โพลชี้ ‘ชัชชาติ’ ชนะเลือกตั้ง เพราะคนกรุงอยากเปลี่ยน นโยบายดี ทำได้จริง
https://www.dailynews.co.th/news/1091841/
สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ "ชัชชาติ" ชนะเลือกตั้ง 1.3 ล้านคะแนน เพราะคนกรุงเทพฯ อยากเปลี่ยนจากสิ่งเดิมๆ นโยบายดี น่าจะทำได้จริง ชี้ทิศทางลมเปลี่ยน ประชาชนไม่ได้ตัดสินใจบนเหตุผลแบบเดิมๆ พรรคการเมืองต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น.
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ จำนวนทั้งสิ้น 1,191 คน (สำรวจด้วยการเก็บข้อมูลภาคสนามและออนไลน์) ระหว่างวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2565 พบว่า คนกรุงเทพฯ มองว่าการที่คุณ
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยคะแนนเสียงจำนวนมาก เพราะคนกรุงเทพฯ ต้องการการเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 69.52 รองลงมาคือ นโยบายดี น่าจะทำได้จริง ร้อยละ 43.83 โดยมองว่า ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่จะเปลี่ยนเมืองหลวงกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นได้ ร้อยละ 69.10 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 28.80 และไม่ได้ ร้อยละ 2.10 ผลการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ครั้งนี้ค่อนข้างมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยในภาพใหญ่ ร้อยละ 46.52 ภาพรวมค่อนข้างพอใจต่อการจัดการเลือกตั้งของ กกต. ร้อยละ 50.46 สิ่งที่คนกรุงเทพฯ อยากฝากถึงผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ คือ ขอให้ทำตามที่หาเสียงไว้ รักษาสัญญา ร้อยละ 71.96 รองลงมาคือ แก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น จราจร น้ำท่วม ร้อยละ 63.14
จากผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นถึงความหวังของคนกรุงเทพฯ ที่มีต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะเป็นแนวทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงเมืองหลวงให้ดีขึ้น โดยคะแนนถล่มทลายกว่า 1.3 ล้านคะแนนนี้ เพราะคนกรุงเทพฯ ต้องการที่จะเปลี่ยนจากสิ่งเดิมๆ ที่ผ่านมา และเล็งเห็นว่าว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ มีนโยบายดี น่าจะทำได้จริง และชื่นชอบในบุคลิกส่วนตัว ที่สำคัญคนกรุงฯ มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะกระเพื่อมไปยังการเมืองใหญ่ด้วย ดังนั้นในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าพรรคการเมืองคงต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพราะทิศทางลมของการเมืองกำลังเปลี่ยนไป และประชาชนไม่ได้ตัดสินใจบนเหตุผลแบบเดิมๆ.
------------------------------
กระทู้แนะนำ จากผู้วิจัยโพลอย่างเป็นทางการครับ
"ควันหลง เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม."
https://ppantip.com/topic/41454605
วิโรจน์ สวน ‘ไพบูลย์’ หลังบอกโพสต์พปชร.ของปลอม หยอก “อย่าลืมลบทวิตด้วย”
https://www.matichon.co.th/politics/news_3370266
วิโรจน์ สวน ‘ไพบูลย์’ หลังบอกโพสต์พปชร.ของปลอม หยอก “อย่าลืมลบทวิตด้วย”
จากกรณีที่ นาย
ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมากล่าวว่า จากที่เคยสัมภาษณ์เรื่องการลบนโยบายในเพจพลังประชารัฐนั้น เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน ยันว่าไม่เคยลบโพสต์ใดๆ เนื้อหาดังกล่าวนั้นไม่เคยโพสต์ในเพจ และเป็นการจัดทำขึ้น สร้างลิงก์ขึ้นมาใส่ความพรรค โดยจะดำเนินการตรวจสอบ เตรียมแจ้งความผู้ที่กระทำผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล และ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็ได้รีทวิต โพสต์พีอาร์ข่าวดังกล่าวของพลังประชารัฐ ที่ยังไม่ได้ลบออกไป ว่า
“อย่าลืมลบทวีตนี้ด้วยนะครับ”
สำหรับข้อความของทวิตดังกล่าว โพสต์เมื่อ 14 มีนาคม 2019 มีข้อความว่า
“ตัวเลขสุดว้าว กับเซอไพรส์ #นโยบายพลังประชารัฐ และ 3 ความรวย 1.รวยความสงบ 2.รวยความสุข และ 3.รวยด้วยความหวัง ซึ่งต้องรวยอย่างยั่งยืนค่ะ
อ่านที่มาของตัวเลขและข้อความเต็มได้ที่: https://facebook.com/PPRPThailand/photos/a.493831194456888/562418130931527/?type=3&theater
#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #นโยบาย #เลือกตั้ง62″
ซึ่งเมื่อได้ตามไปที่โพสต์ดังกล่าว พบว่าได้ลบออกไปแล้วเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ของ พรรคพลังประชารัฐนั้น มีเครื่องหมายถูกสีฟ้า ซึ่งหมายถึงการยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นของจริง
พร้อมกันนี้ ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อย ออกมารีทวิตแซวถ้วนหน้า อาทิ
“ลืมลบหรือเปล่า” , “ไม่เป็นไร แคปไว้แล้ว” บ้างก็บอกว่า
“8 ปีแล้ว ยังไม่เห็นสักข้อ”
ทั้งนี้ เมื่อได้นำโพสต์ดังกล่าว ไปเช็กใน cache ของกูเกิลแล้วนั้น ก็ยังพบว่า
เพจเคยได้โพสต์ข้อความนี้ไว้ด้วย
https://twitter.com/wirojlak/status/1530224661845250048
พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวโอด 'ต้นทุน' พุ่งฉุดกำไรหด 30%
https://www.nationtv.tv/news/378874464
ร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาท ขายราคาเดิม แม้ว่าต้นทุนขยับแพงสุดในรอบ 34ปีทำให้กำไรหายไปกว่าร้อยละ 30 ขณะที่ร้านข้าวแกงโอรสเด็ด ราคาวัตถุดิบแพงขึ้นร้อยละ10-20 ยังขายราคาเดิม ส่วนเขียงหมูตลาดศิริวัฒนา เจอภาวะขาดทุนมากกว่าได้กำไร
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากการสำรวจบรรยากาศการค้า-ขาย ของผู้ประกอบการร้านอาหารในอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าผู้ประกอบการร้านอาหารบอกเป็นเสียงเดียวกัน ราคาของวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตัว แต่ยังคงขายในราคาเดิม ไม่อยากซ้ำเติมผู้บริโภค
นาย
ธวัช ภิระตา อายุ 64 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาท บริเวณถนนรัตนโกสินทร์ ซอย 1 ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางร้านขายก๋วยเตี๋ยวในราคา ถ้วยละ 3 บาท มานานกว่า 34 ปี ไม่เคยเผชิญกับราคาวัตถุดิบที่แพงขนาดนี้ ทำให้กำไรของทางร้านหายไปกว่า 30 % แต่ทางร้านยังคงขายราคาเดิม ไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด เป็นการช่วยเหลือลูกค้าที่เคยมาอุดหนุน และไม่อยากซ้ำเติมลูกค้าในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้
นาง
อรุณี สัมมาทรัพย์ อายุ 72 ปี เจ้าของร้านโอ รสเด็ด ร้านขายข้าวราดแกง บริเวณถนนเจริญราษฎร์ ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รายได้ของร้านหายไปเกือบ 50 % เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บวกกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น 10-20 % แต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นราคาแต่อย่างใด ยังคงขายในราคาเดิม ข้าวราดแกง 1-2 อยู่ที่ราคา 20-30 บาท เพราะรู้สึกสงสารลูกค้าที่ต้องประหยัดเงินมากขึ้น เพราะในปัจจุบันลูกค้ามีค่าครองชีพที่สูง แต่หากหลังจากนี้ราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นอีกอาจจะต้องมีการลดปริมาณของอาหารลงบ้างเล็กน้อย
นางสาย
พิน ปัญจะมัง อายุ 57 ปี แม่ค้าขายหมูสดใน ตลาดศิริวัฒนา (กาดธานินทร์) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตนขายหมูมานานกว่า 40 ปี รู้สึกกว่าปัญหาราคาวัตถุดิบแพงในปัจจุบันหนักสุดเท่าที่ตนเคยเจอมา ผู้บริโภคซื้อของในจำนวนน้อยลง เนื่องจากผู้บริโภคต้องประหยัดเงิน ทำกำไรในการขายเนื้อหมูหายไปมากกว่าครึ่ง บางวันขาดทุน บางวันได้เท่าทุน ทำให้ตนต้องไปหยิบยืมเงินเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในการค้าขาย
JJNY : โพลชี้ คนกรุงอยากเปลี่ยน│วิโรจน์สวน‘ไพบูลย์’ หยอก“อย่าลืมลบทวิตด้วย”│พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวโอด│เตรียมกินทุเรียนแพง!
https://www.dailynews.co.th/news/1091841/
สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ "ชัชชาติ" ชนะเลือกตั้ง 1.3 ล้านคะแนน เพราะคนกรุงเทพฯ อยากเปลี่ยนจากสิ่งเดิมๆ นโยบายดี น่าจะทำได้จริง ชี้ทิศทางลมเปลี่ยน ประชาชนไม่ได้ตัดสินใจบนเหตุผลแบบเดิมๆ พรรคการเมืองต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น.
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ จำนวนทั้งสิ้น 1,191 คน (สำรวจด้วยการเก็บข้อมูลภาคสนามและออนไลน์) ระหว่างวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2565 พบว่า คนกรุงเทพฯ มองว่าการที่คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยคะแนนเสียงจำนวนมาก เพราะคนกรุงเทพฯ ต้องการการเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 69.52 รองลงมาคือ นโยบายดี น่าจะทำได้จริง ร้อยละ 43.83 โดยมองว่า ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่จะเปลี่ยนเมืองหลวงกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นได้ ร้อยละ 69.10 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 28.80 และไม่ได้ ร้อยละ 2.10 ผลการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ครั้งนี้ค่อนข้างมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยในภาพใหญ่ ร้อยละ 46.52 ภาพรวมค่อนข้างพอใจต่อการจัดการเลือกตั้งของ กกต. ร้อยละ 50.46 สิ่งที่คนกรุงเทพฯ อยากฝากถึงผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ คือ ขอให้ทำตามที่หาเสียงไว้ รักษาสัญญา ร้อยละ 71.96 รองลงมาคือ แก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น จราจร น้ำท่วม ร้อยละ 63.14
จากผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นถึงความหวังของคนกรุงเทพฯ ที่มีต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะเป็นแนวทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงเมืองหลวงให้ดีขึ้น โดยคะแนนถล่มทลายกว่า 1.3 ล้านคะแนนนี้ เพราะคนกรุงเทพฯ ต้องการที่จะเปลี่ยนจากสิ่งเดิมๆ ที่ผ่านมา และเล็งเห็นว่าว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ มีนโยบายดี น่าจะทำได้จริง และชื่นชอบในบุคลิกส่วนตัว ที่สำคัญคนกรุงฯ มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะกระเพื่อมไปยังการเมืองใหญ่ด้วย ดังนั้นในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าพรรคการเมืองคงต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพราะทิศทางลมของการเมืองกำลังเปลี่ยนไป และประชาชนไม่ได้ตัดสินใจบนเหตุผลแบบเดิมๆ.
------------------------------
กระทู้แนะนำ จากผู้วิจัยโพลอย่างเป็นทางการครับ
"ควันหลง เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม."
https://ppantip.com/topic/41454605
วิโรจน์ สวน ‘ไพบูลย์’ หลังบอกโพสต์พปชร.ของปลอม หยอก “อย่าลืมลบทวิตด้วย”
https://www.matichon.co.th/politics/news_3370266
วิโรจน์ สวน ‘ไพบูลย์’ หลังบอกโพสต์พปชร.ของปลอม หยอก “อย่าลืมลบทวิตด้วย”
จากกรณีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมากล่าวว่า จากที่เคยสัมภาษณ์เรื่องการลบนโยบายในเพจพลังประชารัฐนั้น เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน ยันว่าไม่เคยลบโพสต์ใดๆ เนื้อหาดังกล่าวนั้นไม่เคยโพสต์ในเพจ และเป็นการจัดทำขึ้น สร้างลิงก์ขึ้นมาใส่ความพรรค โดยจะดำเนินการตรวจสอบ เตรียมแจ้งความผู้ที่กระทำผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล และ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็ได้รีทวิต โพสต์พีอาร์ข่าวดังกล่าวของพลังประชารัฐ ที่ยังไม่ได้ลบออกไป ว่า “อย่าลืมลบทวีตนี้ด้วยนะครับ”
สำหรับข้อความของทวิตดังกล่าว โพสต์เมื่อ 14 มีนาคม 2019 มีข้อความว่า
“ตัวเลขสุดว้าว กับเซอไพรส์ #นโยบายพลังประชารัฐ และ 3 ความรวย 1.รวยความสงบ 2.รวยความสุข และ 3.รวยด้วยความหวัง ซึ่งต้องรวยอย่างยั่งยืนค่ะ
อ่านที่มาของตัวเลขและข้อความเต็มได้ที่: https://facebook.com/PPRPThailand/photos/a.493831194456888/562418130931527/?type=3&theater
#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #นโยบาย #เลือกตั้ง62″
ซึ่งเมื่อได้ตามไปที่โพสต์ดังกล่าว พบว่าได้ลบออกไปแล้วเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ของ พรรคพลังประชารัฐนั้น มีเครื่องหมายถูกสีฟ้า ซึ่งหมายถึงการยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นของจริง
พร้อมกันนี้ ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อย ออกมารีทวิตแซวถ้วนหน้า อาทิ “ลืมลบหรือเปล่า” , “ไม่เป็นไร แคปไว้แล้ว” บ้างก็บอกว่า “8 ปีแล้ว ยังไม่เห็นสักข้อ”
ทั้งนี้ เมื่อได้นำโพสต์ดังกล่าว ไปเช็กใน cache ของกูเกิลแล้วนั้น ก็ยังพบว่า เพจเคยได้โพสต์ข้อความนี้ไว้ด้วย
https://twitter.com/wirojlak/status/1530224661845250048
พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวโอด 'ต้นทุน' พุ่งฉุดกำไรหด 30%
https://www.nationtv.tv/news/378874464
ร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาท ขายราคาเดิม แม้ว่าต้นทุนขยับแพงสุดในรอบ 34ปีทำให้กำไรหายไปกว่าร้อยละ 30 ขณะที่ร้านข้าวแกงโอรสเด็ด ราคาวัตถุดิบแพงขึ้นร้อยละ10-20 ยังขายราคาเดิม ส่วนเขียงหมูตลาดศิริวัฒนา เจอภาวะขาดทุนมากกว่าได้กำไร
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากการสำรวจบรรยากาศการค้า-ขาย ของผู้ประกอบการร้านอาหารในอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าผู้ประกอบการร้านอาหารบอกเป็นเสียงเดียวกัน ราคาของวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตัว แต่ยังคงขายในราคาเดิม ไม่อยากซ้ำเติมผู้บริโภค
นายธวัช ภิระตา อายุ 64 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาท บริเวณถนนรัตนโกสินทร์ ซอย 1 ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางร้านขายก๋วยเตี๋ยวในราคา ถ้วยละ 3 บาท มานานกว่า 34 ปี ไม่เคยเผชิญกับราคาวัตถุดิบที่แพงขนาดนี้ ทำให้กำไรของทางร้านหายไปกว่า 30 % แต่ทางร้านยังคงขายราคาเดิม ไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด เป็นการช่วยเหลือลูกค้าที่เคยมาอุดหนุน และไม่อยากซ้ำเติมลูกค้าในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้
นางอรุณี สัมมาทรัพย์ อายุ 72 ปี เจ้าของร้านโอ รสเด็ด ร้านขายข้าวราดแกง บริเวณถนนเจริญราษฎร์ ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รายได้ของร้านหายไปเกือบ 50 % เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บวกกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น 10-20 % แต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นราคาแต่อย่างใด ยังคงขายในราคาเดิม ข้าวราดแกง 1-2 อยู่ที่ราคา 20-30 บาท เพราะรู้สึกสงสารลูกค้าที่ต้องประหยัดเงินมากขึ้น เพราะในปัจจุบันลูกค้ามีค่าครองชีพที่สูง แต่หากหลังจากนี้ราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นอีกอาจจะต้องมีการลดปริมาณของอาหารลงบ้างเล็กน้อย
นางสายพิน ปัญจะมัง อายุ 57 ปี แม่ค้าขายหมูสดใน ตลาดศิริวัฒนา (กาดธานินทร์) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตนขายหมูมานานกว่า 40 ปี รู้สึกกว่าปัญหาราคาวัตถุดิบแพงในปัจจุบันหนักสุดเท่าที่ตนเคยเจอมา ผู้บริโภคซื้อของในจำนวนน้อยลง เนื่องจากผู้บริโภคต้องประหยัดเงิน ทำกำไรในการขายเนื้อหมูหายไปมากกว่าครึ่ง บางวันขาดทุน บางวันได้เท่าทุน ทำให้ตนต้องไปหยิบยืมเงินเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในการค้าขาย