บทความคัดมาจาก
บล็อคเอกโหรา
==
หนังสือโหราศาสตร์ภูมิพยากรณ์ทั่วไป (ฮวงจุ้ย) มักกล่าวว่า ตำแหน่งทรัพย์เป็นมุมอับที่ทะแยงมุมกับประตู, หน้าต่าง, และช่องลม เป็นต้น หากเป็นที่ดินคือ มุมที่ห่างไกลจากถนน ความพลุ่กพล่าน มีความสงบเงียบในตนเอง
ปรัชญาที่ซ้อนอยู่ในความหมายนั่นก็ คือ “อยู่ลึก”, ห่างไกลจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ, ยากต่อการหยิบจับใช้สอย, และโจรขโมยในบ้าน-โจรขโมยนอกบ้านหยิบจับทรัพย์ออกไปไม่ง่าย, ผู้คนไม่สนใจสัญจรไปมาในจุดนั้น
ทิศขุมทรัพย์เป็นมุมที่ความคล่องตัวต่ำ แต่แสดงอำนาจระยะยาวในรูปแบบเสถียร เป็นพลังแบบ “หยิน”
จะเก็บทรัพย์อย่างไรให้พอกพูน
หลักการ คือ มูลค่าของทรัพย์ต้องงอกเงยได้ด้วยตัวของมันเอง
ด้วยพลังแบบ "หยิน" คือ อยู่เฉยๆ ก็เพิ่มมูลค่าเอง
(แต่พลังแบบหยาง คือ ต้องกระตือรือร้นทำเอา)
หากพูดถึงทรัพย์ที่พอกพูนได้ด้วยตนเอง ต้องพูดถึง "อาหาร" ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานแรกของชีวิตก่อน ตัวอย่างการเพิ่มมูลค่า เช่น โรงบ่มไวน์ยิ่งเก็บไวน์ไว้นานยิ่งมีมูลค่าเพิ่มสูง, หรือปุ๋ยยิ่งบ่มได้ระยะเวลายิ่งปลูกต้นไม้ได้ดี, ปลาร้าในไห, ชีทจากวัวเก็บบ่มนานได้ราคาสูงขึ้น, และยังมีอาหารอีกมากมายยิ่งบ่มไว้นานกลับเพิ่มมูลค่า
ทรัพย์ที่เพิ่มพูนในมุมขุมทรัพย์ ให้เน้นไปทาง สสังหาริมทรัพย์, โดยเป็นทรัพย์ที่ยิ่งบ่มเก็บไว้นานยิ่งสร้างมูลค่าเพิ่ม อาทิ นาฬิกาหรูรุ่น limited, ทองคำแท่ง, งานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงแห่งยุค, โฉนดที่ดิน (โฉนดเป็นสสังหาฯ แต่ที่ดินเป็นอสังหาฯ), ใบกรรมสิทธิหุ้นของบริษัทที่มีความมั่นคง (โดยเฉพาะบริษัทที่ได้สิทธิถือครอง “สัมปทานผูกขาดในระยะยาวจากรัฐ” เพราะบริษัทเหล่านั้นตั้งราคาสินค้าได้เองตามชอบใจ มีเงินปันผลสม่ำเสมอ สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ยาวได้), รวมใบแสดงกรรมสิทธิต่างๆ ตามกฏหมายของรัฐ (ซึ่งมันมีมูลค่า ตราบใดที่รัฐแห่งนั่นยังไม่ล่มสลายลง)
ทรัพย์ที่ควรเก็บในตำแหน่งขุมทรัพย์ ให้เก็บเฉพาะทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่าในตัวเอง ตามขอบเขต ของตัวอย่างข้างต้น
ฉะนั้นจึงไม่ใช่ว่าทรัพย์ทุกอย่างจะโยนเก็บในทิศขุมทรัพย์ แต่ให้เน้นเฉพาะทรัพย์สินที่เก็บแล้วเพิ่มมูลค่าในตนเองได้เท่านั้น หรือสามารถไปต่อยอดทำประโยชน์ได้ในขณะถือครอง อาทิมีโฉนดที่ดินของตนเอง ในขณะถือครองก็ปล่อยเช่า ปล่อยเซ้งไปด้วยได้ เป็นต้น
ซึ่งคนอายุน้อยเพิ่งเริ่มทำงานควรเข้าใจเรื่องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มาถือครอง สำหรับการลงทุน เสริมรายได้อีกทาง อาทิ ปล่อยเช่า และเลือกจุดขาย (มีเวลาจะเขียนให้อ่าน)
การเก็บเงินสดไม่ควรใช้ตำแหน่งขุมทรัพย์ เพราะเสียของเสียจุด
เนื่องจากเงินสดทุกสกุลเงินในโลกเป็นสินทรัพย์ลดมูลค่า อันเกิดจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ทั้งรัฐบาลแต่ละประเทศก็สั่งพิมพ์เพิ่มทุกปี ฉะนั้นอย่าไปเสียเวลาเก็บเงินสดที่ไม่มีมูลค่าแท้จริงในทิศขุมทรัพย์ เพียงถือเงินสดไว้สำหรับใช้จ่ายรายวันและเผื่อฉุกเฉินก็เพียงพอ ส่วนที่เหลือให้แลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์เพิ่มมูลค่า เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งในอนาคตของตนเองและครอบครัว
ในบ้านเรือน, บริษัท, โรงงาน, โกดัง, รวมถึงไร่สวน ก็ให้ศึกษาหามุมเก็บทรัพย์ในพื้นที่ไว้ เพื่อนำทรัพย์ไปเก็บ มันจะช่วยให้ห่างไกลจากการหยิบมาใช้โดยง่าย และระยะเวลาที่เพาะบ่มมันไว้ จะช่วยเพิ่มพูนมูลค่าของทรัพย์สินในระยะยาว
เมื่อเข้าใจเรื่องทรัพย์สินเพิ่มมูลค่าและตำแหน่งขุมทรัพย์ตามจุดต่างๆในบ้านแล้ว ผู้อ่านก็เลือกเก็บทรัพย์ให้เหมาะสมกับทิศขุมทรัพย์ เขาจะช่วยทำหน้าที่รักษาทรัพย์ ครั้นเวลาผ่านไป ทุกครั้งที่ท่านไปเปิดคลังที่เก็บไว้ในทิศขุมทรัพย์ ท่านก็จะรู้สึกเป็นคนหนึ่งในโลกที่โชคดี
เอกโหรา – เทคนิคเก็บทรัพย์ในตำแหน่งขุมทรัพย์ให้เพิ่มพูน
==
หนังสือโหราศาสตร์ภูมิพยากรณ์ทั่วไป (ฮวงจุ้ย) มักกล่าวว่า ตำแหน่งทรัพย์เป็นมุมอับที่ทะแยงมุมกับประตู, หน้าต่าง, และช่องลม เป็นต้น หากเป็นที่ดินคือ มุมที่ห่างไกลจากถนน ความพลุ่กพล่าน มีความสงบเงียบในตนเอง
ปรัชญาที่ซ้อนอยู่ในความหมายนั่นก็ คือ “อยู่ลึก”, ห่างไกลจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ, ยากต่อการหยิบจับใช้สอย, และโจรขโมยในบ้าน-โจรขโมยนอกบ้านหยิบจับทรัพย์ออกไปไม่ง่าย, ผู้คนไม่สนใจสัญจรไปมาในจุดนั้น
ทิศขุมทรัพย์เป็นมุมที่ความคล่องตัวต่ำ แต่แสดงอำนาจระยะยาวในรูปแบบเสถียร เป็นพลังแบบ “หยิน”
จะเก็บทรัพย์อย่างไรให้พอกพูน
หลักการ คือ มูลค่าของทรัพย์ต้องงอกเงยได้ด้วยตัวของมันเอง ด้วยพลังแบบ "หยิน" คือ อยู่เฉยๆ ก็เพิ่มมูลค่าเอง
(แต่พลังแบบหยาง คือ ต้องกระตือรือร้นทำเอา)
หากพูดถึงทรัพย์ที่พอกพูนได้ด้วยตนเอง ต้องพูดถึง "อาหาร" ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานแรกของชีวิตก่อน ตัวอย่างการเพิ่มมูลค่า เช่น โรงบ่มไวน์ยิ่งเก็บไวน์ไว้นานยิ่งมีมูลค่าเพิ่มสูง, หรือปุ๋ยยิ่งบ่มได้ระยะเวลายิ่งปลูกต้นไม้ได้ดี, ปลาร้าในไห, ชีทจากวัวเก็บบ่มนานได้ราคาสูงขึ้น, และยังมีอาหารอีกมากมายยิ่งบ่มไว้นานกลับเพิ่มมูลค่า
ทรัพย์ที่เพิ่มพูนในมุมขุมทรัพย์ ให้เน้นไปทาง สสังหาริมทรัพย์, โดยเป็นทรัพย์ที่ยิ่งบ่มเก็บไว้นานยิ่งสร้างมูลค่าเพิ่ม อาทิ นาฬิกาหรูรุ่น limited, ทองคำแท่ง, งานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงแห่งยุค, โฉนดที่ดิน (โฉนดเป็นสสังหาฯ แต่ที่ดินเป็นอสังหาฯ), ใบกรรมสิทธิหุ้นของบริษัทที่มีความมั่นคง (โดยเฉพาะบริษัทที่ได้สิทธิถือครอง “สัมปทานผูกขาดในระยะยาวจากรัฐ” เพราะบริษัทเหล่านั้นตั้งราคาสินค้าได้เองตามชอบใจ มีเงินปันผลสม่ำเสมอ สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ยาวได้), รวมใบแสดงกรรมสิทธิต่างๆ ตามกฏหมายของรัฐ (ซึ่งมันมีมูลค่า ตราบใดที่รัฐแห่งนั่นยังไม่ล่มสลายลง)
ทรัพย์ที่ควรเก็บในตำแหน่งขุมทรัพย์ ให้เก็บเฉพาะทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่าในตัวเอง ตามขอบเขต ของตัวอย่างข้างต้น
ฉะนั้นจึงไม่ใช่ว่าทรัพย์ทุกอย่างจะโยนเก็บในทิศขุมทรัพย์ แต่ให้เน้นเฉพาะทรัพย์สินที่เก็บแล้วเพิ่มมูลค่าในตนเองได้เท่านั้น หรือสามารถไปต่อยอดทำประโยชน์ได้ในขณะถือครอง อาทิมีโฉนดที่ดินของตนเอง ในขณะถือครองก็ปล่อยเช่า ปล่อยเซ้งไปด้วยได้ เป็นต้น
ซึ่งคนอายุน้อยเพิ่งเริ่มทำงานควรเข้าใจเรื่องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มาถือครอง สำหรับการลงทุน เสริมรายได้อีกทาง อาทิ ปล่อยเช่า และเลือกจุดขาย (มีเวลาจะเขียนให้อ่าน)
การเก็บเงินสดไม่ควรใช้ตำแหน่งขุมทรัพย์ เพราะเสียของเสียจุด เนื่องจากเงินสดทุกสกุลเงินในโลกเป็นสินทรัพย์ลดมูลค่า อันเกิดจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ทั้งรัฐบาลแต่ละประเทศก็สั่งพิมพ์เพิ่มทุกปี ฉะนั้นอย่าไปเสียเวลาเก็บเงินสดที่ไม่มีมูลค่าแท้จริงในทิศขุมทรัพย์ เพียงถือเงินสดไว้สำหรับใช้จ่ายรายวันและเผื่อฉุกเฉินก็เพียงพอ ส่วนที่เหลือให้แลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์เพิ่มมูลค่า เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งในอนาคตของตนเองและครอบครัว
ในบ้านเรือน, บริษัท, โรงงาน, โกดัง, รวมถึงไร่สวน ก็ให้ศึกษาหามุมเก็บทรัพย์ในพื้นที่ไว้ เพื่อนำทรัพย์ไปเก็บ มันจะช่วยให้ห่างไกลจากการหยิบมาใช้โดยง่าย และระยะเวลาที่เพาะบ่มมันไว้ จะช่วยเพิ่มพูนมูลค่าของทรัพย์สินในระยะยาว
เมื่อเข้าใจเรื่องทรัพย์สินเพิ่มมูลค่าและตำแหน่งขุมทรัพย์ตามจุดต่างๆในบ้านแล้ว ผู้อ่านก็เลือกเก็บทรัพย์ให้เหมาะสมกับทิศขุมทรัพย์ เขาจะช่วยทำหน้าที่รักษาทรัพย์ ครั้นเวลาผ่านไป ทุกครั้งที่ท่านไปเปิดคลังที่เก็บไว้ในทิศขุมทรัพย์ ท่านก็จะรู้สึกเป็นคนหนึ่งในโลกที่โชคดี