หนุ่มสาวชาวเวียดนามกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาประเทศไทย ไม่ใช่เพื่อมาเที่ยวหรือเพื่อสัมมนาวิชาการ แต่เพื่อมาพบ อ.สุจินต์

หลังจากที่ประเทศไทยเปิดประเทศ  กลุ่มหนุ่มสาวชาวเวียดนามที่ใช้ภาษาอังกฤษกันได้ค่อนข้างดีเกือบทุกคน ได้ใช้โอกาสนี้เดินทางเข้ามาประเทศไทย มิใช่เพื่อเที่ยวทัศนาจร หรือเพื่อประชุมสัมมนาวิชาการเพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพการงาน  แต่พวกเค้าตั้งใจมาพบ อ.สุจินต์ เพื่อสนทนาธรรม และใช้เวลาวันหยุดพักร้อนของพวกเขาไปกับการสนทนาธรรมกับ อ.สุจินต์ ตลอดช่วงที่อยู่ในเมืองไทย เริ่มตั้งแต่เช้าและบ่ายของวันที่ 7 มิ.ย. 65 เข้าและบ่ายของวันที่ 8 มิ.ย. เช้าและบ่ายของวันที่ 9 มิ.ย. เช้าและบ่ายของวันที่ 10 มิ.ย. (4 วัน เต็มๆ)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

หนุ่มสาวชาวเวียดนามกลุ่มนี้เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาดี ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี  แต่พวกเขากลับสนใจศึกษาธัมมะ และบอกว่า เสียดายที่ไม่ได้เกิดเป็นคนไทยที่ใช้ภาษาไทย  พวกเราคนไทยล้วนโชคดีกว่าพวกเขาที่สามารถอ่านฟังและเข้าใจภาษาไทยได้  เพราะแม้พวกเค้าจะพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษาแม่ของพวกเค้า   

และยังมีพระภิกษุชาวเวียดนามและชาวเวียดนามอีกจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาด้วยไม่ได้  แต่ตั้งหน้าตั้งตารอโอกาสที่จะได้เจอกับ อ. สุจินต์ ในเวียดนามอีกครั้งหลังจากที่ต้องหยุดเดินทางไปเวียดนามช่วงโควิด
 
พวกเขาได้ใช้ความพยายามในการแปลหนังสือของ อ.สุจินต์ และของคุณนีน่า ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ อ.สุจินต์ มาเป็นภาษาเวียดนาม เพื่อใช้ในการศึกษาธรรม



การเดินทางไปเวียดนาม เพื่อไปสนทนาธรรมกับชาวเวียดนาม ของ อ.สุจินต์ ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 หลังจากที่คุณ Tam Bak ผู้หญิงชาวเวียดนามที่สนใจการปฏิบัติธรรมในไทย  เธอได้เคยเดินทางเข้ามาในไทยหลายครั้ง ตระเวนไปปฏิบัติธรรมทั่วทุกภาคตั้งแต่ภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้   แต่หลังจากที่เธอได้อ่านบทความของคุณโรเบิร์ต แพททริค ลูกศิษย์ของ อ.สุจินต์ ที่เขียนไว้ใน Dhamma Review  เธอก็สนใจที่จะรู้จัก อ.สุจินต์ และได้ติดต่อขอให้คุณโรเบิร์ตพาเธอมาพบ อ.สุจินต์ เพื่อสนทนาธรรม  หลังจากนั้น เมื่อเธอกลับไปเวียดนาม  ก็ได้ติดต่อขอเชิญ อ.สุจินต์ ไปร่วมสนทนาธรรมที่เวียดนาม  ปีแรกที่ไป ยังมีเพียงกลุ่มเล็กๆ ไม่กี่คน และจัดขึ้นที่ร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ อ.สุจินต์ ต้องไต่บันไดเล็กๆ ขึ้นไป  แต่ในปีต่อๆ มา กลุ่มผู้เข้าร่วม ก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น และมีทั้งพระสงฆ์และภิกษุณีในนิกายมหายานของเวียดนาม เข้าร่วมสนทนาด้วย  บางปี ตำรวจเวียดนามต้องมาสั่งให้ยกเลิกการจัดงาน จนต้องย้ายสถานที่เดี๋ยวนั้นเพื่อไปจัดยังนอกเมือง  แต่ผู้คนก็ยังยกขบวนกันตามไปฟัง

คำสอนของพระพุทธเจ้าที่แสดงถึงพระมหาปัญญาที่เป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ผู้คนที่ได้ยินได้ฟัง  ในอดีต การเผยแพร่พระพุทธศาสนาเข้าไปยังดินแดนที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้ามาก่อน คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ผู้ปกครองดินแดนนั้นๆ ยอมรับได้  เว้นแต่คำสอนที่เป็นอนุสาสนีปาฏิหารย์ที่จะโน้มใจคนให้เกิดศรัทธาในพระมหาปัญญาอ้นเลิศยิ่งของพระพุทธเจ้า มิใช่ปาฏิหารย์อื่นใดๆ ทั้งสิ้น



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่