คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ขายได้สิ และขายดีด้วย เพราะประเทศอเมริกามันใหญ่นะ ไม่ใช่ทุกที่จะมี charge station
ถึงแม้ว่า EV จะขายดีขึ้น แต่ market share ก็ต่ำกว่ารถน้ำมันเยอะมากนะ
ไม่ถึง 5% ของรถที่ขายทั้งหมดใน ไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 เลยด้วยซ้ำ
As 2021 came to a close, the worsening chip shortage dominated automotive headlines. Inventory was slim to none, and dealer markups were complicating the market for buyers. By year’s end, plug-in vehicles (fully battery-electric and plug-in hybrids) claimed 4.8% market share in the United States. Battery-electric vehicles were 3.4% of all new car sales in the US in 2021. In Q4 of 2021, that figure reached 4.5%.
ถึงแม้ว่า EV จะขายดีขึ้น แต่ market share ก็ต่ำกว่ารถน้ำมันเยอะมากนะ
ไม่ถึง 5% ของรถที่ขายทั้งหมดใน ไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 เลยด้วยซ้ำ
As 2021 came to a close, the worsening chip shortage dominated automotive headlines. Inventory was slim to none, and dealer markups were complicating the market for buyers. By year’s end, plug-in vehicles (fully battery-electric and plug-in hybrids) claimed 4.8% market share in the United States. Battery-electric vehicles were 3.4% of all new car sales in the US in 2021. In Q4 of 2021, that figure reached 4.5%.
แสดงความคิดเห็น
รถน้ำมันในอเมริกา (และประเทศที่เจริญแล้ว) ยังขายได้อยู่ไหมครับ ?
เพราะขนาดในไทยนำเข้าแพงแสนแพง สถานีชาร์จไม่พร้อมเหมือนต่างประเทศ รวมถึงระบบอะไรหลายอย่างก็ใช้ไม่ได้
แต่ก็ยังมียอดขายและกระแสตอบรับค่อนข้างดี (แสดงว่าคนให้ค่ามันสูงกว่าค่าตัวมันเยอะ) ถึงกับยอมบวกราคาให้
ตรงกันข้าม Toyota, Honda (และอีกหลายแบรนด์น้ำมัน) ยังขายในอเมริกาได้อยู่ไหมครับ ?
ในเมื่อเขามีตัวเลือกรถไฟฟ้าที่เยอะกว่าไทยมาก แถมยังมีราคาที่เป็นมิตรมากกว่าหลายเท่า
อยากรู้ว่าถ้ารถน้ำมันยังขายดีอยู่ อะไรคือปัจจัยให้คนเหล่านั้นยังเลือกรถน้ำมันอยู่ครับ ?
สำหรับคนไทยคงเป็นเรื่อง ราคา ราคา และราคา แต่กับประเทศที่รถไฟฟ้าไม่แพง ทำไมคนยังไม่เปลี่ยนใจอีก ?
ขอบคุณครับ