JJNY : หมูราคาพุ่งจ่อเท่ารอบแรก│‘เพื่อไทย’ บุกสมุทรปราการ│เรียกปริญญ์ คดีที่8│ยูเครนเดินหน้าไล่รัสเซียออกจากเมืองคาร์คิฟ

กลับมาแพงแบบเงียบๆ! หมูราคาพุ่งจ่อเท่ารอบแรกอีกครั้ง วิจัยชี้ราคาลงต้องรอครึ่งหลังปี 65
https://brandinside.asia/rising-pork-price-in-thailand/

หมูแพง! ราคาหมูมีแนวโน้มกลับมาแพงอีกรอบ จากการสำรวจข้อมูลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุด หมูส่วนสะโพกราคาพุ่งเกือบ 200 ต่อกิโลกรัมแล้ว
 
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเกิดประเด็นร้อนแรงคือการที่ราคาหมูแพงทะลุ 200 บาท/กิโลกรัม แม้ว่าต่อมาราคาจะปรับตัวลงมาในภายหลัง แต่ล่าสุดพบว่า เนื้อหมูมีแนวโน้มกลับมาแพงเท่าเดิมอีกครั้งแบบเงียบๆ อ้างอิงข้อมูลราคาจากกระทรวงพาณิชย์
 
จากการสำรวจ ราคาค้าปลีกของเนื้อหมูในวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 จากแหล่งข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ พบว่าราคาเนื้อหมูปัจจุบันเข้าใกล้ราคาในช่วงมกราคมที่แพงจนเป็นกระแสเข้าไปทุกขณะ 
 
หากลองดูราคาเนื้อหมูในช่วง 4 เดือนล่าสุดจะภาพเห็นชัด
 
• หมูส่วนสะโพก เคยแพงสุดที่ 215 บาท/กิโลกรัม เมื่อ 11 มกราคม 2565
• 21 กุมภาพันธ์ 2565 ลดลงมาเหลือ 165 บาท/กิโลกรัม
• ปัจจุบัน หมูส่วนสะโพกขึ้นมาที่ 195 บาท/กิโลกรัม
 
แน่นอนว่าราคาเนื้อหมูส่วนอื่นก็แพงขึ้นในทิศทางเดียวกัน เช่น 
• หมูสามชั้น 230 บาท/กิโลกรัม (เข้าใกล้ราคาเดิมที่แพงที่สุดคือ 250 บาท/กิโลกรัม) 
• หมูสันนอก  205 บาท/กิโลกรัม (เข้าใกล้ราคาเดิมที่แพงที่สุดคือ 225 บาท/กิโลกรัม)
 
ทำไม หมูยังแพงอยู่?
 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย หรือ KResearch เคยพูดเอาไว้ในช่วงหมูแพงรอบก่อนว่า ราคาหมูจะยังแพงขึ้นตลอด 6 เดือนแรกของ ปี 2565 เพราะในภาพใหญ่ ประเทศไทยเจอปัญหาในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ราคาหมูแพงขึ้นเกือบเท่าเดิม (แม้จะราคาจะลงไปแล้วรอบนึง)
โดย KResearch แจกแจงสาเหตุเอาไว้ให้เห็นภาพ เอาไว้ดังนี้
 
1. โรคระบาดสุกร ทำให้เนื้อหมูขาดตลาด
2. ต้นทุนการผลิตเนื้อหมูสูงขึ้น ทั้งต้นทุนการขนส่งและต้นทุนอาหารสัตว์
3. เกษตรกรรายย่อยบอบช้ำ ไม่มั่นใจจะมาลงทุนเลี้ยงใหม่เพราะไม่กล้าแบกรับต้นทุนและความเสี่ยง
 
สามสาเหตุนี้ทำให้ปริมาณเนื้อหมูในไทยขาดตลาด ซึ่ง KResearch คาดเอาไว้ว่ากว่าภาพรวมอุตสาหกรรมจะกลับมาดีขึ้น ปริมาณหมูเพิ่มขึ้น ราคาเนื้อหมูลดลงก็ต้องรอไปถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2565
 
ที่มา – กระทรวงพาณิชย์
  

  
‘เพื่อไทย’ บุกสมุทรปราการ จัดงานใหญ่ ปชช.เข้าร่วมคึกคัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3343581

‘เพื่อไทย’ บุกสมุทรปราการ จัดงานใหญ่ ปชช.เข้าร่วมคึกคัก
 
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 พฤษภาคม ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิล์ด สำโรง สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดงาน ‘ครอบครัวเพื่อไทย สมุทรปราการ’ นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคพท. ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคพท. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคพท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชศรีมา เลขาธิการพรรคพท. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพท. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท. และนายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคพท.
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนทยอยมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีการตรวจ ATK และสแกนอุณหภูมิก่อนเข้าร่วมงาน รวมถึงมีการลงทะเบียนและแจกเสื้อยืดสีแดงสกรีนคำว่า ครอบครัวเพื่อไทย ให้กับผู้เข้าร่วมงาน
 
จากนั้นเวลา 12.30 น. น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึงบริเวณที่จัดงาน ก่อนจะไปร่วมถ่ายรูปและพบปะพูดคุยทักทายกับผู้เข้าร่วมงาน โดยในงานได้มีการตั้งภาพพื้นหลังในการถ่ายภาพ AR ร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามารถพิมพ์ออกมาเป็นของที่ระลึกได้
 

 
ออกหมายเรียก ปริญญ์ ข้อหาอนาจารฯ คดีที่ 8
https://www.nationtv.tv/news/378872980

"ปริญญ์" รับหมายเรียกเพิ่มอีก 1 คดี จากเหตุการณ์ เมื่อปี 2556 ภายในร้านอาหาร จากข้อกล่าวหาลักษณะเดียวกันในคดีอื่นๆ "พล.ต.ต.ไตรรงค์" รองผบช.น. เผย นัดเข้ารับทราบข้อกล่าวหา สัปดาห์หน้า รวมทั้งในและนอกนครบาลเป็นคดีที่ 8

วันที่ 14 พฤษภาคม 2565  เมื่อช่วงเช้า  พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)  เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดีการล่วงละเมิดทางเพศที่มี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีที่มีหญิงสาวหลายรายร้องทุกข์กล่าวโทษว่าถูกนักการเมืองรายนี้ ล่วงละเมิดและกระทำอนาจาร โดยภายหลังการประชุม  พล.ต.ต.ไตรรงค์ ระบุว่า วันนี้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี  สามารถออกหมายเรียก นายปริญญ์ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 1 คดี ตามความผิดในข้อหาอนาจารต่อหน้าธารกำนัล เพราะมีข้อมูล พยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ซึ่งเหตุเกิดขึ้นปี 2556 ที่ร้านอาหาร ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่เคยก่อเหตุในคดีอื่นๆ โดยจะมีการประสานผู้ต้องหาและทนายความ มารับทราบข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์หน้า
  
กรณีนี้ ผู้เสียหายคนเดียวกัน ได้มากล่าวหาใน 2 ข้อหา คือ ข้อหาอนาจารฯ และข้อหาข่มขืนด้วย แต่เนื่องจาก ข้อหาข่มขืนสามารถยอมความได้และคดีมีอายุความแค่ 3 เดือน จึงทำให้ข้อหานี้หมดอายุความ และเหลือเพียง1ข้อกล่าวหา สำหรับผู้เสียหายรายนี้

ส่วนคดีอื่นๆที่เหลืออยู่ในพื้นที่ สน.ลุมพินี อีก 4 คดีนั้น ก็ได้สั่งการเพิ่มเติม กำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุให้ชัดเจนขึ้น เพราะคดีที่เกิดมานาน มีความยากลำบากในการหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งกรณีไหน หลักฐานยังไม่เพียงพอ ก็จะยังไม่ได้เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา
 
ทั้งนี้คดีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ก่อนหน้านี้ทั้งสน.ลุมพินี และสน.ห้วยขวาง ยังรอรายงานผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานก่อนจึงจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้
  
โดย รอง ผบช.น. ย้ำว่า ขณะนี้ ผู้เสียหายทุกคดีทุกราย ยังคงยืนยันคำให้การเดิม ยังไม่มีการมาเปลี่ยนแปลงคำให้การ และยังไม่มีผู้เสียหายรายใหม่มาเพิ่มเติม
 
สำหรับการกล่าวหา "นายปริญญ์" ในพื้นที่นครบาลมีทั้งหมด 10 คดี  จนถึงปัจจุบัน เท่ากับ ขณะนี้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 5 คดี และอีก 1 คดี ออกหมายเรียกแล้ววันนี้ ทำให้เหลือคดีที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 4 คดี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ สน.ลุมพินี ส่วนการสอบสวนสำนวนคดีที่นายปริญญ์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในจังหวัดเพชรบุรี และจังหวัด​เชียงใหม่ แยกการสอบสวนเป็นอิสระต่อกัน แต่ยืนยันว่า พนักงานสอบสวน มีการประสานข้อมูลกันอยู่ตลอดเวลา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่