คัดบางช่วงบางตอนเฉพาะที่เป็นภาษาไทย จากการสนทนาธรรมไทย - ฮินดี ที่โรงแรม Lineage เมืองลัคเนาว์ ประเทศอินเดียว วันอังคารที่ 24 พ.ค. 2565
(ในระหว่างการสนทนาธรรมกับชาวอินเดีย จะมีคุณสุชิน เป็นล่ามแปลจากภาษาไทย เป็นภาษาฮินดี แล้วแปลคำถามของผู้ฟังจากภาษาฮินดีกลับมาเป็นภาษาไทย)
เมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน พระพุทธเจ้าตรัสในดินแดนพุทธภูมิว่า "สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนย่อมดับไปเป็นธรรมดา" และพระอรหันตสาวกและภิกษุสงฆ์ได้ประกาศคำของพระพุทธองค์สืบทอดต่อมาเป็นพันกว่าปีในดินแดนพุทธภูมิ จนถึงกาลที่พระพุทธศาสนา
ได้เสื่อมสูญไปจากดินแดนพุทธภูมิในชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงเพิ่งได้เริ่มมีการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิเมื่อประมาณร้อยกว่าปีก่อน โดยท่านอนาคาริก ธรรมปาละ ซึ่งได้อุทิศชีวิตถวายต่อพระพุทธองค์ในการฟื้นฟูพุทธศาสนาที่อินเดีย และได้ก่อตั้งสมาคมมหาโพธิ์
เพื่อเรียกร้องสิทธิของชาวพุทธในอินเดียในการที่จะขอคืนพุทธคยาจากพวกมหันต์ที่เป็นผู้ครอบครองพุทธคยาอยู่ในเวลานั้น
ทุกวันนี้ อาจจะมีวัดในศาสนาพุทธมากมายในอินเดีย มีการสวดภาษาบาลี ซึ่งก็เป็นภาษาที่ชาวอินเดียไม่เข้าใจแล้วในทุกวันนี้
การนำพระสัจธรรมคำจริงของพระศาสดากลับไปถ่ายทอดเป็นภาษาที่พวกเค้าเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องอะไร ทำไมคำสอนของพระพุทธองค์จึงแตกต่างจากคำสอนของผู้อื่น เพราะทุกศาสนาก็สอนให้ทำความดี สอนให้เป็นคนดี แต่พระพุทธเจ้านอกจากจะทรงสอนให้ทำความดี แต่สิ่งสำคัญ
ที่สุด คือสอนให้เข้าใจถึงสภาพธรรมทั้งปวงว่าเป็นอนัตตา ไม่มีเรา ไม่มีตัวตน สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนย่อมดับไปเป็นธรรมดา เป็นไปตามกระแสปัจจยาการที่เป็นเหตุเป็นปัจจัย ปรุงแต่งให้เกิดขึ้น แล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลย เรื่องราวที่เกิดเมื่อวาน ดับไปแล้ว ไม่มีทางที่จะกลับมาอีกแล้ว
แม้รสอาหารอร่อยที่รับประทานเมื่อเช้า ก็ดับไปหมดแล้ว ไม่มีทางที่จะกลับมาได้อีก ถ้าทานใหม่ ก็เป็นรสใหม่ เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้นี้ ก็ดับไปแล้วทุกขณะ
สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา เกิดแล้วดับ ไม่กลับมาอีกเลย.
(ในระหว่างการสนทนาธรรมกับชาวอินเดีย จะมีคุณสุชิน เป็นล่ามแปลจากภาษาไทย เป็นภาษาฮินดี แล้วแปลคำถามของผู้ฟังจากภาษาฮินดีกลับมาเป็นภาษาไทย)
เมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน พระพุทธเจ้าตรัสในดินแดนพุทธภูมิว่า "สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนย่อมดับไปเป็นธรรมดา" และพระอรหันตสาวกและภิกษุสงฆ์ได้ประกาศคำของพระพุทธองค์สืบทอดต่อมาเป็นพันกว่าปีในดินแดนพุทธภูมิ จนถึงกาลที่พระพุทธศาสนา
ได้เสื่อมสูญไปจากดินแดนพุทธภูมิในชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงเพิ่งได้เริ่มมีการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิเมื่อประมาณร้อยกว่าปีก่อน โดยท่านอนาคาริก ธรรมปาละ ซึ่งได้อุทิศชีวิตถวายต่อพระพุทธองค์ในการฟื้นฟูพุทธศาสนาที่อินเดีย และได้ก่อตั้งสมาคมมหาโพธิ์
เพื่อเรียกร้องสิทธิของชาวพุทธในอินเดียในการที่จะขอคืนพุทธคยาจากพวกมหันต์ที่เป็นผู้ครอบครองพุทธคยาอยู่ในเวลานั้น
ทุกวันนี้ อาจจะมีวัดในศาสนาพุทธมากมายในอินเดีย มีการสวดภาษาบาลี ซึ่งก็เป็นภาษาที่ชาวอินเดียไม่เข้าใจแล้วในทุกวันนี้
การนำพระสัจธรรมคำจริงของพระศาสดากลับไปถ่ายทอดเป็นภาษาที่พวกเค้าเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องอะไร ทำไมคำสอนของพระพุทธองค์จึงแตกต่างจากคำสอนของผู้อื่น เพราะทุกศาสนาก็สอนให้ทำความดี สอนให้เป็นคนดี แต่พระพุทธเจ้านอกจากจะทรงสอนให้ทำความดี แต่สิ่งสำคัญ
ที่สุด คือสอนให้เข้าใจถึงสภาพธรรมทั้งปวงว่าเป็นอนัตตา ไม่มีเรา ไม่มีตัวตน สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนย่อมดับไปเป็นธรรมดา เป็นไปตามกระแสปัจจยาการที่เป็นเหตุเป็นปัจจัย ปรุงแต่งให้เกิดขึ้น แล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลย เรื่องราวที่เกิดเมื่อวาน ดับไปแล้ว ไม่มีทางที่จะกลับมาอีกแล้ว
แม้รสอาหารอร่อยที่รับประทานเมื่อเช้า ก็ดับไปหมดแล้ว ไม่มีทางที่จะกลับมาได้อีก ถ้าทานใหม่ ก็เป็นรสใหม่ เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้นี้ ก็ดับไปแล้วทุกขณะ