ระหว่างเรียนกับงานจะเลือกอย่างไหนดี

จขกท ไปสมัครเรียนของวิทยาลัยในวังหญิงไว้ค่ะแผนกอาหารและขนม ปกติแผนกนี้จะรับคนเข้าไปเรียน 45 คน คนที่ผ่านการสัมภาษณ์จะเเบ่งเป็นตัวจริง 45 คนและสำรอง 15 คน ถ้าตัวจริงสละสิทธิ์เขาจะเรียกสำรองเข้าไปแทน ตอนเเรกนึกว่าจะไม่ได้ซะแล้ว เพราะว่าติดสำรองคนสุดท้ายอันดับที่ 15 เลย พอดีว่าวันที่เปิดเทอมเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมามีคนสละสิทธิ์เพิ่มอีกคนนึง ทางนั้นเลยเรียกฉันเข้าไปแทนซึ่งก็เป็นคนสุดท้ายของรุ่นนี้เลย แต่ปัญหามันมีอยู่ว่าฉันก็ยังห่วงงานอยู่ คือก่อนหน้าที่จะไปสมัครเรียน ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทเล็กๆแห่งนึง แต่ว่าไม่ผ่านงานเนื่องจากงานไม่ใช่แนวฉัน แล้วก็มาได้งานใหม่เป็นงานรายวันที่คอนโดแถวบ้าน ค่าแรงวันละ 300 บาท แม่ก็ไม่ค่อยอยากให้ทำตั้งแต่แรกแล้ว เพราะมีแต่เงินเดือนประกันสังคมหรือสวัสดิการอะไรไม่มีเลย แต่ที่ให้ไปทำเพราะมันอยู่ใกล้บ้าน อยู่ตรงข้ามกับซอยที่บ้าน สามารถเดินข้ามสะพานลอยไปทำได้ แม่บอกถ้าไม่ได้เรียนก็ไปทำฆ่าเวลาก่อนก็ได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียค่ารถค่าเดินทาง แล้วก็เป็นงานที่ฉันชอบด้วย ถึงเงินเดือนจะน้อยแต่ก็มีความสุข เป็นงานคีย์ข้อมูลได้อยู่กับตัวเองไม่ต้องยุ่งอะไรกับใคร ก่อนหน้านี้ที่ทำงานบริษัทต้องติดต่อประสานงานกับคนโน้นคนนี้ก็ทำไม่ได้ เพราะทำงานอะไรที่มันวุ่นวายไม่ได้ เมื่อวานวิทยาลัยในวังเรียกให้ไปรายงานตัว ก็เลยตอบตกลงไปก่อน เพราะไม่อยากเสียสิทธิ์แล้วลางานไปวันนึง พอรายงานตัวเสร็จเขาก็เลยให้อยู่เรียนเลย เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นานก็ยังไม่ค่อยมีอะไรให้ทำมาก ไปถึงเขาให้เรียนกันเป็นกลุ่ม เพื่อนๆกำลังช่วยกันเก็บของในครัวอยู่ ฉันก็เข้าไปช่วยเขาเก็บช้อนส้อมใส่กล่อง บรรยากาศก็ดูสนุกดีนะคะได้ช่วยกันได้เพื่อนใหม่ ตอนบ่ายฉันก็ไปวัดตัวตัดชุดแล้วจ่ายค่าชุดไป เนื่องจากต้องใส่เครื่องแบบเรียนด้วย ถึงจะยังไม่ตัดสินใจแน่นอนแต่เขาให้ทำอะไร ก็เตรียมเอาไว้ก่อนเพราะเกิดตัดสินใจเรียนจะได้ไม่ยุ่ง เสียเงินก็ช่างมันเงินทองของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ ใจนึงก็อยากเรียนเพราะถ้าไม่ได้เรียนก็เสียดาย ก่อนหน้านี้ตอนปี 63 กับ 64 ก็เคยมาสมัครเเล้วค่ะ เเต่ไม่ผ่านสัมภาษณ์ปีนี้เป็นปีที่ 3 คือกว่าจะเข้าไปเรียนได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ มีคนที่อยากจะเข้ามาแต่ก็เข้าไม่ได้ตั้งหลายคน คือถ้าจะทิ้งไปก็เหมือนเราไปแย่งสิทธิ์คนอื่นเขา แม่ก็อยากให้เรียนเพราะแม่ชอบทำอาหาร ฉันก็เป็นลูกมือคอยช่วยแม่เป็นบางครั้ง แต่แม่ไม่สามารถเข้าไปเรียนได้เพราะเขารับอายุไม่เกิน 45 เขาบอกว่าถ้าเกิดฉันไม่ได้ทำงานประจำ อย่างน้อยก็ทำอาหารหรือขนมเป็นอาชีพเสริมได้ อย่างน้อยถ้าจบจากวิทยาลัยในวังไปเราก็จะได้เครดิตในระดับนึง แต่อีกใจก็ยังตัดใจจากงานไม่ได้แล้วจะตัดสินใจยังไงดีล่ะเนี่ย คือมัน 2 จิต 2 ใจตัดสินใจไม่ถูกเลยค่ะ คือถ้าเป็นคุณคุณจะเลือกอย่างไหน?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่