ในฐานะที่ผมก็มีโปรไฟล์แบบเดียวกับท่าน เป็นคน กทม โดยแท้ จบนอกเหมือนกัน มีความฉลาดระดับอัจริยะตามการจัดอันดับไอคิวตามมาตรฐานโลก มีฐานะที่อยู่ในสุดยอดปิรามิด แถมหน้าตาดี มีกล้ามแม้ว่าจะน้อยกว่าท่าน แต่ก็หน้าตึงเป๊ยะ ไม่เหี่ยวไม่ย่น ขอพูดตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม 

แม้ผมจะเป็นคนส่วนน้อยในสังคม และไม่ได้เลือก ชัชชาติ เป็นผู้ว่า ผมก็เคารพในการตัดสินของคนส่วนใหญ่ ผมรู้ว่าอะไรคืออะไร และเข้าใจสถานะตัวเองดีเสมอ ว่าคนที่อยู่บนสุดยอดของปิรามิดในบ้านเรา ย่อมมีจำนวนน้อยกว่า คนส่วนใหญ่ที่เป็นฐานปิรามิด มันคือ ธรรมดาของโลกทุนนิยม 

ผมแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านระบบเข้าไปหาท่านแล้ว ให้ดำเนินการกำจัดร้านค้าที่รุกล้ำฟุตบาท โดยยื่นเรื่องไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ในระบบแจ้งแค่ "รับเรื่องไว้" การรับเรื่องไว้ ไม่ได้หมายความว่า คุณได้ทำงานแล้ว เพราะคนอย่างผม มองที่ความสำเร็จของงาน โดยผมได้ตั้ง KPI ไว้ให้ท่านดังนี้ หากท่านสามารถจัดการร้านค้าตามพิกัดที่ผมแจ้งไปได้ภายใน 3 เดือน ผมให้ A+ นี่ขนาดผมให้เวลาท่านตั้ง 3 เดือนแล้วนะ แต่หากท่านดำเนินการช้ากว่า 3 เดือน เกรดของท่านสำหรับผม คือ F หรือ Fail

ปัญหารถติด คน กทม ร้องเรืยนเข้ามาเยอะมาก รถติดทุกวัน ท่านได้แก้ไขหรือยัง อย่ามัวแต่ไปเล่นดนตรีบ้าๆ บอๆในสวน แบบโลวฺ์คลาส คนไฮคลาสที่มีสมองขั้นเทพในสังคม เขามองท่านแบบ ไม่เข้าท่า 

แม้คุณสมบัติและโปรไฟล์ของผม จะอยู่ในระดับไฮคลาส และมากพอจะเล่นการเมืองได้ แต่ผมไม่ทำหรอก ผมขอเป็นคนธรรมดา ที่ไม่สนใจการเมือง โนสนโนแคร์ แบบนี้แหละดีแล้ว เพราะผมมีชีวิตดี๊ดี ที่ไม่เดือดร้อนอะไร ทำไม ต้องทำเพื่อคนอื่นด้วย ... ดังนั้น ความคิดส่วนตัวผม คือว่า ในสังคมไทย คนเก่งหายไปหมดแล้ว เพราะว่า คนเก่งสำหรับผมนั้นมีแค่ 2 แบบ อันแรกคือ คนที่ไปทำงานนอก กับอันที่ 2 คือ คนที่ไฮโปรไฟล์ แต่ทำตัวมีชีวิตสบายๆดี๊ดี จนไม่ต้องทำการทำงาน จึงโนสนโนแคร์ได้ เข้าใจรึยังครับ 

@Ignorer