🇹🇭มาลาริน❤️29พ.ค.โควิดไทยไม่ติดTop10โลก/ป่วยใหม่3,649คน หายป่วย5,622คน ตาย24คน รักษาอยู่44,737คน/ฝีดาษลิงในชายรักชาย


https://www.sanook.com/news/8568558/

https://www.naewna.com/local/656741


https://www.bangkokbiznews.com/social/1007037

...ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
สถานการณ์โควิดดีขึ้นต่อเนื่อง เหลือรักษาอยู่สี่หมื่นกว่าคน

และโรคฝีดาษลิงที่เฝ้าระวังในกลุ่มชายรักชาย  คนทั่วไปไม่ค่อยน่ากังวล

....💕✌️
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02QbTwae7hFzrah3gGUMLy4DWuqYgXeYcRZPxwk5tkFnw1tedo3rrzU5DMeJJHbeh6l


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 28 พ.ค. 2565)
รวม 137,522,168 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 28 พฤษภาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 245,437 โดส

เข็มที่ 1 : 28,861 ราย
เข็มที่ 2 : 75,355 ราย
เข็มที่ 3 : 141,221 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,726,310 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 52,610,197 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 28,185,661 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02MJ27XN4mpygx5oZ2PxUxDXEu5MfyvoyThTuDSpY5s9ZMT5YPYiuYzzpFmHxBxU36l


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เจ้าของสถานประกอบการต้องอ่าน!
มาตรการสำหรับประเมินตนเอง Thai Stop COVID 2+

ที่มา : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02n48fQSq7tbnrroU96xMvnhPtTBYJuPU759kZS4Sd9mSzVejqLWe8B4B275gBBC69l


สธ. เผยผลวิจัยสถานการณ์โควิด 19 ดีขึ้นมาก ความรุนแรงของเชื้อลดลง ระดับภูมิคุ้มกันของประชาชนอยู่ในระดับสูงขึ้นมากมาตรการสำคัญขอความร่วมมือกลุ่มเสี่ยงรับวัคซีนเข็มกระตุ้น
ลดป่วยรุนแรงและเสียชีวิต

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คณะกรรมการประมวลสถานการณ์โควิด 19 (MIU) กระทรวงสาธารณสุข ได้นำเสนอข้อมูลสถานการณ์โควิด 19 ในที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์ดีขึ้นมาก ในขณะที่ความรุนแรงของเชื้อลดลง และระดับภูมิคุ้มกันของประชาชนอยู่ในระดับสูงขึ้นมาก ทั้งจากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อก่อนหน้านี้ มาตรการสำคัญขณะนี้ ต้องขอความร่วมมือประชาชน ขอให้กลุ่มเสี่ยง ผู้มีโรคประจำตัวและผู้สูงอายุมารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อลดโอกาสที่จะป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ได้มอบหมายทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม พัฒนาระบบสาธารณสุขในการรับมือประเด็นท้าทายหลังพ้นยุคโควิด ตามที่ คณะกรรมการ MIU กระทรวงสาธารณสุขให้ข้อเสนอแนะทางนโยบาย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม ประสานความร่วมมือ ดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณสุขในการรับมือประเด็นท้าทายหลังพ้นยุคโควิดเพื่อพัฒนาระบบและการดูแลประชาชนให้มีสุขภาพ ความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ที่มา : สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02rfv63PSWFdWWaj87D1mZ6MDJ542x2Me3vv2AvLs2WKmoHJPAZVi5g18RZ8egitBkl


กรมอนามัย ย้ำ !! สถานประกอบการที่ยังไม่ได้รับใบประกาศ Thai Stop COVID 2 Plus
ประเมินตนเองได้ที่ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/

ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02g5id9ap16i2xsBfFj5h9grLAU5hrjAigAZZGLj8serFiFucGBrSZf3sfQCPgE5MSl


รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2565 จำนวน 24 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid032vti8HbaAjKpiuBosJBFK9z39ubEGJEAaiZjN79rUWEJhSJEC77PfUJLnfCLoovhl


กระทรวงสาธารณสุข เผย ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงเฉลี่ย 4 - 5 พันคนต่อวัน ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทั้งนี้ ผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ในเกณฑ์ “คงตัว”

นอกจากนี้ คณะทำงานศูนย์ประเมินผลประสิทธิผลและประสิทธิภาพวัคซีน กรมควบคุมโรค ได้ศึกษาข้อมูลการใช้จริงวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ช่วงเดือนม.ค. - มี.ค. 65 ซึ่งเป็นการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน จากผู้ฉีดวัคซีนกว่า 5 แสนรายทั่วประเทศ

พบว่า ฉีด 3 เข็ม ป้องกันติดเชื้อประมาณ 15% ช่วยป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ 93% หากฉีด 4 เข็ม ป้องกันติดเชื้อโอมิครอนได้เพิ่มขึ้นเป็น 76% ช่วยป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตพบสูงถึง 99%

ที่น่าสนใจ คือ ไม่พบการเสียชีวิตในผู้ที่ฉีดวัคซีน 4 เข็ม จึงขอให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อช่วยป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตโดยเร็ว
https://web.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/pfbid0S9nNdUBUTJKWKhJipVR4vbYvRTYn65QBfSzV3B2xKGVqAByp3vAjDLNHpfbdUKajl


1 มิ.ย.นี้ เข้าไทยเลิกกักตัวทุกรูปแบบ!! คนไทยไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass

ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้ ไทยจะปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศอีกครั้งตามมติ ศบค. โดยยกเลิกการกักตัวทุกรูปแบบ และมีมาตรการเข้าประเทศสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ ดังนี้

สำหรับคนไทย
- ไม่ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass
- ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเข้าประเทศ

สำหรับชาวต่างชาติ
- ยังต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass
- ผู้ที่ได้รับวัคซีนตามข้อกำหนด ให้แนบหลักฐานวัคซีนพร้อมกับเอกสารประกันสุขภาพวงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบตามข้อกำหนด ให้แสดงหลักฐานการตรวจโควิด-19 ได้ทั้งแบบ Professional ATK หรือ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง

ขณะที่จุดผ่านแดนทางบกทุกจุดก็จะเปิดภายในวันที่ 1 มิถุนายนนี้

ก่อนหน้านี้ ศบค. ได้ปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศตามสถานการณ์ โดยได้ยกเลิก Test & Go ทำให้สถิติผู้เดินทางเข้าประเทศในเดือน พ.ค.65 เฉลี่ยถึงวันละ 20,000 คน

โดยททท. คาดการณ์ว่าในช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ย. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่น้อยกว่า 500,000 คนต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตลาดระยะใกล้ ส่วนช่วงไฮซีซั่น ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน เพิ่มตลาดระยะไกลทั้งยุโรปและสหรัฐฯ และหวังจะเห็นนักท่องเที่ยวจีน เริ่มกลับมาไทยปลายปีนี้ต่อไปถึงเทศกาลตรุษจีนปี 66 ซึ่งจะส่งผลให้ตลอดปี 65 มีโอกาสสูงที่นักท่องเที่ยวจะมาไทย 7-10 ล้านคน สร้างรายได้รวม 1.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นการฟื้นตัว 50% เมื่อเทียบกับปี 62 ก่อนวิกฤตโควิด-19
https://web.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02SEuziY7cpRXG7xCjzQbC3xU4nUv34hPwHdbVrX2n2Ymd8JUMh7QXKMznBwviq232l


องค์การอนามัยโลก (WHO) ชื่นชมระบบจัดการโควิด-19 ในประเทศไทย พร้อมจะนำไปพัฒนาเป็นรูปแบบที่เป็นสากลและใช้กับบริหารสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก

ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) สมัยที่ 75 นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมคณะได้มีโอกาสพบเพื่อหารือกับ นาย Tedros Adhanom Ghrebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงความร่วมในโครงการต่างๆ ระหว่างประเทศไทยกับ WHO

ในการพบหารือ นาย Tedros และ ดร. Poonam Khetrapal Singh ผู้อำนวยการ WHO ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวชื่นชมไทยในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด19 ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง WHO และจะนำรูปแบบ รวมถึงระบบการบริหารจัดการของประเทศไทย ไปเป็นแบบอย่างที่จะสร้างให้เป็นมาตรฐานสากล และใช้ในการบริหารสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก

นอกจากนี้ ประเทศไทยเตรียมจะเปิดสำนักงานเลขาธิการ ศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) และขอขอบคุณที่ WHO เลือกประเทศไทยเพื่อเป็นประเทศนำรองในการดำเนินกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า จากการรับมือการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 (UHPR) โดยผลการดำเนินโครงการไทยสามารถบริหารจัดการการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีโควิด -19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งประเทศไทยพร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์กับประเทศต่างๆ ต่อไป
https://web.facebook.com/anucha.b.dp/posts/pfbid0pw7hBYigoKoPci5coab3SK4PjsSxpMLdGzCrCtCYWRstSe74WxccQq132FrW2trcl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่