แปลและเรียบเรียง :
ThenativePanda
Source :
Koreaboo
ความลึกซึ้งของ
#ForYouth_BTS ที่ยิ่งฟังยิ่งรักบังทัน ยิ่งอ่านยิ่งภูมิใจในความรักที่เค้ามอบให้
"คุณเป็นเพื่อนที่ผมรู้สึกขอบคุณ เป็นความภูมิใจ เป็นสรวงสวรรค์ และเป็นความรัก"
นับว่า For Youth ได้เชื่อมเนื้อเพลงในอดีตกับเพลงใหม่ออกมาอย่างงดงาม
เริ่มด้วยเสียงของอาร์มี่กำลังเปล่งพลังร้องเพลง
Young Forever ให้บังทันในคอนที่Wembly stadium ที่สร้างความประทับใจให้บังทันอย่างท่วมท้นจนกลายเป็นโมเม้นต์ในตำนานมาจนถึงทุกวันนี้
เปิดท่อนแรกด้วยซอกจินกับจองกุกครุ่นคิดว่าจะเป็นยังไงถ้าพวกเขาไม่มีอาร์มี่อย่างทุกวันนี้
"'ผมคิดถึงคุณ' จนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว"
มันอาจดูแปลก…แต่ถ้าคุณสามารถแสดงความรักได้อย่างเปิดเผย ยาวนานปีแล้วปีเล่า กับใครซักคน และความทุ่มเทให้เขาคนนั้นไม่เคยเปลี่ยนไปเลย นั่นแหละคือ"ความรัก"
ต่อมาแทฮยองได้นำเราย้อนไปสมัยบังทันยังเป็นเทรนนี่ เล่าถึงอารมณ์ของพวกเขาตอนยังเด็ก ที่ไม่ต้องถูกควบคุมจากคำตัดสินของโลกใบนี้
ต่อด้วยซอกจินและจีมินที่เล่าถึงการมี
ARMYเคียงข้างมาตลอดตั้งแต่วันแรก
"เมื่อผมมองย้อนกลับไป คุณอยู่ตรงนี้กับเราเสมอมาและทุกๆวินาทีเหล่านั้นจะคงอยู่ตลอดไป"
ท่อนของนัมจุนชี้ให้เห็นว่าความสิ้นหวังในอดีตของพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นความหวังและความมั่นใจอย่างในปัจจุบันได้อย่างไร
เนื้อเพลงพูดถึงความสัมพันธ์ของพวกเขากับอาร์มี่ว่าเป็นเหมือนบ้าน ที่หมายถึงความปลอดภัยและความสงบสุข
"พอหัวถึงหมอน ฉันก็ไม่อยากตื่น ที่ๆฉันอยู่ตอนนี้ คือบ้านใหม่ของฉัน"
ท่อนฮุคของ For Youthให้อารมณ์ที่ตรงข้ามกับSpring Day
Spring Day เล่าถึงความโหยหาการกลับมาพบกันอีกครั้งของเพื่อนที่ไม่มีวันมาถึง
แต่ For Youth พูดถึงการพบกันอีกครั้งและก้าวเดินไปพร้อมกับเพื่อนตลอดกาล
…
บางที For Youth อาจเป็นคำตอบที่คาดหวังมานานหลายปีของ Spring Day ก็เป็นได้
ท่อนของเจโฮป หยิบยกการนับในเพลง 2! 3! ที่บอกถึงการลืมอดีตที่ไม่ดีแล้วเริ่มใหม่ ส่วนใน For Youthได้ใช้การนับแทนช่วงเวลาที่ผ่านมาว่ามันเปี่ยมด้วยความหมายที่ไม่อาจลืม
"1 2 3 ท่วงทำนองของเราในทุกช่วงเวลา…ผมลืมไม่ลง ดอกไม้ที่ที่นำพาฤดูใบไม้ผลิของฉันมา เพราะคุณ…ผมถึงได้ยืนอยู่ตรงนี้"
ยุนกิอ้างอิงรัศมีของแสงในเพลง
Blueberry Eyes
และท่อน "ค่อยยังชั่วหน่อยที่เป็นคุณ" นั้นอยู่ในรายการ RUN BTS ตอนที่เมมเบอร์แต่งกลอนของตัวเอง
ยุนกิบอกว่า
"…ความฝันของเราคือการบินให้สูง แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ค่อยยังชั่วที่เรามีกัน7คน"
ส่วนเพลงนี้เปลี่ยนเป็น "…ค่อยยังชั่วที่มีพวกคุณ"
อ้างถึงเพลง Run และ Save Me คือ…
อาร์มี่และบังทันยืนเคียงข้างกันแทนที่จะวิ่งหนีแล้วทิ้งอีกคนไว้ข้างหลังเพียงลำพัง
"เราวิ่งแล้วก็ล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน เราต่างช่วยกันค้ำยันขึ้นใหม่ด้วย ถ้าคุณยื่นมือมาให้ผม ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ผมสัญญาว่าจะลุกขึ้นอีกครั้งเสมอ"
จบเพลงลงด้วยเสียงอันนุ่มละมุนของแทฮยอง กับคำปฏิญาณอันแน่วแน่ว่า
"ผมจะอยู่เคียงข้างคุณ ตลอดชีวิตที่เหลือจากนี้ไป"
For Youth นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและคำสัญญา ซึ่งตรงข้ามกับการดำเนินเรื่องของ HYYH หรือ The Most Beautiful Moment In Life ที่เนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยความหวั่นไหวของความหวังที่มีความกลัวซ่อนอยู่
แม้ดนตรีจะดีเลิศและเนื้อเพลงแสนเจ็บปวด แต่นำมาซึ่งความเศร้าทุกครั้งที่ได้ฟัง
แต่เมื่อบังทันโตขึ้น ความเชื่อมั่นในความรักของพวกเขาก็โตตามไปด้วย
เขาพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับความรักของอาร์มี่ และแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะรักอาร์มี่ตลอดไป และขณะเดียวกันก็รักตัวเองได้อย่างลึกซึ้ง
ดนตรีของพวกเขาสะท้อนทัศนคติว่า
"Proof(ข้อพิสูจน์)ทั้งหมดได้ถูกProof(พิสูจน์)แล้ว"
แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับความคิดคำนึงถึงหรือทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง
บังทันเลือกที่จะหวนคิดถึงความฝันในวัยเยาว์ของพวกเขา และบอกกับอาร์มี่และตัวพวกเขาเองว่า…
"ความเจ็บปวดถูกแทนที่ด้วยการรักษา
ความเกลียดชังถูกแทนที่ด้วยความรัก
และความกลัวถูกแทนที่ด้วยความกล้าหาญ"
#ForYouth_BTS "คุณเป็นเพื่อนที่ผมรู้สึกขอบคุณ เป็นความภูมิใจ เป็นสรวงสวรรค์ และเป็นความรัก"
Source : Koreaboo
ความลึกซึ้งของ #ForYouth_BTS ที่ยิ่งฟังยิ่งรักบังทัน ยิ่งอ่านยิ่งภูมิใจในความรักที่เค้ามอบให้
"คุณเป็นเพื่อนที่ผมรู้สึกขอบคุณ เป็นความภูมิใจ เป็นสรวงสวรรค์ และเป็นความรัก"
นับว่า For Youth ได้เชื่อมเนื้อเพลงในอดีตกับเพลงใหม่ออกมาอย่างงดงาม
เริ่มด้วยเสียงของอาร์มี่กำลังเปล่งพลังร้องเพลง Young Forever ให้บังทันในคอนที่Wembly stadium ที่สร้างความประทับใจให้บังทันอย่างท่วมท้นจนกลายเป็นโมเม้นต์ในตำนานมาจนถึงทุกวันนี้
เปิดท่อนแรกด้วยซอกจินกับจองกุกครุ่นคิดว่าจะเป็นยังไงถ้าพวกเขาไม่มีอาร์มี่อย่างทุกวันนี้
"'ผมคิดถึงคุณ' จนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว"
มันอาจดูแปลก…แต่ถ้าคุณสามารถแสดงความรักได้อย่างเปิดเผย ยาวนานปีแล้วปีเล่า กับใครซักคน และความทุ่มเทให้เขาคนนั้นไม่เคยเปลี่ยนไปเลย นั่นแหละคือ"ความรัก"
ต่อมาแทฮยองได้นำเราย้อนไปสมัยบังทันยังเป็นเทรนนี่ เล่าถึงอารมณ์ของพวกเขาตอนยังเด็ก ที่ไม่ต้องถูกควบคุมจากคำตัดสินของโลกใบนี้
ต่อด้วยซอกจินและจีมินที่เล่าถึงการมี ARMYเคียงข้างมาตลอดตั้งแต่วันแรก
"เมื่อผมมองย้อนกลับไป คุณอยู่ตรงนี้กับเราเสมอมาและทุกๆวินาทีเหล่านั้นจะคงอยู่ตลอดไป"
ท่อนของนัมจุนชี้ให้เห็นว่าความสิ้นหวังในอดีตของพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นความหวังและความมั่นใจอย่างในปัจจุบันได้อย่างไร
เนื้อเพลงพูดถึงความสัมพันธ์ของพวกเขากับอาร์มี่ว่าเป็นเหมือนบ้าน ที่หมายถึงความปลอดภัยและความสงบสุข
"พอหัวถึงหมอน ฉันก็ไม่อยากตื่น ที่ๆฉันอยู่ตอนนี้ คือบ้านใหม่ของฉัน"
ท่อนฮุคของ For Youthให้อารมณ์ที่ตรงข้ามกับSpring Day
Spring Day เล่าถึงความโหยหาการกลับมาพบกันอีกครั้งของเพื่อนที่ไม่มีวันมาถึง
แต่ For Youth พูดถึงการพบกันอีกครั้งและก้าวเดินไปพร้อมกับเพื่อนตลอดกาล
…บางที For Youth อาจเป็นคำตอบที่คาดหวังมานานหลายปีของ Spring Day ก็เป็นได้
ท่อนของเจโฮป หยิบยกการนับในเพลง 2! 3! ที่บอกถึงการลืมอดีตที่ไม่ดีแล้วเริ่มใหม่ ส่วนใน For Youthได้ใช้การนับแทนช่วงเวลาที่ผ่านมาว่ามันเปี่ยมด้วยความหมายที่ไม่อาจลืม
"1 2 3 ท่วงทำนองของเราในทุกช่วงเวลา…ผมลืมไม่ลง ดอกไม้ที่ที่นำพาฤดูใบไม้ผลิของฉันมา เพราะคุณ…ผมถึงได้ยืนอยู่ตรงนี้"
ยุนกิอ้างอิงรัศมีของแสงในเพลง Blueberry Eyes
และท่อน "ค่อยยังชั่วหน่อยที่เป็นคุณ" นั้นอยู่ในรายการ RUN BTS ตอนที่เมมเบอร์แต่งกลอนของตัวเอง
ยุนกิบอกว่า "…ความฝันของเราคือการบินให้สูง แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ค่อยยังชั่วที่เรามีกัน7คน"
ส่วนเพลงนี้เปลี่ยนเป็น "…ค่อยยังชั่วที่มีพวกคุณ"
อ้างถึงเพลง Run และ Save Me คือ…
อาร์มี่และบังทันยืนเคียงข้างกันแทนที่จะวิ่งหนีแล้วทิ้งอีกคนไว้ข้างหลังเพียงลำพัง
"เราวิ่งแล้วก็ล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน เราต่างช่วยกันค้ำยันขึ้นใหม่ด้วย ถ้าคุณยื่นมือมาให้ผม ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ผมสัญญาว่าจะลุกขึ้นอีกครั้งเสมอ"
จบเพลงลงด้วยเสียงอันนุ่มละมุนของแทฮยอง กับคำปฏิญาณอันแน่วแน่ว่า "ผมจะอยู่เคียงข้างคุณ ตลอดชีวิตที่เหลือจากนี้ไป"
For Youth นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและคำสัญญา ซึ่งตรงข้ามกับการดำเนินเรื่องของ HYYH หรือ The Most Beautiful Moment In Life ที่เนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยความหวั่นไหวของความหวังที่มีความกลัวซ่อนอยู่
แม้ดนตรีจะดีเลิศและเนื้อเพลงแสนเจ็บปวด แต่นำมาซึ่งความเศร้าทุกครั้งที่ได้ฟัง
แต่เมื่อบังทันโตขึ้น ความเชื่อมั่นในความรักของพวกเขาก็โตตามไปด้วย
เขาพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับความรักของอาร์มี่ และแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะรักอาร์มี่ตลอดไป และขณะเดียวกันก็รักตัวเองได้อย่างลึกซึ้ง
ดนตรีของพวกเขาสะท้อนทัศนคติว่า
"Proof(ข้อพิสูจน์)ทั้งหมดได้ถูกProof(พิสูจน์)แล้ว"
แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับความคิดคำนึงถึงหรือทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง
บังทันเลือกที่จะหวนคิดถึงความฝันในวัยเยาว์ของพวกเขา และบอกกับอาร์มี่และตัวพวกเขาเองว่า…
"ความเจ็บปวดถูกแทนที่ด้วยการรักษา
ความเกลียดชังถูกแทนที่ด้วยความรัก
และความกลัวถูกแทนที่ด้วยความกล้าหาญ"