คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าเทียบกับกาแฟที่ขายตามร้านในราคาแก้วละ 40-50 บาท การชงเองด้วย moka pot หรือ drip มันจะขึ้นอยู่กับราคาเมล็ดกาแฟครับ ว่าเมล็ดกาแฟราคาถูกหรือแพงแค่ไหน เมล็ดกาแฟที่ผมดื่มจะมีราคาตั้งแต่ 1 บาทต่อกรัม ถึง 7 บาทต่อกรัม ถ้าชงด้วย moka pot ขนาด 2 cup ผมจะใช้กาแฟประมาณ 11 กรัมต่อการชงหนึ่งแก้ว ถ้า drip ผมจะใช้กาแฟ 14 กรัมต่อการชงหนึ่งแก้ว ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับราคาของเมล็ดกาแฟที่ใช้เมื่อเทียบกับกาแฟตามร้านที่ราคาแก้วละ 40-50 บาท แต่ถ้าหากเทียบกับกาแฟที่ขายตามคาเฟ่ที่ราคาแก้วละ 100+ อันนี้ค่อนข้างแน่นอนว่าจะถูกกว่า ถ้าเราชงเอง
ส่วน capsule ก็ขึ้นกับราคาของกาแฟแต่ละแบบ แต่ละรส ผมใช้ capsule ของ Nespresso ส่วนใหญ่ที่ผมดื่มจะมีราคาต่อ capsule อยู่ที่ 20 บาทกลาง ๆ ถึง 30 บาทต้น ๆ ดังนั้น สำหรับผม การชงแบบ capsule จะถูกกว่าซื้อกาแฟแก้วละ 40-50 บาทครับ
อันนี้คือราคาคร่าว ๆ ที่ยังไม่รวมค่าไฟฟ้าหรือค่าแก๊สที่ใช้ในการต้มกาแฟ กระดาษกรองนะครับ ถ้าเจ้าของกระทู้ดื่มกาแฟแบบใส่นมและน้ำตาล ก็จะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มเข้ามา แต่ราคาค่าไฟฟ้า ค่าแก็ส ค่ากระดาษกรอง ค่านม ค่าน้ำตาล ก็ไม่ได้มากมายอะไรต่อการต้มกาแฟหนึ่งแก้วครับผม
ถ้าเจ้าของกระทู้ต้องการชงเองเพื่อจะประหยัดเงิน ในการชงกาแฟทั้งสามวิธีที่เจ้าของกระทู้กล่าวถึง ผมแนะนำแบบ capsule ครับ สำหรับผม การชงแบบ capsule จะราคาย่อมเยาและประหยัดเวลาที่สุด การชงแบบ moka pot และ drip นี่ค่อนข้างใช้เวลาตั้งแต่บดกาแฟ ทำความสะอาดเครื่องบด เวลาในการสกัดกาแฟและล้างอุปกรณ์ ครับผม
ส่วนตัวแล้ว การชงกาแฟแบบ moka pot และ drip มันเน้นไปในเรื่องของสุนทรีย์ในการดื่มกาแฟ เพราะเราได้สนุกกับการเลือกเมล็ดกาแฟที่ต้องการ ทั้งรสชาติ กลิ่น ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟที่ต้องเลือกให้เหมาะกับการชง เลือกวิธีการสกัด เวลาในการสกัด กรรมวิธีในการชง เอาเข้าจริง การชงสองวิธีนี้ไม่ค่อยจะประหยัดในแง่ราคาและเวลาสักเท่าไหร่ครับผม
ส่วน capsule ก็ขึ้นกับราคาของกาแฟแต่ละแบบ แต่ละรส ผมใช้ capsule ของ Nespresso ส่วนใหญ่ที่ผมดื่มจะมีราคาต่อ capsule อยู่ที่ 20 บาทกลาง ๆ ถึง 30 บาทต้น ๆ ดังนั้น สำหรับผม การชงแบบ capsule จะถูกกว่าซื้อกาแฟแก้วละ 40-50 บาทครับ
อันนี้คือราคาคร่าว ๆ ที่ยังไม่รวมค่าไฟฟ้าหรือค่าแก๊สที่ใช้ในการต้มกาแฟ กระดาษกรองนะครับ ถ้าเจ้าของกระทู้ดื่มกาแฟแบบใส่นมและน้ำตาล ก็จะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มเข้ามา แต่ราคาค่าไฟฟ้า ค่าแก็ส ค่ากระดาษกรอง ค่านม ค่าน้ำตาล ก็ไม่ได้มากมายอะไรต่อการต้มกาแฟหนึ่งแก้วครับผม
ถ้าเจ้าของกระทู้ต้องการชงเองเพื่อจะประหยัดเงิน ในการชงกาแฟทั้งสามวิธีที่เจ้าของกระทู้กล่าวถึง ผมแนะนำแบบ capsule ครับ สำหรับผม การชงแบบ capsule จะราคาย่อมเยาและประหยัดเวลาที่สุด การชงแบบ moka pot และ drip นี่ค่อนข้างใช้เวลาตั้งแต่บดกาแฟ ทำความสะอาดเครื่องบด เวลาในการสกัดกาแฟและล้างอุปกรณ์ ครับผม
ส่วนตัวแล้ว การชงกาแฟแบบ moka pot และ drip มันเน้นไปในเรื่องของสุนทรีย์ในการดื่มกาแฟ เพราะเราได้สนุกกับการเลือกเมล็ดกาแฟที่ต้องการ ทั้งรสชาติ กลิ่น ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟที่ต้องเลือกให้เหมาะกับการชง เลือกวิธีการสกัด เวลาในการสกัด กรรมวิธีในการชง เอาเข้าจริง การชงสองวิธีนี้ไม่ค่อยจะประหยัดในแง่ราคาและเวลาสักเท่าไหร่ครับผม
แสดงความคิดเห็น
ชงกาแฟกินเอง จะประหยัดกว่าซื้อกินตามร้านรึเปล่าครับ
ตอนนี้อยากประหยัดมากขึ้น ถ้าจะชงกินเอง แบบพวกดริป moka pot หรือว่า capsule
อยากทราบว่าต้นทุนชงเองต่อแก้ว จะอยู่ที่เท่าไหร่ครับ