11
“ลูกหมายความว่าอย่างไรกัน” ด็อตตี้ถามเสียงเบา “แต่งงานหรือ”
วีโอล่าพยักหน้ารับ
ทั้งด็อตตี้และนอร์ตันหันมามองผมนิ่ง
“ลูกไม่เคยพาเขามาแนะนำเราด้วยซ้ำ” ด็อตตี้ว่า ยังคงจ้องมองผม
หากแต่นอร์ตันหันกลับไปมองวีโอล่า “ลูกกับลอรี่คบกันมานานเท่าไหร่แล้ว”
“เรารักกัน” วีโอล่าย้ำ “นั่นก็มากพอสำหรับคนสองคนที่จะแต่งงานกันแล้วนี่ค่ะ ไม่จำเป็นว่าเราจะคบกันมานานเท่าไหร่ -- และ
นี่คือการแนะนำตัวคนรักของหนู”
นอร์ตันลุกจากเก้าอี้ ในจังหวะเดียวกันกับที่ด็อตตี้พูดว่า “วีโอล่า แม่ขอคุยกับลูกตามลำพังหน่อยสิ”
“ลอรี่” นอร์ตันพยักหน้าเรียกผม “เราไปคุยกันที่อื่นดีกว่า”
“ไม่” วีโอล่ากดไหล่ให้ผมกลับลงมานั่งตามเดิม “คุยกันตรงนี้ดีกว่าค่ะ”
“แม่ไม่ชอบน้ำเสียงของลูก” ด็อตตี้พูดเสียงเย็นชา
“ขอโทษด้วยค่ะ” เสียงของวีโอล่ายังคงดูแข็งกระด้าง “แต่ถ้าพ่อแม่จะคุยเรื่องการแต่งงานของเรา พ่อแม่ควรคุยตรงนี้ ที่เราอยู่พร้อมหน้ากันค่ะ”
ด็อตตี้ไม่ปฏิเสธ
“ตกลง” เธอเลื่อนจากเค้กไปให้พ้นหน้า “ด้วยความสัตย์จริง แม่ไม่คิดว่าค่ำนี้จะเป็นแบบนี้ แม่คิดว่าลูกพาเพื่อนคนสำคัญมาแนะนำ ไม่ใช่มาขออนุญาตแต่งงาน!”
วีโอล่ามองแม่กับพ่อตนเอง “แม่กับพ่อดูแปลกใจ --” เธอพูดเสียงแข็ง “พ่อแม่ไม่เชื่อว่าหนูจะรักใครได้จริงๆน่ะหรือ”
“ไม่มีใครพูดแบบนั้น วีวี่” นอร์ตันแทรก พยายามควบคุมสถานการณ์ไม่ให้รุนแรงมากขึ้น
“เพราะหนูตัวคนเดียวอยู่เสมอใช่ไหม” วีโอล่าย้อนถาม “หนูไม่ได้อยากโดดเดี่ยวแบบนี้ตลอดไปหรอกนะคะ”
แววตาที่ฉายความเศร้าออกมานั้น ทำให้นอร์ตันนิ่งเงียบไป หากแต่ด็อตตี้กลับดูรุนแรงมากกว่าเดิม
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราไม่ยอมให้ลูกมีความรัก” เธอพูดเสียงดังขึ้น ก่อนที่จะผายมือมาทางผม “ปัญหาอยู่ที่เขา --
เขาชอบผู้ชาย”
มือของวีโอล่าที่จับมือผมอยู่นั้นกระตุกเล็กน้อย
พวกเขารู้ -- ผมบอกตัวเอง -- นอร์ตันกับด็อตตี้ดูออกในทันทีที่เห็นผมปรากฏตัวอยู่หน้าประตู นั่นทำให้ด็อตตี้ดูวางใจในตัวผม และทำให้นอร์ตันจูบผมเบาๆแบบนั้น
“ลูกกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก
ผู้หญิงน่ะหรือ” ด็อตตี้ถาม
“หนูจะแต่งงานกับผู้ชายที่
หนูรัก และหนูจะแต่งงานกับผู้ชายที่
รักหนู” วีโอล่าตอบ
“วีวี่” นอร์ตันนั่งลงตามเดิม “ลูกหมายถึง -- ลูกกับเขาเป็นเพื่อนที่รักกัน และไว้ใจกันและกันมาก -- ลูกตั้งใจจะย้ายไปอยู่กับเพื่อนคนนี้ใช่ไหม”
“เราอยู่ด้วยกันมาเกือบปีแล้วค่ะ” วีโอล่าตอบ “และไม่ใช่ในฐานะเพื่อน แต่เป็น
คู่รัก -- พ่อกับแม่ไม่ได้อ่านข่าวกันเลยหรือ”
“ไม่ โดยเฉพาะตอนที่พ่อกำลังทำงานดนตรีชิ้นใหม่” นอร์ตันตอบ
“ทำไมแม่ต้องตามอ่านข่าวจากบรรดานักข่าวที่เอาแต่เขียนข่าวปลอมถึงลูก” ด็อตตี้ถาม “เพราะเขาคนนี้น่ะหรือ -- ลอรี่คือเหตุผลที่ลูกไม่กลับมาเยี่ยมเราเลยหรือ -- ลูกพยายามปิดบังเขาจากเราใช่ไหม”
“ไม่ใช่ -- หนูไม่ได้กลับมาที่นี่ เพราะหนูติดงานเขียนบทภาพยนตร์ และการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสลักรัก” วีโอล่าหรี่ตา “หนูบอกพ่อกับแม่ไปแล้ว -- พ่อกับแม่ถึงต่างไปเที่ยวกับหวานใจของตัวเองนานหลายเดือนขนาดนั้นอย่างไรกันล่ะ -- และหนูรู้นะว่าเพลงใหม่ของพ่อ มีแรงบันดาลใจจากการไปเที่ยวเกาะนั่นกับนิกกี้” ก่อนที่จะชี้นิ้วขึ้นมาเบื้องหน้า แล้วส่ายมันไปมา “แถมทั้งพ่อและแม่ ไม่มีของฝากมาให้หนูด้วย!”
“ลูกย้ายไปอยู่กับเขาเกือบปีแล้วหรือ” นอร์ตันถามย้ำ มองมาทางผม “ในฐานะ
คนรักน่ะหรือ”
“เราย้ายมาอยู่ด้วยกันหลังจากวันวาเลนไทน์” ผมพูดขึ้น หลังจากที่เงียบมานาน “ผมขอโทษ -- ผมควรมาเจอพวกคุณให้เร็วกว่านี้”
ด็อตตี้กับนอร์ตันไม่แม้แต่หันมามองผม พวกเขาจับจ้องไปยังลูกสาวตนเองเท่านั้น
ด็อตตี้ส่ายหน้า “นี่มันไม่เหมือนกัน
การแต่งงานไม่เหมือนกับ
การอยู่ด้วยกัน”
“มันจะไม่เหมือนกัน ถ้าเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ และรักกันน้อยลงจากตอนที่คบหากันในช่วงแรกๆ” ผมพูดช้าๆ “แต่ผมกับวีโอล่าอยู่ด้วยกันได้ เราเข้ากันได้ดีมากกว่าคู่อื่นๆ เราเข้าใจกัน และรักกันมากขึ้นเรื่อยๆ -- ความรักของเรารุนแรงมากกว่าตอนที่คบหากันช่วงแรก -- ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมไม่เคยรักเธอน้อยลง และมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น” ผมจับมือวีโอล่าแน่นขึ้น “ผมจริงใจกับลูกสาวของคุณสองคน -- ผมรักเธอมาก -- และอยากแต่งงานกับเธอจริงๆ”
นอร์ตันหยุดผมไว้เพียงแค่นั้น เขายกมือปรามผม แล้วลุกขึ้นอีกครั้ง “ตามฉันมา”
“พ่อคะ --” วีโอล่าขัด เมื่อเห็นผมลุกขึ้นตามนอร์ตันไป
“ลูกอยู่ที่นี่” ด็อตตี้สั่งเสียงเฉียบ “ลูกต้องคุยกับแม่ วีวี่”
วีโอล่าขัดคำสั่งนั้น เธอทุบโต๊ะ ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามแดงก่ำอย่างชัดเจน
“หนูจะไม่ยอมให้พ่อแม่หยาบคายกับเราแบบนี้ ทำไมหนูต้องถูกคนที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระในเรื่องความรักแบบพ่อกับแม่ด้วยมาห้ามด้วย!
หนูไม่ได้ต้องการคำอนุญาต หนูมาที่นี่เพื่อต้องการคำอวยพร และถ้าพ่อกับแม่ให้หนูไม่ได้ หนูก็ไม่ต้องการ!”
สลักรัก The Last Masterpiece ตอนที่ 11
“ลูกหมายความว่าอย่างไรกัน” ด็อตตี้ถามเสียงเบา “แต่งงานหรือ”
วีโอล่าพยักหน้ารับ
ทั้งด็อตตี้และนอร์ตันหันมามองผมนิ่ง
“ลูกไม่เคยพาเขามาแนะนำเราด้วยซ้ำ” ด็อตตี้ว่า ยังคงจ้องมองผม
หากแต่นอร์ตันหันกลับไปมองวีโอล่า “ลูกกับลอรี่คบกันมานานเท่าไหร่แล้ว”
“เรารักกัน” วีโอล่าย้ำ “นั่นก็มากพอสำหรับคนสองคนที่จะแต่งงานกันแล้วนี่ค่ะ ไม่จำเป็นว่าเราจะคบกันมานานเท่าไหร่ -- และนี่คือการแนะนำตัวคนรักของหนู”
นอร์ตันลุกจากเก้าอี้ ในจังหวะเดียวกันกับที่ด็อตตี้พูดว่า “วีโอล่า แม่ขอคุยกับลูกตามลำพังหน่อยสิ”
“ลอรี่” นอร์ตันพยักหน้าเรียกผม “เราไปคุยกันที่อื่นดีกว่า”
“ไม่” วีโอล่ากดไหล่ให้ผมกลับลงมานั่งตามเดิม “คุยกันตรงนี้ดีกว่าค่ะ”
“แม่ไม่ชอบน้ำเสียงของลูก” ด็อตตี้พูดเสียงเย็นชา
“ขอโทษด้วยค่ะ” เสียงของวีโอล่ายังคงดูแข็งกระด้าง “แต่ถ้าพ่อแม่จะคุยเรื่องการแต่งงานของเรา พ่อแม่ควรคุยตรงนี้ ที่เราอยู่พร้อมหน้ากันค่ะ”
ด็อตตี้ไม่ปฏิเสธ
“ตกลง” เธอเลื่อนจากเค้กไปให้พ้นหน้า “ด้วยความสัตย์จริง แม่ไม่คิดว่าค่ำนี้จะเป็นแบบนี้ แม่คิดว่าลูกพาเพื่อนคนสำคัญมาแนะนำ ไม่ใช่มาขออนุญาตแต่งงาน!”
วีโอล่ามองแม่กับพ่อตนเอง “แม่กับพ่อดูแปลกใจ --” เธอพูดเสียงแข็ง “พ่อแม่ไม่เชื่อว่าหนูจะรักใครได้จริงๆน่ะหรือ”
“ไม่มีใครพูดแบบนั้น วีวี่” นอร์ตันแทรก พยายามควบคุมสถานการณ์ไม่ให้รุนแรงมากขึ้น
“เพราะหนูตัวคนเดียวอยู่เสมอใช่ไหม” วีโอล่าย้อนถาม “หนูไม่ได้อยากโดดเดี่ยวแบบนี้ตลอดไปหรอกนะคะ”
แววตาที่ฉายความเศร้าออกมานั้น ทำให้นอร์ตันนิ่งเงียบไป หากแต่ด็อตตี้กลับดูรุนแรงมากกว่าเดิม
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราไม่ยอมให้ลูกมีความรัก” เธอพูดเสียงดังขึ้น ก่อนที่จะผายมือมาทางผม “ปัญหาอยู่ที่เขา -- เขาชอบผู้ชาย”
มือของวีโอล่าที่จับมือผมอยู่นั้นกระตุกเล็กน้อย
พวกเขารู้ -- ผมบอกตัวเอง -- นอร์ตันกับด็อตตี้ดูออกในทันทีที่เห็นผมปรากฏตัวอยู่หน้าประตู นั่นทำให้ด็อตตี้ดูวางใจในตัวผม และทำให้นอร์ตันจูบผมเบาๆแบบนั้น
“ลูกกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักผู้หญิงน่ะหรือ” ด็อตตี้ถาม
“หนูจะแต่งงานกับผู้ชายที่หนูรัก และหนูจะแต่งงานกับผู้ชายที่รักหนู” วีโอล่าตอบ
“วีวี่” นอร์ตันนั่งลงตามเดิม “ลูกหมายถึง -- ลูกกับเขาเป็นเพื่อนที่รักกัน และไว้ใจกันและกันมาก -- ลูกตั้งใจจะย้ายไปอยู่กับเพื่อนคนนี้ใช่ไหม”
“เราอยู่ด้วยกันมาเกือบปีแล้วค่ะ” วีโอล่าตอบ “และไม่ใช่ในฐานะเพื่อน แต่เป็นคู่รัก -- พ่อกับแม่ไม่ได้อ่านข่าวกันเลยหรือ”
“ไม่ โดยเฉพาะตอนที่พ่อกำลังทำงานดนตรีชิ้นใหม่” นอร์ตันตอบ
“ทำไมแม่ต้องตามอ่านข่าวจากบรรดานักข่าวที่เอาแต่เขียนข่าวปลอมถึงลูก” ด็อตตี้ถาม “เพราะเขาคนนี้น่ะหรือ -- ลอรี่คือเหตุผลที่ลูกไม่กลับมาเยี่ยมเราเลยหรือ -- ลูกพยายามปิดบังเขาจากเราใช่ไหม”
“ไม่ใช่ -- หนูไม่ได้กลับมาที่นี่ เพราะหนูติดงานเขียนบทภาพยนตร์ และการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสลักรัก” วีโอล่าหรี่ตา “หนูบอกพ่อกับแม่ไปแล้ว -- พ่อกับแม่ถึงต่างไปเที่ยวกับหวานใจของตัวเองนานหลายเดือนขนาดนั้นอย่างไรกันล่ะ -- และหนูรู้นะว่าเพลงใหม่ของพ่อ มีแรงบันดาลใจจากการไปเที่ยวเกาะนั่นกับนิกกี้” ก่อนที่จะชี้นิ้วขึ้นมาเบื้องหน้า แล้วส่ายมันไปมา “แถมทั้งพ่อและแม่ ไม่มีของฝากมาให้หนูด้วย!”
“ลูกย้ายไปอยู่กับเขาเกือบปีแล้วหรือ” นอร์ตันถามย้ำ มองมาทางผม “ในฐานะคนรักน่ะหรือ”
“เราย้ายมาอยู่ด้วยกันหลังจากวันวาเลนไทน์” ผมพูดขึ้น หลังจากที่เงียบมานาน “ผมขอโทษ -- ผมควรมาเจอพวกคุณให้เร็วกว่านี้”
ด็อตตี้กับนอร์ตันไม่แม้แต่หันมามองผม พวกเขาจับจ้องไปยังลูกสาวตนเองเท่านั้น
ด็อตตี้ส่ายหน้า “นี่มันไม่เหมือนกัน การแต่งงานไม่เหมือนกับการอยู่ด้วยกัน”
“มันจะไม่เหมือนกัน ถ้าเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ และรักกันน้อยลงจากตอนที่คบหากันในช่วงแรกๆ” ผมพูดช้าๆ “แต่ผมกับวีโอล่าอยู่ด้วยกันได้ เราเข้ากันได้ดีมากกว่าคู่อื่นๆ เราเข้าใจกัน และรักกันมากขึ้นเรื่อยๆ -- ความรักของเรารุนแรงมากกว่าตอนที่คบหากันช่วงแรก -- ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมไม่เคยรักเธอน้อยลง และมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น” ผมจับมือวีโอล่าแน่นขึ้น “ผมจริงใจกับลูกสาวของคุณสองคน -- ผมรักเธอมาก -- และอยากแต่งงานกับเธอจริงๆ”
นอร์ตันหยุดผมไว้เพียงแค่นั้น เขายกมือปรามผม แล้วลุกขึ้นอีกครั้ง “ตามฉันมา”
“พ่อคะ --” วีโอล่าขัด เมื่อเห็นผมลุกขึ้นตามนอร์ตันไป
“ลูกอยู่ที่นี่” ด็อตตี้สั่งเสียงเฉียบ “ลูกต้องคุยกับแม่ วีวี่”
วีโอล่าขัดคำสั่งนั้น เธอทุบโต๊ะ ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามแดงก่ำอย่างชัดเจน
“หนูจะไม่ยอมให้พ่อแม่หยาบคายกับเราแบบนี้ ทำไมหนูต้องถูกคนที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระในเรื่องความรักแบบพ่อกับแม่ด้วยมาห้ามด้วย! หนูไม่ได้ต้องการคำอนุญาต หนูมาที่นี่เพื่อต้องการคำอวยพร และถ้าพ่อกับแม่ให้หนูไม่ได้ หนูก็ไม่ต้องการ!”