ขอเล่าแบบย่อๆนะครับ กลางดึกวันเสาร์ต่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (ช่วงหยุดยาวิสาขะ) แม่อายุ 79 มีอาการเบลอ เหนื่อย ตอบสนองช้า (เป็นงูสวัดมาได้ 3 วัน ปวดนอนไม่หลับ) ตกดึกผมเลยตัดสินใจนำส่งโรงพยาบาลเอกชน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ใกล้กับรพ.รัฐชื่อดังสุดของประเทศ และหมอมาจากที่เดียวกัน เพราะคิดว่าถ้าส่งรพ.รัฐ ก็คงได้นอนห้องสังเกตอาการ หรือเข็นเตียงไปหลบตามมุมนั้นมุมนี้ ไม่ได้ห้องนอนจริงๆแน่  รพ.ได้แอดมิดด้วยอาการ "fatigue" คือเหนื่อยมาก ไม่มีอาการทางสมอง แต่มีไข้ ความดันสูง เกลือแร่ตำมากคือ116 (น่าจะเกิดจากอดนอนหลายวัน) 

ตลอดเวลาตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันนี้ (พฤหัส) แม่มีไข้สูงๆต่ำๆ ลดๆเพิ่มๆ หมอโด๊ปเกลือแร่ให้สองวัน เกลือแร่เขยิบเป็น 126 ซึ่งยังไม่ถึงขั้นที่ดี แม่กินข้าวได้ แต่ซึม นอนหลับทั้งวัน ขยับตัวลำบาก หมอให้ถ่ายหนักเบาบนที่นอนเลยเพราะลุกไปห้องน้ำแล้วกลัวล้ม วานนี้หมอไตโทรมาคุย รื้อดูประวัติเจาะเลือดในสมุดประจำตัวแม่ (จากศูนย์พยาบาลและรพ.ที่แม่ไปรักษาตามสิทธิ) ก็ไม่มีประวัติว่าเกลือแร่ต่ำมาก่อน แต่มีค่าไตเสื่อม (Creatine 1.4/ eGFR 34) หมอบอกว่า ช่วงนี้มีรายงานว่าคนแก่ที่ป่วยเป็นงูสวัด จะมีอาการเกลือแร่ต่ำร่วมด้วย  ขอไปศึกษาดูอีกที ส่วนหมอเจ้าของไข้บอกจะลองให้เลือดแม่ดูเผื่อจะสดชื่อขึ้น

วันนี้ (วันที่ 5) ก็ยังเหมือนเดิม ไข้ลดมานิดนึง แต่แม่ลุกนั่งไม่ได้ หมอเลยให้กายภาพมาดู พวกเราพี่น้องปรึกษากันว่าอยากย้ายไปรพ.ตามสิทธิ แต่ให้แน่ใจว่าไข้ลดแล้ว และค่าเกลือแร่ดีแล้ว ค่อยไปดูเรื่องไตที่รพ.ตามสิทธิ์ ค่าใช้จ่ายตอนนี้ 7 หมื่นกว่าบาทแล้ว ชนเสาร์อาทิตย์นี้ แสนกว่าแน่นอน

ขอถามความเห็นเพื่อนๆในนี้หน่อยครับ ถ้าเราจะขอย้ายไปรพ.รัฐตามสิทธิ (อยู่แถวคลองสาน สังกัดกทม.)... 
1. เขาจะรับไหมครับ แล้วเราต้องคุยเอง หรือ รพ.ต้นทางคุยให้
2. ถ้าเขารับแปลว่ามีห้องให้ใช่ไหมครับ จะเป็นห้องรวมก็ได้ แต่ไม่อยากให้เขาเข็นเตียงแม่ไปมาระหว่างมุมนั้นมุมนี้เหมือนที่เคยเห็นตามรพ.รัฐทั่วไป
3. ควรไปในสภาพร่างกายที่ดีขึ้นใช่ไหมครับ ไม่ใช่ไปด้วยอาการเหนื่อยอ่อนแบบนี้

ตอนนี้มืดแปดด้านครับ ผมต้องทำงานไปเฝ้าไม่ได้ ด้วยสถานการณ์โควิดเขาให้เฝ้าไข้ได้ 1 คนเลยให้น้องเฝ้า คนอื่นห้ามเยี่ยม ผมทำงานไม่มีสมาธิเลยครับ หน้าตากังวลตลอด (คนข้างๆบอกมา)