ก่อนจะมาตั้งกระทู้เราไปฉะกับผู้หญิงที่เป็นลูกค้าคนนั้นในเวลาเกิดเหตุแล้ว เนื่องด้วยเราอ่ะสงสารพนักงานที่เขาเป็นลูกจ้างของร้านกาแฟ โดนด่ากราดจิกหัวเรียกอีเรียกไอ้ ด่าถึงพ่อถึงแม่ ลูกค้าอย่างเราที่นั่งอยู่ในร้านก็ทนไม่ได้ต้องออกโรงปกป้องพนักงานในยามเกิดเหตุ แล้วจะขอมาพิมพ์เล่าใน pantip เพื่อถามความคิดเห็นของทุกคนว่าสิ่งที่ฉันรู้สึกเนี่ยมันแปลกจากที่คนปกติเขารู้สึกไหม
เกิดเหตุที่ร้านกาแฟมีแบรนด์ที่ตั้งอยู่กลางลานจอดรถของตลาดโกสุมรวมใจเขตดอนเมือง
มีผัวเมียคู่นึงเป็นชายหญิงค่ะ ตัวภรรยาไปสั่งเครื่องดื่มที่เป็นชาเขียวเย็นแก้วนึง ขอเป็นชาเขียวเย็นแต่ไม่ใส่น้ำแข็ง ทางร้านก็เตรียมให้ตามสูตรเลย คือชาเขียวในปริมาณเดียวกันกับที่สูตรที่ใส่น้ำแข็งเลยค่ะ ไม่ได้เพิ่มหรือไม่ได้ลดปริมาตรอะไร สูตรมาตรฐานเป็นยังไงก็คือสูตรนั้น ราคาก็คิดเท่าเครื่องดื่มเย็นทั่วไป เพราะเขาไม่ได้บวกค่าน้ำแข็งอยู่แล้ว
สมมตินะคะ อยากให้พี่ลองมองภาพตาม ยามเราเดินไปร้านกาแฟทั่วไปไม่ว่าจะเป็นกาแฟโบราณ ร้านขายของชำที่มีน้ำอัดลมขาย ก็จะอารามประมาณว่า เราเดินไปสั่งแม่ค้า ว่าเอาโค้กใส่ถุงมาหนึ่ง แม่ค้าเขาก็จะตักน้ำแข็งใส่ถุงให้เต็มถุง แล้วก็ใส่เครื่องดื่มที่เป็นน้ำอัดลมไปทีหลังใส่น้ำแข็ง เพราะถ้าเกิดใส่น้ำลงไปในถุงก่อนใส่น้ำแข็งทีหลังเนี่ย เครื่องดื่มมันจะไม่ซ่า
อีกอย่างนึงนะคะอันนี้คือที่สังเกตเลย น้ำอัดลมขวดแก้วทุกขวดหากไม่ได้แช่เย็นแล้วเปิดใส่ถุง ต่อให้ใส่น้ำแข็งมันก็จะไม่ซ่าเท่ากับขวดน้ำอัดลมที่แช่เย็นมาแล้ว
แล้วเวลาแม่ค้าใส่น้ำอ่ะก็จะใส่โค้กทั้งขวดจนหมดขวดตามปริมาณเต็มเลย พอน้ำอัดลมไปผสมกับน้ำแข็งที่อยู่ในถุงมันก็จะได้เครื่องดื่มที่เต็มถุงถูกต้องไหมคะ?
แต่ถ้าเกิดว่าลูกค้าเดินไปบอกแม่ค้าอีกว่าไม่ใส่น้ำแข็งนะเอาโค้กใส่ถุงเพียวๆ ใส่หลอด พอแม่ค้าใส่โค้กลงไปในถุงมันก็จะได้น้ำโค้กแค่ขึ้นค่อนถุง ยังไม่ถึงครึ่งถุงเสียด้วยซ้ำ ดิฉันก็ไม่เคยเห็นแม่ค้าที่ไหนเขาจะเอาใจลูกค้าโดยการเปิดโค้กขวดที่ 2 หรือขวดที่ 3 ใส่ลงไปในถุงเพิ่มเพื่อให้ถุงมันเต็ม เพราะปริมาณโค้ก 1 ขวดมันมีเท่านั้นเขาก็ใส่เท่านั้นตามมาตรฐานเดียวกัน สินค้าทุกอย่างและบริการในมีต้นทุน พอจะมองภาพนี้ออกไหมคะ
เคสนี้ก็เหมือนกันในเมื่อชาเขียวของทางร้านน่ะเขากำหนดปริมาณมาว่า 1 แก้วต้องใส่ 12 ออนซ์เขาก็ใส่แค่ 12 ออนซ์ หากอยากได้เต็มแก้วก็ต้องใส่น้ำแข็งไปอีก ถ้าไม่ใส่น้ำแข็งมันก็จะได้แค่น้ำ 12 oz เพียว ๆ ครึ่งแก้วนั่นแหละค่ะ
เคสนี้ก็เหมือนกันค่ะ พนักงานผู้หญิงก็ทำชาเขียวใส่แก้วเย็น โดยปริมาณชาเขียวก็เป็นปริมาณดั้งเดิมตามสูตร แต่สุดท้ายชาเขียวที่อยู่ในแก้วมันไม่เต็มแก้วเพราะมันขาดน้ำแข็งไป ผู้หญิงคนนั้นน่ะตอนรับออเดอร์ก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่พนักงานจนถือแก้วน้ำเดินมานั่งที่โต๊ะกับผัวดูดไปได้ 2-3 ที (ในความรู้สึกเรานะการที่คุณรับสินค้ามาแล้วดูดไปแล้ว แถมดูดไป 3 ที คุณจะไปเปลี่ยนคืนกับพนักงานไม่ได้เพราะถือว่าคุณได้พิจารณาและยอมรับสินค้าบริการนั้นแล้ว นอกเสียจากว่า ติดใจในรสชาติหรือคุณภาพอาหาร หรือกินไปชิ้นนึงแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติ อาทิ สั่ง KFC ได้เฟรนฟรายมา แต่พอกินเฟรนฟรายไป 1 คำรู้สึกว่าเฟรนฟรายเหี่ยวย่นไม่กรอบแถมบางอันยังแข็ง อย่างนี้เปลี่ยนได้ หรือซื้อไก่ทอดมา แต่พอกินไปได้คำนึงรู้สึกว่าไก่มันเป็นไก่เก่าค้างคืน อันนี้ก็สามารถเปลี่ยนได้เหมือนกัน)
แต่กับเคสนี้มันไม่ใช่ปัญหาที่คุณภาพสินค้าหรือว่ารสชาติเครื่องดื่ทเลย นางติดใจในปริมาตรน้ำ และอันที่จริงอ่ะถ้านางติดใจไอ้แค่เรื่องปริมาตรน้ำครึ่งแก้วอ่ะนางก็ควรสอบถามพนักงานตั้งแต่เขาเอามาวางให้คุณที่เคาน์เตอร์แล้วไม่ใช่เดินไปหยิบมาดูดแล้วค่อยไปด่า
แต่นี่ นางลุกพรวดขึ้นไปแล้วเอาแก้วไปกระแทกที่หน้าเคาน์เตอร์ใส่หน้าพนักงานผู้หญิงที่ทำเครื่องดื่มให้แล้วด่าว่า (ตรงนี้ดิฉันจะไม่ขอใช้คำพูดดั้งเดิมที่ผู้หญิงคนนี้พูดกับพนักงานนะคะเพราะมันเป็นคำผรุสวาท แต่ดิฉันจะขอพิมพ์เรียบง่ายให้ทุกคนเข้าใจในภาษาสุภาพ) ลูกค้าปัญญาอ่อนคนนั้นพูดว่า "นี่น้องพนักงาน...ที่ร้านเขาไม่ได้อบรมสั่งสอนหรอเรื่องมาตรฐานในการบริการลูกค้าเหรอ เวลาสั่งทุกครั้งมันก็ได้เต็มแก้วทุกครั้ง ทำไมรอบนี้คุณมาโกงลูกค้าใส่ให้แค่ครึ่งแก้ว อีกครึ่งนึงหายไปไหน นิสัยขี้โกงลูกค้าแบบนี้สงสัยคงเป็นมาตั้งแต่ชั้นบุพการี พ่อแม่คงไม่ได้สั่งไม่ได้สอนเรื่องความซื่อสัตย์ ถ้าคุณใส่น้ำให้ฉันแค่ครึ่งแก้วเนี่ยคุณคิดแค่ครึ่งราคาได้ไหมล่ะ เนี่ย...ฉันไปร้านอื่นไม่เคยจะเห็นมีปัญหาอย่างนี้เลยมีแต่ร้านนี้นี่แหละ รอบก่อนมาซื้อสาขานี้สั่งใส่น้ำแข็งก็ได้เต็มแก้วทุกครั้ง แล้วทำไมรอบนี้มาสั่งถึงได้ลดปริมาณน้ำลงฉันไปสั่งร้านอื่นเขาก็ให้เต็มแก้วเหมือนกัน เดี๋ยวฉันจะร้องเรียนคอมเพลนไปกับสำนักงานใหญ่ว่าสาขานี้ขี้โกงลูกค้าเก็บเต็มราคาแต่ใส่น้ำครึ่งแก้ว เตรียมตัวตกงานได้เลยทั้งร้าน และจะเอาความถึงที่สุดร้องไปสคบ.คุ้มครองผู้บริโภค"
อิฉันฟัง อีฉันรู้สึกสตั้น และด้วยดิฉันเนี่ยรู้สึกสงสารน้องพนักงานเพราะน้องพนักงานน่ะโดนด่ากราดถึงขนาดนี้แถมยังถูกชี้หน้าด่าประจานต่อหน้าลูกค้าคนอื่น เธอได้แต่ก้มหน้ายืนกุมมือตัวเอง มีเสียงสะอื้นและร้องไห้นิดๆ ด้วยนะคะเป็นใครจะทนไหว ฉันเลยลุกขึ้นไปแล้วก็ฉะกันกับนางเป็นที่เรียบร้อย รายละเอียดตรงนี้ดิฉันไม่ขอเล่าอะไรมากเพราะตอนนั้นมันโมโหก็ขึ้นคำหยาบคายใส่ลูกค้าคนนั้นไปเหมือนกัน แต่ที่หนักไปกว่านั้นเนี่ย อันนี้คือฉันยอมไม่ได้เลย ถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกับลูกค้าปัญญาอ่อนคนดังกล่าว คือนางคงกร่างที่มีผัวมาด้วยนางก็เอาน้ำเครื่องดื่มชาเขียวที่ตัวเองสั่งแล้วได้ครึ่งแก้วเนี่ยสาดหน้าพนักงานเลยค่ะ ตรงนี้ดิฉันแทบจะปรี่เข้าไปตบละ แต่ตัวผัวนางดึงแขนออกจากร้านไปก่อนแล้วก็รีบขับรถเบิ่งออกไป ฉันเลยคิดด่าอีนี่ในใจ เก่งแต่กับตอนอยู่กับผัว ลองอยู่ตัวตัวกับกูสิกูจะได้ตบหน้าหล่อนก่อน มีสิทธิ์อะไรไปทำร้ายพนักงานแค่ด่าก็ยังไม่มีสิทธิเลย ไม่อยู่ก่อนล่ะกูจะได้ตบ
หลังจากนางออกจากร้านไปเราก็ได้แนะนำน้องพนักงานให้เก็บวีดีโอกล้องวงจรปิดไว้ แล้วพานางไปที่สถานีตำรวจ แจ้งความฐานหมิ่นประมาทและในเรื่องของการสาดน้ำก็ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกายให้ได้รับผลกระทบทางกายและจิตใจด้วยเช่นเดียวกันก็เลยแจ้งความไปสองกระทงเลยแล้วเอาใบแจ้งความไปให้ผู้จัดการร้าน โชคดีที่ผู้จัดการร้านที่เนี่ยดูแลลูกน้องดีมากๆเด็กพนักงานเรียกผู้จัดการสาขาว่าแม่ทุกคน รักกันเหมือนแม่ลูกและครอบครัวเดียวกันและผู้จัดการก็ไม่ไว้ลูกค้าคนนั้นเหมือนกันจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
ประเด็นที่เรามาตั้งกระทู้เนี่ยเราอ่ะรู้สึกว่าลูกค้าคนนี้เกินไปหรือเปล่า สงสัยคงติดสันดานเวลากดน้ำตามพวกร้านบุฟเฟ่ต์หรือเซเว่นมากเกินไป มองภาพออกไหมคะเวลาเราไปซื้อน้ำที่เซเว่นน่ะมันเป็นแก้วรีฟิวที่เราสามารถกดได้ จะใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่น้ำแข็งก็ได้เพราะเขาขายแก้วไม่ได้ขายน้ำ ต่อให้คุณกดแต่น้ำเพียวๆเต็มแก้วคุณก็ทำได้ นางก็คงติดสันดานเวลาเข้าเซเว่นแล้วกดบิ๊กคัพนั่นแหละค่ะเลยไม่รู้มาตรฐานว่าร้านกาแฟสดหรือร้านเครื่องดื่มที่เขาขายในรูปแบบไม่ refill เขาให้ปริมาณในการขายสินค้าของเขายังไง
ก็ในเมื่อมาตรฐานร้านเขาเป็นแบบนี้ เครื่องดื่ม 1 แก้ว 22 ออนซ์จะประกอบไปด้วยน้ำ 12 ออนซ์ มันก็จะได้ครึ่งแก้วส่วนที่เหลือร้านเขาก็จะใส่น้ำแข็งลงไปเพิ่มเพื่อให้ปริมาณเครื่องดื่มมันเต็มแก้ว ลูกค้าหลายคนน่ะไม่พอใจเวลาที่ได้เครื่องดื่มแค่ครึ่งแก้วเพราะสั่งไม่ใส่น้ำแข็งพอได้เครื่องดื่มน้อยก็ไปด่าพนักงาน
อยากรู้จังว่าสันดานลูกค้าประเภทนี้ เขาเกิดมายังไง โตมาในสังคมแบบไหน
โมโหแทน ในเมื่อสั่งไม่ใส่น้ำแข็งเองคุณก็ต้องยอมรับในปริมาณน้ำที่คุณได้มานี่ มันไม่ใช่น้ำรีฟิวที่คุณจะสามารถกดเครื่องดื่มเพียวๆเปล่าๆได้เต็มแก้วโดยไม่ใส่น้ำแข็งของทุกอย่างก็มีต้นทุน อย่าเอาสันดานที่บ้านและก็อย่าเอาสันดานเวลากดน้ำ refill ตามเซเว่นมาใช้กับร้านค้าประเภทนี้ ปัญญาอ่อนสิ้นดี
"ลูกค้าปัญญาอ่อน" เข้าร้านกาแฟสั่งน้ำใส่แก้ว "ไม่ใส่น้ำแข็ง" แต่ได้น้ำครึ่งแก้ว ด่ากราดประจานพนักงาน ทุเรศไหมคะ
เกิดเหตุที่ร้านกาแฟมีแบรนด์ที่ตั้งอยู่กลางลานจอดรถของตลาดโกสุมรวมใจเขตดอนเมือง
มีผัวเมียคู่นึงเป็นชายหญิงค่ะ ตัวภรรยาไปสั่งเครื่องดื่มที่เป็นชาเขียวเย็นแก้วนึง ขอเป็นชาเขียวเย็นแต่ไม่ใส่น้ำแข็ง ทางร้านก็เตรียมให้ตามสูตรเลย คือชาเขียวในปริมาณเดียวกันกับที่สูตรที่ใส่น้ำแข็งเลยค่ะ ไม่ได้เพิ่มหรือไม่ได้ลดปริมาตรอะไร สูตรมาตรฐานเป็นยังไงก็คือสูตรนั้น ราคาก็คิดเท่าเครื่องดื่มเย็นทั่วไป เพราะเขาไม่ได้บวกค่าน้ำแข็งอยู่แล้ว
สมมตินะคะ อยากให้พี่ลองมองภาพตาม ยามเราเดินไปร้านกาแฟทั่วไปไม่ว่าจะเป็นกาแฟโบราณ ร้านขายของชำที่มีน้ำอัดลมขาย ก็จะอารามประมาณว่า เราเดินไปสั่งแม่ค้า ว่าเอาโค้กใส่ถุงมาหนึ่ง แม่ค้าเขาก็จะตักน้ำแข็งใส่ถุงให้เต็มถุง แล้วก็ใส่เครื่องดื่มที่เป็นน้ำอัดลมไปทีหลังใส่น้ำแข็ง เพราะถ้าเกิดใส่น้ำลงไปในถุงก่อนใส่น้ำแข็งทีหลังเนี่ย เครื่องดื่มมันจะไม่ซ่า
อีกอย่างนึงนะคะอันนี้คือที่สังเกตเลย น้ำอัดลมขวดแก้วทุกขวดหากไม่ได้แช่เย็นแล้วเปิดใส่ถุง ต่อให้ใส่น้ำแข็งมันก็จะไม่ซ่าเท่ากับขวดน้ำอัดลมที่แช่เย็นมาแล้ว
แล้วเวลาแม่ค้าใส่น้ำอ่ะก็จะใส่โค้กทั้งขวดจนหมดขวดตามปริมาณเต็มเลย พอน้ำอัดลมไปผสมกับน้ำแข็งที่อยู่ในถุงมันก็จะได้เครื่องดื่มที่เต็มถุงถูกต้องไหมคะ?
แต่ถ้าเกิดว่าลูกค้าเดินไปบอกแม่ค้าอีกว่าไม่ใส่น้ำแข็งนะเอาโค้กใส่ถุงเพียวๆ ใส่หลอด พอแม่ค้าใส่โค้กลงไปในถุงมันก็จะได้น้ำโค้กแค่ขึ้นค่อนถุง ยังไม่ถึงครึ่งถุงเสียด้วยซ้ำ ดิฉันก็ไม่เคยเห็นแม่ค้าที่ไหนเขาจะเอาใจลูกค้าโดยการเปิดโค้กขวดที่ 2 หรือขวดที่ 3 ใส่ลงไปในถุงเพิ่มเพื่อให้ถุงมันเต็ม เพราะปริมาณโค้ก 1 ขวดมันมีเท่านั้นเขาก็ใส่เท่านั้นตามมาตรฐานเดียวกัน สินค้าทุกอย่างและบริการในมีต้นทุน พอจะมองภาพนี้ออกไหมคะ
เคสนี้ก็เหมือนกันในเมื่อชาเขียวของทางร้านน่ะเขากำหนดปริมาณมาว่า 1 แก้วต้องใส่ 12 ออนซ์เขาก็ใส่แค่ 12 ออนซ์ หากอยากได้เต็มแก้วก็ต้องใส่น้ำแข็งไปอีก ถ้าไม่ใส่น้ำแข็งมันก็จะได้แค่น้ำ 12 oz เพียว ๆ ครึ่งแก้วนั่นแหละค่ะ
เคสนี้ก็เหมือนกันค่ะ พนักงานผู้หญิงก็ทำชาเขียวใส่แก้วเย็น โดยปริมาณชาเขียวก็เป็นปริมาณดั้งเดิมตามสูตร แต่สุดท้ายชาเขียวที่อยู่ในแก้วมันไม่เต็มแก้วเพราะมันขาดน้ำแข็งไป ผู้หญิงคนนั้นน่ะตอนรับออเดอร์ก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่พนักงานจนถือแก้วน้ำเดินมานั่งที่โต๊ะกับผัวดูดไปได้ 2-3 ที (ในความรู้สึกเรานะการที่คุณรับสินค้ามาแล้วดูดไปแล้ว แถมดูดไป 3 ที คุณจะไปเปลี่ยนคืนกับพนักงานไม่ได้เพราะถือว่าคุณได้พิจารณาและยอมรับสินค้าบริการนั้นแล้ว นอกเสียจากว่า ติดใจในรสชาติหรือคุณภาพอาหาร หรือกินไปชิ้นนึงแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติ อาทิ สั่ง KFC ได้เฟรนฟรายมา แต่พอกินเฟรนฟรายไป 1 คำรู้สึกว่าเฟรนฟรายเหี่ยวย่นไม่กรอบแถมบางอันยังแข็ง อย่างนี้เปลี่ยนได้ หรือซื้อไก่ทอดมา แต่พอกินไปได้คำนึงรู้สึกว่าไก่มันเป็นไก่เก่าค้างคืน อันนี้ก็สามารถเปลี่ยนได้เหมือนกัน)
แต่กับเคสนี้มันไม่ใช่ปัญหาที่คุณภาพสินค้าหรือว่ารสชาติเครื่องดื่ทเลย นางติดใจในปริมาตรน้ำ และอันที่จริงอ่ะถ้านางติดใจไอ้แค่เรื่องปริมาตรน้ำครึ่งแก้วอ่ะนางก็ควรสอบถามพนักงานตั้งแต่เขาเอามาวางให้คุณที่เคาน์เตอร์แล้วไม่ใช่เดินไปหยิบมาดูดแล้วค่อยไปด่า
แต่นี่ นางลุกพรวดขึ้นไปแล้วเอาแก้วไปกระแทกที่หน้าเคาน์เตอร์ใส่หน้าพนักงานผู้หญิงที่ทำเครื่องดื่มให้แล้วด่าว่า (ตรงนี้ดิฉันจะไม่ขอใช้คำพูดดั้งเดิมที่ผู้หญิงคนนี้พูดกับพนักงานนะคะเพราะมันเป็นคำผรุสวาท แต่ดิฉันจะขอพิมพ์เรียบง่ายให้ทุกคนเข้าใจในภาษาสุภาพ) ลูกค้าปัญญาอ่อนคนนั้นพูดว่า "นี่น้องพนักงาน...ที่ร้านเขาไม่ได้อบรมสั่งสอนหรอเรื่องมาตรฐานในการบริการลูกค้าเหรอ เวลาสั่งทุกครั้งมันก็ได้เต็มแก้วทุกครั้ง ทำไมรอบนี้คุณมาโกงลูกค้าใส่ให้แค่ครึ่งแก้ว อีกครึ่งนึงหายไปไหน นิสัยขี้โกงลูกค้าแบบนี้สงสัยคงเป็นมาตั้งแต่ชั้นบุพการี พ่อแม่คงไม่ได้สั่งไม่ได้สอนเรื่องความซื่อสัตย์ ถ้าคุณใส่น้ำให้ฉันแค่ครึ่งแก้วเนี่ยคุณคิดแค่ครึ่งราคาได้ไหมล่ะ เนี่ย...ฉันไปร้านอื่นไม่เคยจะเห็นมีปัญหาอย่างนี้เลยมีแต่ร้านนี้นี่แหละ รอบก่อนมาซื้อสาขานี้สั่งใส่น้ำแข็งก็ได้เต็มแก้วทุกครั้ง แล้วทำไมรอบนี้มาสั่งถึงได้ลดปริมาณน้ำลงฉันไปสั่งร้านอื่นเขาก็ให้เต็มแก้วเหมือนกัน เดี๋ยวฉันจะร้องเรียนคอมเพลนไปกับสำนักงานใหญ่ว่าสาขานี้ขี้โกงลูกค้าเก็บเต็มราคาแต่ใส่น้ำครึ่งแก้ว เตรียมตัวตกงานได้เลยทั้งร้าน และจะเอาความถึงที่สุดร้องไปสคบ.คุ้มครองผู้บริโภค"
อิฉันฟัง อีฉันรู้สึกสตั้น และด้วยดิฉันเนี่ยรู้สึกสงสารน้องพนักงานเพราะน้องพนักงานน่ะโดนด่ากราดถึงขนาดนี้แถมยังถูกชี้หน้าด่าประจานต่อหน้าลูกค้าคนอื่น เธอได้แต่ก้มหน้ายืนกุมมือตัวเอง มีเสียงสะอื้นและร้องไห้นิดๆ ด้วยนะคะเป็นใครจะทนไหว ฉันเลยลุกขึ้นไปแล้วก็ฉะกันกับนางเป็นที่เรียบร้อย รายละเอียดตรงนี้ดิฉันไม่ขอเล่าอะไรมากเพราะตอนนั้นมันโมโหก็ขึ้นคำหยาบคายใส่ลูกค้าคนนั้นไปเหมือนกัน แต่ที่หนักไปกว่านั้นเนี่ย อันนี้คือฉันยอมไม่ได้เลย ถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกับลูกค้าปัญญาอ่อนคนดังกล่าว คือนางคงกร่างที่มีผัวมาด้วยนางก็เอาน้ำเครื่องดื่มชาเขียวที่ตัวเองสั่งแล้วได้ครึ่งแก้วเนี่ยสาดหน้าพนักงานเลยค่ะ ตรงนี้ดิฉันแทบจะปรี่เข้าไปตบละ แต่ตัวผัวนางดึงแขนออกจากร้านไปก่อนแล้วก็รีบขับรถเบิ่งออกไป ฉันเลยคิดด่าอีนี่ในใจ เก่งแต่กับตอนอยู่กับผัว ลองอยู่ตัวตัวกับกูสิกูจะได้ตบหน้าหล่อนก่อน มีสิทธิ์อะไรไปทำร้ายพนักงานแค่ด่าก็ยังไม่มีสิทธิเลย ไม่อยู่ก่อนล่ะกูจะได้ตบ
หลังจากนางออกจากร้านไปเราก็ได้แนะนำน้องพนักงานให้เก็บวีดีโอกล้องวงจรปิดไว้ แล้วพานางไปที่สถานีตำรวจ แจ้งความฐานหมิ่นประมาทและในเรื่องของการสาดน้ำก็ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกายให้ได้รับผลกระทบทางกายและจิตใจด้วยเช่นเดียวกันก็เลยแจ้งความไปสองกระทงเลยแล้วเอาใบแจ้งความไปให้ผู้จัดการร้าน โชคดีที่ผู้จัดการร้านที่เนี่ยดูแลลูกน้องดีมากๆเด็กพนักงานเรียกผู้จัดการสาขาว่าแม่ทุกคน รักกันเหมือนแม่ลูกและครอบครัวเดียวกันและผู้จัดการก็ไม่ไว้ลูกค้าคนนั้นเหมือนกันจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
ประเด็นที่เรามาตั้งกระทู้เนี่ยเราอ่ะรู้สึกว่าลูกค้าคนนี้เกินไปหรือเปล่า สงสัยคงติดสันดานเวลากดน้ำตามพวกร้านบุฟเฟ่ต์หรือเซเว่นมากเกินไป มองภาพออกไหมคะเวลาเราไปซื้อน้ำที่เซเว่นน่ะมันเป็นแก้วรีฟิวที่เราสามารถกดได้ จะใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่น้ำแข็งก็ได้เพราะเขาขายแก้วไม่ได้ขายน้ำ ต่อให้คุณกดแต่น้ำเพียวๆเต็มแก้วคุณก็ทำได้ นางก็คงติดสันดานเวลาเข้าเซเว่นแล้วกดบิ๊กคัพนั่นแหละค่ะเลยไม่รู้มาตรฐานว่าร้านกาแฟสดหรือร้านเครื่องดื่มที่เขาขายในรูปแบบไม่ refill เขาให้ปริมาณในการขายสินค้าของเขายังไง
ก็ในเมื่อมาตรฐานร้านเขาเป็นแบบนี้ เครื่องดื่ม 1 แก้ว 22 ออนซ์จะประกอบไปด้วยน้ำ 12 ออนซ์ มันก็จะได้ครึ่งแก้วส่วนที่เหลือร้านเขาก็จะใส่น้ำแข็งลงไปเพิ่มเพื่อให้ปริมาณเครื่องดื่มมันเต็มแก้ว ลูกค้าหลายคนน่ะไม่พอใจเวลาที่ได้เครื่องดื่มแค่ครึ่งแก้วเพราะสั่งไม่ใส่น้ำแข็งพอได้เครื่องดื่มน้อยก็ไปด่าพนักงาน
อยากรู้จังว่าสันดานลูกค้าประเภทนี้ เขาเกิดมายังไง โตมาในสังคมแบบไหน
โมโหแทน ในเมื่อสั่งไม่ใส่น้ำแข็งเองคุณก็ต้องยอมรับในปริมาณน้ำที่คุณได้มานี่ มันไม่ใช่น้ำรีฟิวที่คุณจะสามารถกดเครื่องดื่มเพียวๆเปล่าๆได้เต็มแก้วโดยไม่ใส่น้ำแข็งของทุกอย่างก็มีต้นทุน อย่าเอาสันดานที่บ้านและก็อย่าเอาสันดานเวลากดน้ำ refill ตามเซเว่นมาใช้กับร้านค้าประเภทนี้ ปัญญาอ่อนสิ้นดี