กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สองของผม หากแท็กผิดห้องต้องขออภัยด้วยนะครับ
สวัสดีครับผม ดอม(นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ผมเป็นแค่เด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่งที่เรียนมัธยมอยู่ในภาคอีสาน การเรียนก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร จนถึงวันที่ผมกำลังจะจบการศึกษาผมก็ตระหนักได้ว่าการเรียนต่อมหาวิทยาลัยอาจไม่ใช่คำตอบ ผมจึงได้ตัดสินใจเลือกเรียนในสายอาชีพซึ่งอาอจารย์ของวิทยาลัยอาชีวหลายๆคนที่มาป้ายยาและหว่านล้อมเราให้สมัครเข้าเรียน ว่างานนั้นเป็นสิ่งที่หาได้อย่างง่ายดายหากมาเรียนในสายอาชีพ
การมาเรียนสายอาชีพนั้นมีแต่ข้อดีเต็มไปหมด หนึ่งในนั้นคือการเรียนในรูปแบบทวิภาคีนั่นก็คือการทำงานและเรียนไปด้วยนั่นเอง ผมที่ครอบครัวขัดสนในรายได้และไม่ค่อยสนับสนุนทางด้านการเงิน มีเหตุผลด้วยเหรอที่ผมจะปฎิเสธข้อเสนออันหอมหวานขนาดนี้
สุดท้ายแล้วผมก็ได้ตัดสินใจสมัครเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยอาชีวเอกชนแห่งหนึ่ง โดยมีค่าเล่าเรียนตลอดจนจบหลักสูตรที่ต้องจ่ายเป็นเงิน 6x,xxx บาท เป็นอย่างต่ำ
พอสมัครเข้าเรียนและเอกสารทุกอย่างถูกต้องแล้ว ผมจึงได้เดินทางเพื่อไปมอบตัวกับทางวิทยาลัยสาขาที่จังหวัดขอนแก่น
(วิทยาลัยเอกชนแห่งนี้มีสาขา 3 แห่งครับ)
อย่างแรกเลยที่มีกลิ่นตุๆคือ ขนาดของวิทยาลัยที่เล็กอย่างกะศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กอนุบาลในชนบท ด้วยพื้นที่ขนาดประมาณ 300 x 300 ตรม. ที่พูดมาก็ไม่เกินจริงเลยครับ ความประทับใจครั้งแรก 1/5 คะแนน
หลังจากพอสำรวจให้ทั่วๆแล้ว มันก็แค่วิทยาลัยธรรมดาๆที่ไม่มีอะไร นอกจากขนาดที่ค่อนข้างเล็กแล้วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยครับ
"ค่าเทอมไม่ถึงแสนได้แค่นี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกมั้ง" ผมในตอนนั้นคิดเอาไว้
และสิ่งที่ทำให้ผมขัดใจในเรื่องต่อมาก็คือการเรียนการสอนครับ การเรียนการสอนของที่นี่ถือว่าเรียบง่ายมากไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย นอกจากนั้นความรู้ที่นำมาสอนยังเป็นความรู้เก่าอีกด้วย "หรือว่าการมาเรียนสายนี้เขาไม่เน้นการเรียนการสอนเป็นพิเศษ แบบว่าเน้นส่งเด็กฝึกงานเลยอะไรประมาณนั้น" ผมในตอนนั้นก็ยังคิดบวกอยู่ ความรู้ที่ได้รับ 2/5 คะแนน (ผมลืมบอกไปว่าผมเข้ามาเรียนในสาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล) ส่วนเรื่องทำงานใน workshop นั้นลืมไปเลยก็ได้ครับเพราะมันไม่มีอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ผมสดุดเลยก็คือการฝึกงานหรือทำงานแบบทวิภาคี และตามที่ผมหาความหมายมาจากอินเตอร์เน็ต
ทวิภาคี คือ .... “สองฝ่าย” ซึ่งหมายถึง สถานประกอบการและโรงเรียน เยาวชนที่เข้าร่วมฝึกอาชีพในโครงการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีนั้นจะมี 2 สถานภาพในบุคคลเดียวกัน คือ เป็นนักเรียน นักศึกษาในโรงเรียน และในขณะเดียวกันก็เป็นพนักงานฝึกอาชีพของสถานประกอบการ บลาๆๆ
ตามที่ผมเข้าใจจากที่อาจายร์พูดให้ฟังมาอีกทีคือระบบทวิคือการทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยซึ่งทางวิทยาลัยจะทำการดีลกับสถานประกอบการเอาไว้อยู่แล้ว และให้เรานั้นเข้าไปทำงานในฐานะนักศึกษาทวิภาคี โดยจริงๆแล้วอาจารย์ให้ผมจองตำแหน่งงานเอาไว้ตั้งแต่สมัครเลยซะด้วยซ้ำ
แต่!! จุดพีคมันมาเริ่มที่ตรงนี้ พอผมได้เข้าเรียนไปได้สักพักผมเริ่มเอะใจว่าเมื่อไหร่ผมจะได้ไปทำงานตามที่ผมจองตำแหน่งงานเอาไว้ในตอนที่สมัครเรียน
หลังจากที่ผมเข้าไปสอบถามกับอาจารย์ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการฝึกงานกลับพบว่า ผมนั้นยังไม่ได้เป็นนักศึกษาทวิภาคี ตัวผมนั้นยังเป็นนักศึกษาที่ต้องเรียนและฝึกงานแบบปกติอยู่ ทั้งที่ผมสมัครเป็นนักศึกษาทวิเอาไว้อยู่แล้ว "เอ้า!!" ไหงเป็นงั้น การจัดการภายใน 1.5/5 คะแนน
หรือว่าตัวผมนั้นฟังหรือเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ผมสับสนสักพักและได้สอบถามต่อเกี่ยวกับตำแหน่งงานเมื่อผมเป็นนักศึกษาทวิภาคีแล้ว
แต่สุดท้ายกลับได้คำตอบกลับมาว่าผมต้องเดินหางานเอง ซึ่งทางวิทยาลัยไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย ไม่ได้มีหน้าที่หางานให้เรา "เอ้า!! รอบ2"
แล้วหลังจากนั้นผมก็ทิ้งหายจากการติดต่อจากวิทยาลัยเป็นเวลา 3 เดือนเศษๆ เนื่องจากต้องออกมาหางานเอง พร้อมกับสมุดฝึกงานเล่มนึง
(ผมต้องจ่ายค่าประกันฝึกงาน (ทิพย์)3500 บาท และค่าสมุดฝึกงาน 500 บาท ก่อนออกมาด้วย)
ไม่มีทั้งการติดต่อ ทั้งการส่งงาน หรือการดำเนินใดๆให้ผมเลย ผมต้องเป็นฝ่ายติดต่อไปเองและอาจารย์ก็ไม่ค่อยจะตอบ และที่ตลกร้ายก็คือ
มีแค่เรื่องค่าเทอมเท่านั้นที่ทางวิทยาลัยแจ้งเตือน
และจนถึงปัจจุบันผมมีงานทำแล้ว ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงต่อดี สอบถามอะไรไปก็ไม่ค่อยจะตอบ เวลาทำงานที่ลงในสมุดฝึกงานจนรวมเกือบๆ
3 เดือนแล้ว ทางวิทยาลัยก็ยังไม่ดำเนินการอะไรให้กับตัวผมเลยสักอย่างเดียว หรือว่าผมต้องส่งสมุดฝึกงานกลับไปก่อน อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
ใครมีคำแนะนำหรืออธิบายให้ผมเข้าใจได้ไหมครับว่าผมควรต้องทำยังไง ผมผิดพลาดตรงไหน หรือว่ามันคือเรื่องที่ธรรมดาอยู่แล้ว
ตอนนี้ผมจ่ายค่าเล่าเรียนร่วม 4x,xxx บาท ยังเทอม 3 และ 4 ที่ยังไม่ได้จ่าย
ปล.1ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีทางสถานศึกษาแต่อย่างใดผมจึงขออนุญาตงดหลังไมค์มาขอโลเคชั่นหรือชื่อของวิทยาลัยนะครับ
ปล.2เรื่องทั้งหมดอาจจะเป็นเพราะผมฟังไม่หมดก็ได้ครับ หากผิดจริงต้องกราบขออภัยครับ
เล่าประสบการณ์แย่ๆกับการเรียนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งในภาคอีสาน
สวัสดีครับผม ดอม(นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ผมเป็นแค่เด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่งที่เรียนมัธยมอยู่ในภาคอีสาน การเรียนก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร จนถึงวันที่ผมกำลังจะจบการศึกษาผมก็ตระหนักได้ว่าการเรียนต่อมหาวิทยาลัยอาจไม่ใช่คำตอบ ผมจึงได้ตัดสินใจเลือกเรียนในสายอาชีพซึ่งอาอจารย์ของวิทยาลัยอาชีวหลายๆคนที่มาป้ายยาและหว่านล้อมเราให้สมัครเข้าเรียน ว่างานนั้นเป็นสิ่งที่หาได้อย่างง่ายดายหากมาเรียนในสายอาชีพ
การมาเรียนสายอาชีพนั้นมีแต่ข้อดีเต็มไปหมด หนึ่งในนั้นคือการเรียนในรูปแบบทวิภาคีนั่นก็คือการทำงานและเรียนไปด้วยนั่นเอง ผมที่ครอบครัวขัดสนในรายได้และไม่ค่อยสนับสนุนทางด้านการเงิน มีเหตุผลด้วยเหรอที่ผมจะปฎิเสธข้อเสนออันหอมหวานขนาดนี้
สุดท้ายแล้วผมก็ได้ตัดสินใจสมัครเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยอาชีวเอกชนแห่งหนึ่ง โดยมีค่าเล่าเรียนตลอดจนจบหลักสูตรที่ต้องจ่ายเป็นเงิน 6x,xxx บาท เป็นอย่างต่ำ
พอสมัครเข้าเรียนและเอกสารทุกอย่างถูกต้องแล้ว ผมจึงได้เดินทางเพื่อไปมอบตัวกับทางวิทยาลัยสาขาที่จังหวัดขอนแก่น
(วิทยาลัยเอกชนแห่งนี้มีสาขา 3 แห่งครับ)
อย่างแรกเลยที่มีกลิ่นตุๆคือ ขนาดของวิทยาลัยที่เล็กอย่างกะศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กอนุบาลในชนบท ด้วยพื้นที่ขนาดประมาณ 300 x 300 ตรม. ที่พูดมาก็ไม่เกินจริงเลยครับ ความประทับใจครั้งแรก 1/5 คะแนน
หลังจากพอสำรวจให้ทั่วๆแล้ว มันก็แค่วิทยาลัยธรรมดาๆที่ไม่มีอะไร นอกจากขนาดที่ค่อนข้างเล็กแล้วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยครับ
"ค่าเทอมไม่ถึงแสนได้แค่นี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกมั้ง" ผมในตอนนั้นคิดเอาไว้
และสิ่งที่ทำให้ผมขัดใจในเรื่องต่อมาก็คือการเรียนการสอนครับ การเรียนการสอนของที่นี่ถือว่าเรียบง่ายมากไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย นอกจากนั้นความรู้ที่นำมาสอนยังเป็นความรู้เก่าอีกด้วย "หรือว่าการมาเรียนสายนี้เขาไม่เน้นการเรียนการสอนเป็นพิเศษ แบบว่าเน้นส่งเด็กฝึกงานเลยอะไรประมาณนั้น" ผมในตอนนั้นก็ยังคิดบวกอยู่ ความรู้ที่ได้รับ 2/5 คะแนน (ผมลืมบอกไปว่าผมเข้ามาเรียนในสาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล) ส่วนเรื่องทำงานใน workshop นั้นลืมไปเลยก็ได้ครับเพราะมันไม่มีอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ผมสดุดเลยก็คือการฝึกงานหรือทำงานแบบทวิภาคี และตามที่ผมหาความหมายมาจากอินเตอร์เน็ต
ทวิภาคี คือ .... “สองฝ่าย” ซึ่งหมายถึง สถานประกอบการและโรงเรียน เยาวชนที่เข้าร่วมฝึกอาชีพในโครงการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีนั้นจะมี 2 สถานภาพในบุคคลเดียวกัน คือ เป็นนักเรียน นักศึกษาในโรงเรียน และในขณะเดียวกันก็เป็นพนักงานฝึกอาชีพของสถานประกอบการ บลาๆๆ
ตามที่ผมเข้าใจจากที่อาจายร์พูดให้ฟังมาอีกทีคือระบบทวิคือการทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยซึ่งทางวิทยาลัยจะทำการดีลกับสถานประกอบการเอาไว้อยู่แล้ว และให้เรานั้นเข้าไปทำงานในฐานะนักศึกษาทวิภาคี โดยจริงๆแล้วอาจารย์ให้ผมจองตำแหน่งงานเอาไว้ตั้งแต่สมัครเลยซะด้วยซ้ำ
แต่!! จุดพีคมันมาเริ่มที่ตรงนี้ พอผมได้เข้าเรียนไปได้สักพักผมเริ่มเอะใจว่าเมื่อไหร่ผมจะได้ไปทำงานตามที่ผมจองตำแหน่งงานเอาไว้ในตอนที่สมัครเรียน
หลังจากที่ผมเข้าไปสอบถามกับอาจารย์ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการฝึกงานกลับพบว่า ผมนั้นยังไม่ได้เป็นนักศึกษาทวิภาคี ตัวผมนั้นยังเป็นนักศึกษาที่ต้องเรียนและฝึกงานแบบปกติอยู่ ทั้งที่ผมสมัครเป็นนักศึกษาทวิเอาไว้อยู่แล้ว "เอ้า!!" ไหงเป็นงั้น การจัดการภายใน 1.5/5 คะแนน
หรือว่าตัวผมนั้นฟังหรือเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ผมสับสนสักพักและได้สอบถามต่อเกี่ยวกับตำแหน่งงานเมื่อผมเป็นนักศึกษาทวิภาคีแล้ว
แต่สุดท้ายกลับได้คำตอบกลับมาว่าผมต้องเดินหางานเอง ซึ่งทางวิทยาลัยไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย ไม่ได้มีหน้าที่หางานให้เรา "เอ้า!! รอบ2"
แล้วหลังจากนั้นผมก็ทิ้งหายจากการติดต่อจากวิทยาลัยเป็นเวลา 3 เดือนเศษๆ เนื่องจากต้องออกมาหางานเอง พร้อมกับสมุดฝึกงานเล่มนึง
(ผมต้องจ่ายค่าประกันฝึกงาน (ทิพย์)3500 บาท และค่าสมุดฝึกงาน 500 บาท ก่อนออกมาด้วย)
ไม่มีทั้งการติดต่อ ทั้งการส่งงาน หรือการดำเนินใดๆให้ผมเลย ผมต้องเป็นฝ่ายติดต่อไปเองและอาจารย์ก็ไม่ค่อยจะตอบ และที่ตลกร้ายก็คือ
มีแค่เรื่องค่าเทอมเท่านั้นที่ทางวิทยาลัยแจ้งเตือน
และจนถึงปัจจุบันผมมีงานทำแล้ว ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงต่อดี สอบถามอะไรไปก็ไม่ค่อยจะตอบ เวลาทำงานที่ลงในสมุดฝึกงานจนรวมเกือบๆ
3 เดือนแล้ว ทางวิทยาลัยก็ยังไม่ดำเนินการอะไรให้กับตัวผมเลยสักอย่างเดียว หรือว่าผมต้องส่งสมุดฝึกงานกลับไปก่อน อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
ใครมีคำแนะนำหรืออธิบายให้ผมเข้าใจได้ไหมครับว่าผมควรต้องทำยังไง ผมผิดพลาดตรงไหน หรือว่ามันคือเรื่องที่ธรรมดาอยู่แล้ว
ตอนนี้ผมจ่ายค่าเล่าเรียนร่วม 4x,xxx บาท ยังเทอม 3 และ 4 ที่ยังไม่ได้จ่าย
ปล.1ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีทางสถานศึกษาแต่อย่างใดผมจึงขออนุญาตงดหลังไมค์มาขอโลเคชั่นหรือชื่อของวิทยาลัยนะครับ
ปล.2เรื่องทั้งหมดอาจจะเป็นเพราะผมฟังไม่หมดก็ได้ครับ หากผิดจริงต้องกราบขออภัยครับ