[CR] [CR] รีวิวการทำปุ๋ยอินทรีย์แบบเร่งด่วนด้วยปุ๋ยมูลไส้เดือน วิธีการเลี้ยงตั้งแต่ต้นจนเก็บมูล

ปุ๋ยมูลไส้เดือนได้รับความนิยมในการเลี้ยงมานานแล้ว แต่ยุคนี้เป็นยุคปุ๋ยเคมีแพง คนที่ปลูกต้นไม้หลายคนเริ่มหันมาทางปุ๋ยอินทรีย์ซึ่งได้แก่ปุ๋ยคอกกับปุ๋ยหมักเพื่อลดต้นทุน ซึ่งปุ๋ยมูลไส้เดือนเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก แต่จุดเด่นคือได้ปุ๋ยไปใช้งานเร็วง่ายและราคาถูก


ไส้เดือนที่นิยมเอามาเลี้ยงเพื่อผลิตปุ๋ยคือพันธุ์ African Night Crawler หรือโดยทั่วไปเรียกกันย่อๆว่า ไส้เดือนพันธุ์AF มีจุดเด่นคือตัวใหญ่ กินเก่ง ขยายพันธุ์เร็ว หาซื้อได้ตามเพจฟาร์มเลี้ยงไส้เดือน และ shopee lazada ราคาประมาณกิโลกรัมละ 600 บาท ในการทดลองเลี้ยงตอนแรกๆ ลองสั่งไส้เดือนมาสักครึ่งกิโลก่อน ซึ่งไส้เดือนจะส่งมาพร้อมกับวัสดุเลี้ยงที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและอาหารของไส้เดือนในเวลาเดียวกัน ภาษาของคนเลี้ยงไส้เดือนเรียกวัสดุเลี้ยงนี้ว่า เบดดิ้ง ซึ่งมันก็คือมูลวัวนมที่หมักแช่น้ำหลายๆรอบเพื่อลดกระบวนการย่อยสลายที่ทำให้เกิดความร้อนเพราะเป็นอันตรายกับไส้เดือน 


เบดดิ้งเลี้ยงไส้เดือน สมัยก่อนคนที่เลี้ยงจะต้องทำขึ้นมาเองโดยซื้อมูลวัวนมแห้งมาแช่น้ำหมักไว้แล้วเปลี่ยนน้ำหลายๆรอบแช่ไว้หลายๆวันเพื่อลดความร้อนจากกระบวนการย่อยสลาย เกิดความยุ่งยากเสียเวลา เดี๋ยวนี้ฟาร์มเลี้ยงไส้เดือนหลายแห่งจึงผลิดเบดดิ้งออกมาขายด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนเลี้ยงอื่นๆไม่ต้องมาหมักเอง เบดดิ้งที่มีขายจะมาในรูปแบบบรรจุถุงพลาสติกซีลแน่นน้ำหนักประมาณ 1 กก. ภายในก็คือมูลวัวนมผ่านการหมักแช่น้ำนั่นเอง ถามว่ามูลวัวนี้มีกลิ่นเหม็นรบกวนหรือไม่ ตอบได้เลยว่ามีกลิ่นน้อยมาก มีเฉพาะตอนที่เปิดถุงเบดดิ้งเอาออกมาใช้ใหม่ๆเท่านั้นเพราะมันหมักอยู่ในถุงปิดมาก่อน กลิ่นเหมือนฟางหญ้าเปียกน้ำธรรมดา หลังจากนำมาใช้จะไม่มีกลิ่นอะไรรบกวนออกมาอีกเลย  เบดดิ้งก็สามารถสั่งซื้อได้จากฟาร์มไส้เดือนหรือ shopee lazada เช่นกัน ควรสั่งซื้อเบดดิ้งที่ผ่านการหมักน้ำแล้วเท่านั้นมาใช้ อย่าซื้อเบดดิ้งแบบแห้งที่คนขายบางคนบอกว่าใช้ได้เหมือนกัน มีสารอาหารมากกว่าผสมโน่นนี่นั่น ทำมาเป็นแบบแห้งให้เรามาแช่น้ำแล้วใช้เลี้ยงไส้เดือนได้เองเลย จากประสบการณ์ที่เจอมานอกจากไส้เดือนจะไม่กินแล้วยังตายจนหมด ดังนั้นให้ซื้อเบดดิ้งที่เป็นมูลวัวนมหมักน้ำแบบสำเร็จรูปแล้วเท่านั้น ไม่ต้องผสมสารอาหารอะไรทั้งสิ้น เพราะไส้เดือนจะกินแค่มูลวัวเท่านั้น ตอนเลี้ยงไม่ว่าจะใส่พืชผักอะไรเข้าไป ไม่กินทั้งนั้น


ภาชนะที่ใช้เลี้ยง จากที่ทดลองใช้มาหลายอย่าง พบว่าที่เหมาะสมที่สุดคือกาละมังดำและฝาปิดแบบกระจาดพลาสติกเพราะสามารถถ่ายเทอากาศได้ดีและวางซ้อนได้ สมัยก่อนตอนฮิตเลี้ยงไส้เดือนกันเยอะๆมีการทำชั้นพลาสติกคอนโดราคาแพงออกมาขาย หรือการเลี้ยงแบบเปิดบนพื้นซีเมนต์ในโรงเลี้ยง จะเจอปัญหามีสัตว์อื่นอย่างคางคกอึ่งอ่างมาฝังตัวกินไส้เดือน และมดก็จะมาตอมกัดกินไส้เดือนด้วย ต้องทำระบบหล่อน้ำกันมด แต่จากที่เลี้ยงในกาละมังพร้อมฝาปิดแบบโปร่งมายังไม่เจอปัญหาอะไร การเลี้ยงไส้เดือนต้องตั้งในที่มีอากาศถ่ายเทดี ไม่ร้อน และไม่โดนฝนหรือมีน้ำท่วมขัง และถ้าเลี้ยงในที่ปิดหรือเอาผ้าพลาสติกคลุมปิดทึบด้านบน ไม่นานไส้เดือนจะร้อนแล้วคลานขึ้นมาแล้วพยายามหาทางหนีออกไปจากกาละมัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่รอด ตายอยู่ตามพื้นเต็มไปหมด แม้มีแค่ช่องเเล็กๆไส้เดือนก็พยายามลอดตัวออกมาได้หมดทั้งตัวเล็กตัวใหญ่  และการวางภาชนะเลี้ยงไส้เดือนก็ไม่ควรให้โดนแดดโดยตรงเพราะเบดดิ้งจะแห้งเร็วไส้เดือนกินและอยู่อาศัยไม่ได้  หรือถ้าโดนฝนสาดเข้าไป ไส้เดือนก็จะพยายามหนีออกมาเช่นกันคลานยั้วเยี้ยเต็มพื้นและกำแพงเต็มไปหมด ทำให้ไส้เดือนไม่รอดเช่นกัน



การเริ่มเลี้ยงไส้เดือน  ที่ผมทำปกติจะใช้ไส้เดือนครึ่งกก.กับเบดดิ้ง 3 กก. (3 ถุง) ได้ความสูงประมาณครึ่งกาละมังหรือถ้ายังมีไส้เดือนน้อยก็ใช้เบดดิ้งแค่ 2 กก. (2 ถุง) ให้ใช้วิธีเอาไส้เดือนทีซื้อมาพร้อมเบดดิ้งเก่ากองไว้ตรงกลางกาละมังก่อนแล้วค่อยเอาเบดดิ้งใหม่เทไว้รอบๆเกลี่ยให้เสมอกัน แต่อย่าให้กลบกองเบดดิ้งเก่าที่อยู่ตรงกลาง เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ไส้เดือนต้องการ safe zone ให้สามารถกลับมาซ่อนตัวได้ เพราะเวลาเราใส่เบดดิ้งใหม่ๆลงไป ไส้เดือนอาจจะยังไม่กินหรือไม่ชอบ ถ้าไม่มีที่ให้ไส้เดือนอยู่ ไส้เดือนอาจจะตายไปเฉยๆโดยที่เราไม่รู้ เพราะธรรมชาติของไส้เดือนจะซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นผิวแล้วหนีลงลึกไปเรื่อยๆ ถ้าไส้เดือนกินอาหารไม่ได้อยู่อาศัยไม่ได้หนีไม่ได้ ไส้เดือนก็จะแห้งตายอยู่ใต้กองเบดดิ้งนั่นแหละ ไม่มีการขึ้นมาตายด้านบน วิธีสังเกตว่าไส้เดือนอยู่ดีเป็นปกติหรือไม่นอกจากไปคุ้ยเขี่ยพลิกเบดดิ้งดูแล้ว เราดูได้จากมูลไส้เดือนที่อยู่บนพื้นผิว เพราะไส้เดือนพันธุ์นี้มีนิสัยชอบขึ้นมาถ่ายเป็นมูลเป็นเม็ดเล็กๆอยู่ด้านบน ถ้าไส้เดือนกินดีอยู่ดี ภายใน 2-3 วันบนพื้นผิววัสดุเลี้ยงจะมีมูลไส้เดือนเกิดขึ้นเรื่อยๆเต็มไปหมด ซึ่งเม็ดมูลไส้เดือนเล็กๆนี้เองคือสิ่งที่เราสามารถเอาไปใช้เป็นปุ๋ยมูลไส้เดือนสำหรับใส่ต้นไม้




ปกติถ้าเราเลี้ยงไส้เดือนไม่มาก เมื่อเกิดมูลไส้เดือนจำนวนเยอะพอสมควร เราสามารถค่อยๆเอามือกวาดเกลี่ยมูลไส้เดือนตามพื้นผิวไปใช้ได้ทันที แต่ถ้าเราเลี้ยงจำนวนมากเราอาจะใช้วิธีรอให้ไส้เดือนกินอาหารหมดกาละมังก่อนแล้วค่อยร่อนแยกแทน จะได้มูลไส้เดือนจำนวนมากและรวดเร็วกว่า แต่ถ้าเลี้ยงจำนวนมากๆร่อนไม่ไหว เดี๋ยวนี้เขาจะมีเครื่องร่อนไส้เดือนใช้ไฟฟ้าหมุนภาชนะร่อนคัดแยกตัวไส้เดือนออกมาจากมูล จะง่ายเร็วและสะดวกที่สุด

ระหว่างการเลี้ยง เราควรต้องคอยดูไม่ให้เบดดิ้งแห้งหรือชื้นเกินไป เพราะถ้าแห้งเกินไปไส้เดือนไม่กิน ชื้นเกินไปไส้เดือนก็ไม่กิน สรุปคือทำให้ตายได้ทั้งสองอย่าง ต้องคอยสังเกตุว่าผิวด้านบนของเบดดิ้งเริ่มแห้งขาวหรือเปล่า ถ้าแห้งก็เอาน้ำพรมรดให้ชื้นแต่อย่าให้เปียกชุ่มจนน้ำขัง และสังเกตุด้วยว่าบนพื้นผิวมีมูลไส้เดือนเม็ดเล็กๆที่ไส้เดือนขึ้นมาถ่ายไว้หรือเปล่า ถ้ามีมูลใหม่เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆแสดงว่าไส้เดือนสบายดีกินดีอยู่ดี แต่ถ้าพื้นผิวเงียบสนิทไม่มีการเปลี่ยนแปลงนานๆ แสดงว่าไส้เดือนกินไม่ได้ อาจจะตายหรือหนีไปหมดแล้ว ต้องพลิกคุ้ยใต้เบดดิ้งดูสภาพของตัวไส้เดือน ถ้าจำเป็นก็อาจจะต้องเปลี่ยนเบดดิ้งใหม่เพื่อเลี้ยงไส้เดือนส่วนที่ยังเหลืออยู่


เมื่อเลี้ยงไปสักพัก 1-3 เดือน ไส้เดือนอยู่สบายกินดีอยู่ดี ไส้เดือนจะขยายพันธุ์โดยการผสมพันธุ์กันเอง แล้ววางไข่แล้วก็กลายเป็นไส้เดือนตัวเล็กๆเท่าเส้นด้ายอยู่ทั่วไปหมด ถือเป็นโชคดีที่เรามีโอกาสจะขยายการเลี้ยงไส้เดือนของเราให้มากขึ้น การให้อาหารเลี้ยงดูอย่างดีเพียงพอเหมาะสม จำนวนไส้เดือนในกาละมังจะเติบโตเพิ่มจำนวนหนาแน่นขึ้นเอง เราอาจจะสามารถแยกขยายจำนวนกาละมังที่เลี้ยงออกไปแบบทวีคูณ จากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสี่ สี่เป็นแปดซึ่งต้องใช้เวลาและการดูแลอย่างใกล้ชิด

การเลี้ยงแต่ละรุ่น หลังจากใส่อาหารเบดดิ้งรอบแรกแล้ว เมื่อไส้เดือนกินอาหารจนเหลือน้อยลงเราจะไม่เติมเบดดิ้งใหม่ลงไปอีกเรื่อยๆ ปกติเราจะปล่อยให้ไส้เดือนกินอาหารรุ่นนั้นจนหมดกาละมังแล้วก็ร่อนแยกเอาตัวไส้เดือนและมูลออกจากกัน แล้วจึงเอาตัวไส้เดือนชุดเก่ามาใส่เบดดิ้งรอบใหม่

การร่อนไส้เดือนแบบง่ายๆ ใช้ตะแกรงร่อนแบบรูใหญ่หน่อยที่มีขาย เอามูลไส้เดือนที่มีตัวไส้เดือนรวมอยู่ ใส่ตะแกรงแล้วร่อนไปเรื่อยๆจนแยกตัวไส้เดือนกับมูลออกมาจนหมด แล้วเราก็แยกเอามูลไส้เดือนใส่กระสอบเพื่อนำไปใช้ต่อไปส่วนตัวไส้เดือนก็เอาลงกาละมังเพื่อใส่เบดดิ้งรอบใหม่เลี้ยงใหม่วนเหมือนตอนต้น กระบวนการคัดแยกมูลแต่ละรอบจะเร็วช้าแค่ไหนขึ้นอยู่กับความสามารถในการกินของไส้เดือนที่เราเลี้ยง ถ้าไส้เดือนมีจำนวนเยอะแข็งแรงกินเก่ง 2-3 สัปดาห์ก็กินอาหารหมดแล้ว แต่ถ้าไส้เดือนตัวเล็กอ่อนแอหรือตาย บางทีเลี้ยงเป็นเดือนๆก็ยังกินไม่หมดหรือไม่กินเลยก็มี ต้องคอยเช็คตรวจสอบดู และในการร่อนแต่ละครั้งถ้าพบว่ามีไส้เดือนตัวเล็กๆขนาดเท่าเส้นด้ายที่เพิ่งออกจากไข่ขยายพันธุ์ออกมา ไส้เดือนเล็กพวกนี้จะสามารถลอดรูตะแกรงออกมาได้พร้อมกับมูล เราต้องคอยสังเกตุและจับเอากลับไปไว้รวมกับไส้เดือนตัวอื่นๆเพื่อให้มันเจริญเติบโตเป็นตัวใหญ่ต่อไป






ปุ๋ยมูลไส้เดือนมีข้อดีคือเป็นปุ๋ยอินทรีย์แบบเย็นที่นำไปใช้ใส่ต้นไม้ได้ทันที ไม่ต้องรอหมักนานๆเพราะไส้เดือนกินปุ๋ยคอกแล้วย่อยออกมาเป็นปุ๋ยหมักให้เราใช้ได้เลย มูลมีขนาดเล็กใส่ต้นไม้แล้วย่อยสลายให้พืชสามารถดูดซึมได้ง่ายแถมผลิตออกมาให้เราได้ใช้ตลอดเวลา แค่เราดูแลน้องเดือนของเราให้กินดีอยู่ดีไม่หนีไม่ตาย น้องเดือนก็จะผลิตปุ๋ยออกมาและขยายพันธุ์ออกลูกหลานเพิ่มออกมาให้เองโดยที่เราไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษแต่อย่างใด (ปุ๋ยคอกคือมูลวัวตากแห้งที่ยังไม่สามารถนำไปใส่ต้นไม้ได้โดยตรงทันทีเพราะมีความร้อนและความเค็มทำให้ต้นไม้ยังไม่สามารถดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้และยังทำให้ต้นไม้ไม่เจริญเติบโตหรือตายได้อีกด้วย จึงต้องนำมูลวัวไปหมักกลบผสมกับใบไม้ใบหญ้าต่างๆและจุลินทรีย์เพื่อให้เกิดกระบวนการย่อยสลายและลดความร้อนให้ จึงจะสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยหมักใส่ต้นไม้ได้ แต่กระบวนการหมักต้องใช้เวลานาน)
ชื่อสินค้า:   ปุ๋ยมูลไส้เดือน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่