งานครู งานที่เอาความสุขผูกกับคนอื่น

กระทู้คำถาม
งานครู งานที่เอาความสุขผูกกับคนอื่น
สวัสดีค่ะ เราเป็นครูฝึกสอนวิชาคณิตศาสตร์ค่ะ เราใฝ่ฝันอยากจะเป็นครูตั้งแต่เด็ก เหตุเกิดมาจากเราเถูกปฏิบัติจากคนรอบข้าง ( เพื่อน และ ครู ) อย่างไม่เท่าเทียมเพียงเพราะเรียนไม่เก่ง จนมีวันหนึ่งได้เจอคุณครูที่ไม่ได้ปฏิบัติเราเหมือนกับคนอื่น ๆ ในโรงเรียน คุณครูคนนี้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ที่เราได้โอกาสดี ๆ หลายอย่างเข้ามาให้ชีวิตมากกว่าเมื่อก่อน ก็เพราะคุณครูคนนี้ เราอยากจะทำได้แบบที่คุณครูทำค่ะ คือไม่เลือกปฏิบัติ และ ไม่ทอดทิ้งคนที่ไม่เก่ง
ในตอนนี้เราได้เป็นครูฝึกสอนค่ะ  เราเคยทำงานพิเศษเป็นครูสอนพิเศษ ทำงาน part-time ในร้านแห่งหนึ่ง ที่ทุกคนได้ยินชื่อก็ต่างคิดว่ามันเป็นงานที่หนักมาก แต่คุณรู้ไหม ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยรู้สึกหรือพูดคำว่าเหนื่อย หรือท้อ จนได้มาทำงานเป็นครู งานที่ต้องเอาความสุขของตนเองมาผูกไว้กับนักเรียนทุกคนที่เรียนกับเรา เมื่อนักเรียนเรียนกับเรา แล้วบอกว่าเข้าใจ มันมีความสุขมากค่ะ แต่ถ้าวันไหนนักเรียนไม่ตั้งใจ นักเรียนไม่ฟังเรา นักเรียนไม่อยากเรียนกับเรา นักเรียนบอกว่าเราสอนไม่รู้เรื่อง สู้เอาเวลาไปเรียนกับคนอื่นดีกว่า มันโคตรทุกข์ และเหนื่อยมากอย่างที่ไม่เคยเป็น
ในฐานะนักศึกษาฝึกสอน มันเป็นงานที่ดูสบายค่ะ คุณมีเวลามากเกือบจะทั้งวัน ที่เตรียมสอน เตรียมเอกสาร เตรียมสื่อ มีงานเอกสารเล็กๆน้อยๆ ของทางมหาวิทยาลัย และ ของทางโรงเรียนค่ะ ไม่ต้องแบกของหนักอย่างลังขวดน้ำปลาขึ้นตึก 2 ชั้น อย่างมากก็มีแค่สกิลเดินบันไดขึ้นตึกในกรณีที่ไม่อยากรอลิฟต์ แต่ก็แลกมากับความทุกข์ชนิดที่ว่าปั่นทอนสุขภาพจิต 
ในฐานะนักศึกษาฝึกสอนในโลกการศึกษาแห่งความจริง ไม่ใช่ทุ่งลาเวนเดอร์ ต้องสามารถสอนให้เด็กสามารถทำข้อสอบได้  ไม่ใช่สอนให้เด็กเอาไปเชื่อมโยงในชีวิตจริง และ เข้าใจ concept ของคณิตศาสตร์อย่างแท้จริง ตามที่ผู้ปกครองและทางโรงเรียนต้องการ ที่ไม่ใช่ความต้องการของเด็ก ถ้าไม่งั้นก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นภายหลังได้ แน่นอนว่าไม่อาจสอนแบบ active learning ทฤษฎีต่างๆที่เคยเรียนมาใช้ไม่ได้สักอย่าง เพราะเด็กหลายคนเกือบเกินครึ่งไม่มีความรู้พื้นฐานที่เน้นมากพอ แม้เด็กจะขึ้นมัธยมมาแล้ว แต่ความรู้พื้นฐานคงจะเรียกว่าผ่านเกณฑ์ประถมคงไม่ได้ ต้องสอนเนื้อหาทางหลักสูตรแกนกลางบังคับทั้งหมด รวมทั้งเนื้อหาเพิ่มเติมที่โรงเรียนต้องการให้ทันสอบ ซึ่งยากเมื่อเทียบกับความรู้พื้นฐานของพวกเขาในตอนนี้ แน่นอนว่าเราไม่สามารถสอนให้นักเรียนทุกคนเข้าใจได้โดยที่สอนให้ทันสอบ แค่สอนแบบปกติธรรมดาก็ไม่ทันแล้ว เพราะเด็กช้าเหลือเกิน เราไม่ใช่คนสอนเก่งค่ะ ดังนั้นเราใช้เวลาเกือนทั้งวันในการคิดว่าจะพูดอย่างไง จะสอนอย่างไงให้เด็กให้เข้าใจ โดยผ่านเอกสารประกอบการเรียนและหนังสือที่ทางโรงเรียนกำหนดให้ เพื่อเป็นแบบฟอร์มแบบเดียวกันในการสอน แต่คุณรู้ไหมว่าความพยายามมันไม่ได้ช่วยอะไร เด็กไม่อยากเรียนกับเรา เราต้องดุเพื่อให้ชั้นเรียนเงียบ ทั้งที่ไม่ได้อยากทำแบบนั้น เด็กหลายคนยังเรียนไม่เข้าใจเหมือนเดิม นักเรียนบอกว่าเราสอนไม่รู้เรื่อง สู้เอาเวลาไปเรียนกับคนอื่นดีกว่า  ได้มีโมเมนต์ร้องไห้ทุกครั้งหลังทำงานเสร็จก็ตอนนี้แหละ เรารู้ว่าต้องพยายามมากกว่านี้ พยายามที่จะทำให้ดีขึ้น ถึงไม่รู้ความพยายามและความอดทนของงานนี้ขอบเขตมันอยู่ตรงไหนกัน
หากมีใครมาถามว่า อยากเป็นครูหรือ ตอนนี้คงตอบได้อย่างเดียวคือไม่รู้ หนังสือสอบเข้าบรรจุครู เราก็ไม่ได้อ่าน เพราะ เราไม่รู้จริงๆ ไม่รู้ว่าถ้าเป็นครู เราจะมีความสามารถมากพอที่จะเป็นครูที่ดีได้ไหม 
เมื่อคุณอ่านข้อความนี้จบแล้ว คุณคงไม่ได้ประโยชน์อะไรจากบทความนี้หรอก แต่คิดว่าถ้ามีนักเรียนคนใดคนหนึ่งได้เห็นบทความนี้ เขาคงจะเข้าใจคนที่เป็นครูก็เท่านั้นเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่