ล. วิลิศมาหรา


เมื่อไปถึงก็พบว่ามีกบเขียดอึ่งอ่างมากมายอยู่ในหนองน้ำที่ลึกแค่หัวเข่า ให้ไล่จับ คนทั้งสองจึงไล่จับไปรอบหนอง ด้วยความสนุกสนาน จับได้ทั้งกบทั้งอึ่งอ่างเกือบเต็มข้อง แต่ขณะกำลังจับกบกันเพลิน ๆ พลันก็มีดวงไฟสีเขียวเรือง ๆ หลายดวงลอยมาตามคันนา ไอ้แหวงเงยหน้าขึ้นเห็นก่อน มันรีบสะกิดให้เพื่อนดู

“เฮ้ย! ไอ้มาด นั่นไฟอะไรวะ” มันถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจนัก ทั้งมันและไอ้มาดหยุดชะงักจากการจับกบ ยืนนิ่ง รอดูท่าทีของดวงไฟสีเขียวเรื่อเรือง ที่ลอยวูบวาบใกล้เข้ามา 

“ผีกระสือมันมาแล้วว่ะ” ไอ้มาดพึมพำเสียงสั่น มันยืนนิ่งแทบกลั้นหายใจมอง

ดูเหมือนพวกผีจะมองไม่เห็นสองเกลอจริง เพราะมันไม่ได้หยุดชะงักจากตกใจอะไรเลย กลับพากันลอยเข้ามาในหนองน้ำ โฉบหัวเอาปากคาบกบเขียดกินทันทีที่มาถึง

แสงไฟฉายบนหน้าผากของทั้งสอง ส่องให้เห็นหัวกับไส้หลายต่อหลายพวง เครื่องในห้อยย้อยออกมา ดูหยุ่น ๆ เปียกแฉะน่าขยะแขยง ทุกใบหน้าล้วนมีผมยาวปกคลุมหน้าตา จนดูไม่ออกว่าเป็นใบหน้าของใครบ้าง สองเกลอยืนตัวแข็ง จ้องมองหัวกับไส้ที่ลอยฉวัดเฉวียนไล่งับกัดกบกิน เสียงดังกร้วบ ๆ แต่ไอ้มาดที่เมื่อเห็นว่าผีกระสือไม่น่าจะมองเห็นมันกับเพื่อน จึงเริ่มขยับตัว แสงไฟฉายบนหน้าผากที่ส่องไปมา ไม่ได้ทำให้ผีกระสือรู้ตัวแต่อย่างใด จนไอ้มาดนึกย่ามใจ มันกระซิบเรียกกระสือตัวหนึ่งที่ลอยเฉียดเข้ามาใกล้

“แม่ผี...แม่ผีกระสือจ๋า” 

นางกระสือไม่มีท่าทีว่าจะได้ยินเสียงเรียกของมัน ทำให้มั่นใจมากขึ้น ลองขยับตัวเต้นหยองแหย็งไปมา ผีกระสือทั้งหลายก็ไม่ว่าอย่างไรอีก ไอ้แหวงเห็นผีไม่มีทีท่าว่าจะเห็นพวกตน ก็เลยย่ามใจขึ้นมาอีกคน มันทำท่าล้อเลียนบรรดาผีที่มีแต่หัวกับไส้ แล้วหันไปหัวเราะเยาะกับไอ้แหวง สองหนุ่มตะลุยจับกบไปพร้อม ๆ กับผีกระสือ อย่างสนุกสนาน จนได้กบมามากพอประมาณก็ชวนกันเดินกลับบ้าน ทิ้งผีกระสือให้จับกบกินอยู่ที่โคกตามสบาย

ความโลภมากนำพาให้สองหนุ่มต้องเผชิญกับผีหลอก ทั้งผีกระสือที่แสนดุ และผีในตำนานอย่างผีนางปริก สองหนุ่มจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ  https://youtu.be/wyXf4z7secc