมอ่ะ เด็กก็คือเด็กอ่ะ ซนตามเรื่องตามราวปกติมั้ย แล้วไม่เอาโทรศัพท์ให้มันดูการ์ตูนล่ะ" เจอประโยคนี้ตอกหน้ากลับมานี่อึ้งเลย ก็พอได้คำตอบแล้วว่าพฤติกรรมและนิสัยของเด็กทำไมถึงก้าวร้าวอย่างนี้
จากคำพูดของเด็กที่ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างได้ใจความว่า ทำมะจะดูตูน เอามานี่ แล้วก็แบะปากร้อง แล้วก็ชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอกไปลานจอดรถ
เออรถจะชนตาย ให้มานอนเล่นอยู่ข้างในแอร์เย็นๆไม่ยอมอยู่ เรียกเข้ามาก็ไม่ยอมเข้ามา เถียงใส่ แล้วก็ไปปีนของที่จะส่งให้ลูกค้าเล่นไม่พอเอาน้ำเอาข้าวไปเทใส่ของๆลูกค้า เละเทะหมดเลย ซึ่งพี่ๆในบริษัทเอือมระอานะ (ผมแอบได้ยินเขาพูดกระซิบกัน)
ไม่ใช่แค่นั้น มีอยู่วันนึงพี่โต๊ะข้างๆผมเขาลางาน แล้วเด็กคนนี้ก็ไปปืนโต๊ะพี่เขาเล่น ผมก็บอกว่า หนูครับลงมาครับอย่าขึ้นไปปืนเล่น ก็ไม่ฟัง
เอาเท้าไปเหยีบคีย์บอร์ดเล่น บอกให้ลงมาอีกรอบก็ไม่ลง เถียงฉอดๆๆเถียงแบบไม่มีใครฟังรู้เรื่อง
จนพี่ผู้หญิงคนนึงเขาทำงานอยู่ทนไม่ไหวลุกขึ้นมาอุ้มเด็กคนนั้นลงจากโต๊ะ เพราะโต๊ะเริ่มเละเทะแล้ว เลยเอาไม้บรรทัดเล็กๆตีไปแต่ไม่แรงมาก
เท่านั้นแหละ แหกปากไม่หยุดเลย ยิ่งบอกให้เงียบยิ่งร้องแถมแกล้งร้องไม่หยุดด้วย จับตัวไม่ได้เลยเอามือผลักออกเอาเท้าถีบพี่คนนั้น กรี๊ดใส่หน้า
ถ้าจะให้แจ้งหัวหน้าก็คงเฉยๆเพราะเขาเป็นญาติกัน แต่พี่ๆในแผนกเขาไม่ค่อยโอเค นอกจากงานที่เยอะแล้วก็ไม่มีใครมาว่างมาดูแลให้แถมเด็กก็นิสัยแบบนี้อีกยิ่งไม่มีใครอยากเลี้ยงหรือเข้าใกล้ ก็ปล่อยเลยไม่สนใจ แต่ก็พอรู้มาว่า เด็กถูกแม่ทิ้งไปมีผัวใหม่ไปตอน 2 ขวบ ส่วนเด็กก็อยู่กับทางพ่อ และทางบ้านพ่อเด็กก็รักเด็กคนนี้นะ แต่น่าจะเลี้ยงแบบผิดๆและไม่ได้มีธีการสอนหรือเลี้ยงดูที่ถูกต้อง และเอามาทุกวันตั้งแต่ยังไม่เข้าเรียนยันเข้าโรงเรียน ก็เอาอาศัยวานคนนึงให้ไปรับเด็กคนนี้ที่โรงเรียนทุกวัน อาทิตย์แรกเหมือนทางโรงเรียนจะให้เลิกไวมั้ง รับมาจากโรงเรียนช่วง 11 โมง แล้วก็อยู่ซนในสำนักงานยันเลิกงานเลย
เป็นอย่างนี้ทุกวันก็ไม่ไหว วุ่นวาย จะคุยงานกับลูกค้าก็เสียงดังรอดเข้ามา กรี๊ดบ้างตะโกนบ้างอยู่คนเดียว จนโดนลูกค้าว่า บอกให้เด็กเงียบได้ไหมคะ
ดีลงานกันไม่รู้เรื่องเลย(ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของทางเราด้วย)
อ่ะทีนี้เรามาว่าด้วยเรื่องการเลี้ยงดูเด็ก และพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของเด็ก ทุกคนคิดเห็นอย่างไรบ้าง
เมื่อคนในที่ทำงานเอาลูกมาไว้ในบริษัท ความวุ่นวายและน่ารำคาญจึงเกิดขึ้น
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จขกท.ไม่ค่อยเอ็นดูเด็กเท่าไหร่แต่จะมีบางคนที่เออน่ารักอยากเข้าหา หรืออีกความหมายนึงคือไม่ชอบเด็ก(บางคน)
เรื่องมีอยู่ว่า มีอยู่คนนึงเอาลูกประมาณ 3-4ขวบเป็นเด็กผู้ชาย มาไว้ที่ทำงาน เพราะที่บ้านก็มีคนเลี้ยงให้แต่ไม่ยอมฝากเลี้ยง ไม่รู้ทำไม
ซึ่งก็เข้าใจในความเป็นเด็กอ่ะเนอะว่าต้องมีซนเป็นธรรมดา แต่เด็กคนนี้พูดไม่ค่อยชัดแต่รู้เรื่องทุกอย่างนะแต่นี่มันเกิดเด็กแล้ว เรื่องของนิสัยเลย
เป็นเด็กติดโทรศัพท์มาก คนที่ทำงานจับโทรศัพท์หรือคุยโทรศัพท์จะต้องเดินเข้าไปหาทุกคนแล้วก็ไปยืนพูดอยู่ข้างๆในทำนองขอ โวยวาย เสียงดังใส่
ผลักเก้าอี้ แล้วก็พูดๆๆๆๆๆๆๆ คือทุกคนก็ต่างทำงานกันไม่ได้มีเวลามาเลี้ยงดูให้ (ส่วนตัวผู้ปกครองของเด็กคนนี้ออกไปส่งงานข้างนอก
แล้วก็ปล่อยให้ลูกอยู่ในบริษัท) บางคนก็คุยเล่นด้วย บางคนก็เอาสมุดระบายสีมาให้ แต่ก็ไม่ยอม วาดรูปเล่นก็ไม่ ร้องแต่จะเอาโทรศัพท์อย่างเดียว
ด้วยความที่ผมสงสารผมก็เอาโทรศัพท์ของบริษัทให้ไปดูการ์ตูน อ่ะก็เงียบ ซักพักนึงมีลูกค้าโทรเข้ามา แล้วพี่ข้างโต๊ะบอกว่า หนูขอโทรศัพท์คืนหน่อยเร็ว
เด็กคนนี้ก็ยังคงนิ่งไม่ยอมคืน นอนดูต่อ โทรศัพท์จากลูกค้ายังคงดังต่อ พูดดีครั้งที่สองก็ไม่ยอมคืน เงยขึ้นมามองหน้า ทำตาจิกแรงๆใส่ ทำตาขวางใส่
แบะปากจะแหกปากร้อง ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ถูกแต่ก็ต้องรีบหยิบออกมาจากมือเพื่อยื่นให้พี่โต๊ะข้างๆรับสายลูกค้า พอไม่มีไรให้ดูแล้วผมก็สละโทรศัพท์ของผมเอาให้เด็กดูการ์ตูน ผ่านไปไม่นานมีสายเข้าจากโทรศัพท์ของผม ทีนี้ผมหันไปมองแล้วนั่งดูสิว่าเด็กคนนี้จะทำยังไง เด็กคนนี้ก็ยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติงใดๆ
พูดกับเด็กว่า ขอคืนนะ พูดดีๆขอดีๆ ไม่ยอม ทีนี้ผมเลยจะไปดึงออกจากมือ ปรากฏว่า โยนโทรศัพท์ให้ผม แล้วทำกิริยาคือ มองแล้วจิกตาใส่ไม่พอใจ แล้วพูดๆๆๆตะโกนใส่ซึ่งฟังไม่รู้เรื่องเพราะเด็กคนนี้ น่าจะพัฒนาการช้า พูดไม่ชัดฟังไม่รู้เรื่องเลย ผมนี่สะตั้นกับพฤติกรรมของเด็กคนนี้เลย คือทางบ้านเขาสอนมายังไงอ่ะซึ่งคนในบริษัทก็มีคนพูดเตือนกับผู้ปกครองของเด็กคนนี้นะ แต่เหมือนเขามองว่า "ก็แล้วทำไมอ่ะ เด็กก็คือเด็กอ่ะ ซนตามเรื่องตามราวปกติมั้ย แล้วไม่เอาโทรศัพท์ให้มันดูการ์ตูนล่ะ" เจอประโยคนี้ตอกหน้ากลับมานี่อึ้งเลย ก็พอได้คำตอบแล้วว่าพฤติกรรมและนิสัยของเด็กทำไมถึงก้าวร้าวอย่างนี้
จากคำพูดของเด็กที่ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างได้ใจความว่า ทำมะจะดูตูน เอามานี่ แล้วก็แบะปากร้อง แล้วก็ชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอกไปลานจอดรถ
เออรถจะชนตาย ให้มานอนเล่นอยู่ข้างในแอร์เย็นๆไม่ยอมอยู่ เรียกเข้ามาก็ไม่ยอมเข้ามา เถียงใส่ แล้วก็ไปปีนของที่จะส่งให้ลูกค้าเล่นไม่พอเอาน้ำเอาข้าวไปเทใส่ของๆลูกค้า เละเทะหมดเลย ซึ่งพี่ๆในบริษัทเอือมระอานะ (ผมแอบได้ยินเขาพูดกระซิบกัน)
ไม่ใช่แค่นั้น มีอยู่วันนึงพี่โต๊ะข้างๆผมเขาลางาน แล้วเด็กคนนี้ก็ไปปืนโต๊ะพี่เขาเล่น ผมก็บอกว่า หนูครับลงมาครับอย่าขึ้นไปปืนเล่น ก็ไม่ฟัง
เอาเท้าไปเหยีบคีย์บอร์ดเล่น บอกให้ลงมาอีกรอบก็ไม่ลง เถียงฉอดๆๆเถียงแบบไม่มีใครฟังรู้เรื่อง
จนพี่ผู้หญิงคนนึงเขาทำงานอยู่ทนไม่ไหวลุกขึ้นมาอุ้มเด็กคนนั้นลงจากโต๊ะ เพราะโต๊ะเริ่มเละเทะแล้ว เลยเอาไม้บรรทัดเล็กๆตีไปแต่ไม่แรงมาก
เท่านั้นแหละ แหกปากไม่หยุดเลย ยิ่งบอกให้เงียบยิ่งร้องแถมแกล้งร้องไม่หยุดด้วย จับตัวไม่ได้เลยเอามือผลักออกเอาเท้าถีบพี่คนนั้น กรี๊ดใส่หน้า
ถ้าจะให้แจ้งหัวหน้าก็คงเฉยๆเพราะเขาเป็นญาติกัน แต่พี่ๆในแผนกเขาไม่ค่อยโอเค นอกจากงานที่เยอะแล้วก็ไม่มีใครมาว่างมาดูแลให้แถมเด็กก็นิสัยแบบนี้อีกยิ่งไม่มีใครอยากเลี้ยงหรือเข้าใกล้ ก็ปล่อยเลยไม่สนใจ แต่ก็พอรู้มาว่า เด็กถูกแม่ทิ้งไปมีผัวใหม่ไปตอน 2 ขวบ ส่วนเด็กก็อยู่กับทางพ่อ และทางบ้านพ่อเด็กก็รักเด็กคนนี้นะ แต่น่าจะเลี้ยงแบบผิดๆและไม่ได้มีธีการสอนหรือเลี้ยงดูที่ถูกต้อง และเอามาทุกวันตั้งแต่ยังไม่เข้าเรียนยันเข้าโรงเรียน ก็เอาอาศัยวานคนนึงให้ไปรับเด็กคนนี้ที่โรงเรียนทุกวัน อาทิตย์แรกเหมือนทางโรงเรียนจะให้เลิกไวมั้ง รับมาจากโรงเรียนช่วง 11 โมง แล้วก็อยู่ซนในสำนักงานยันเลิกงานเลย
เป็นอย่างนี้ทุกวันก็ไม่ไหว วุ่นวาย จะคุยงานกับลูกค้าก็เสียงดังรอดเข้ามา กรี๊ดบ้างตะโกนบ้างอยู่คนเดียว จนโดนลูกค้าว่า บอกให้เด็กเงียบได้ไหมคะ
ดีลงานกันไม่รู้เรื่องเลย(ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของทางเราด้วย)
อ่ะทีนี้เรามาว่าด้วยเรื่องการเลี้ยงดูเด็ก และพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของเด็ก ทุกคนคิดเห็นอย่างไรบ้าง