JJNY : 6in1 วิกฤตค่าครองชีพพุ่ง│โอดค่ารถภูเก็ต│ร้านของชำโอด│รำลึก12ปี‘เสธ.แดง’│ชัชชาติแนะดูนโยบาย│รวบอดีตทหารค้ามนุษย์

สินค้าเรียงคิวขึ้นราคา วิกฤตค่าครองชีพพุ่ง
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_338627/
 
  
สินค้าขนขบวนขึ้นราคารอบใหม่หลังต้นทุนการผลิตปรับสูงขึ้นเหตุเพราะราคาน้ำมันดีเซลแพงแตะ 32 บาทต่อลิตร ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องเจอกับวิกฤตค่าครองชีพพุ่งไม่หยุด ส่วนทางกับรายได้ที่นับวันยิ่งลดน้อยลง สิ่งเหล่านี้ถือว่สเป็นตัวฉุดกำลังซื้อชะลอตัว กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ชะลอลง
 
โดยในวันนี้สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ได้ลงพื้นที่ สำรวจราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดยิ่งเจริญ ย่านสะพานใหม่ พบว่า สินค้าประเภทของสด หมู-ไก่-อาหารทะเลราคาปรับขึ้น 5-10 บาท/กก.เทียบกับสัปดาห์ก่อน อาทิ สะโพกหมู 180 บาท/กก. สันใน-สันนอก 200 บาท/กก. สามชั้น 220 บาท/กก. หมูบด 180 บาท/กก.  ไก่สด ประกอบด้วย อกไก่ ราคา 90 บาท/กก. อกไก่ติดหนัง 90 บาท/กก. อกไก่ลอกหนัง 95 บาท/กก. ปีกบน 85 บาท/กก. ปีกกลาง 135 บาท/กก.
 
ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มราคาปรับเพิ่มขึ้นอีก 2 บ.โดยราคาขายในร้านค้าที่ตลาดอยู่ที่ ขวดละ 70 บาท จากเดิมราคาขวดละ 68 บาท
ทั้งนี้ จากการสอบถามพ่อค้าในตลาดบอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ต้นทุนของสินค้าต่างๆ ปรับราคาเพิ่มขึ้นส่งผลให้สัปดาห์นี้ราคาสินค้าขยับขึ้นไปอีกโดยเฉพาะ น้ำมันพืชปาล์มซึ่งราคาส่งอยู่ที่ลังละ 800 กว่าบาท ดังนั้นราคาขายปลีกจึงต้องขยับตามไปด้วย
 
สำหรับราคาสินค้าที่ตลาดจะไม่สามารถปรับราคาได้สูงมากนักเนื่องจากทางตลาดมีการกำหนดราคาขายให้กับร้านค้าซึ่งเป็นราคาตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดไว้ดังนั้นจะไม่สามารถปรับราคาขึ้นได้มากนักแม้ราคาต้นทุนที่รับมาจะสูงเพียงใด
 
ส่วนยอดขายปัจจุบันถือว่าลดลงมากเนื่องจากสินค้ามีราคาแพงประชาชนมีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นจึงทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงา
 
อย่างไรก็ตามแม้ในส่วนของสินค้าที่เป็นอาหารสดจะปรับราคาขึ้นแต่ในสวนผักสดนั้นหลายรายการราคาคงที่และบางประเภทราคาปรับลดลงทำให้ปัจจุบันนั้นประชาชนหันมาบริโภคผักมากขึ้นและบางคนเลือกใช้วัตถุดิบที่สามารถทดแทนเนื้อหมูมาประกอบอาหาร

นับได้ว่าการสำรวจราคาสินค้านั้นถือเป็นการสะท้อนปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่แพงเพราะน้ำมันถือเป็นต้นทุนหลักของการผลิตซึ่งหากราคาน้ำมันสูงขึ้นราคาสินค้าทุกประเภทก็จะปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วยดังนั้นจึงต้องติดตามว่าทางรัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไรในการควบคุมดูแลราคาสินค้าหรือการควบคุมดูแลราคาน้ำมันไม่ให้ปรับเพิ่มสูงขึ้นไปมากกว่านี้ไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน

 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ 


นทท.โอด ค่ารถในภูเก็ต โหดกว่าราคาห้องพัก!
 
ใครที่เคยเดินทางไปเที่ยวภูเก็ต จะรู้ถึงราคาค่าโดยสารรถสาธารณะที่เเพงมาก ล่าสุด มีเสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ บอกว่า ค่าเดินทางภายในจังหวัดโหดกว่าราคาห้องพัก
 
นายวายุ โพธิ์เย็น Director Of sales โรงแรมซีเบด แกรนด์ โฮเทล ภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังปลดล็อค Test &G o นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางกลับเข้ามามากขึ้น อัตราการเข้าพักมากกว่า 80% ส่วนใหญ่เป็นชาติตะวันออกกลาง และอินเดีย  แต่ราคาวัตถุดิบและสินค้าที่แพงขึ้น ทำให้ต้นทุนประกอบการ เพิ่มมากกว่า 30% ขณะที่ยังไม่สามารถปรับราคาได้ เพราะกลัวว่าจะกระทบต่อนักท่องเที่ยว
 
ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า ค่าใช้จ่ายการเดินทางในภูเก็ต โดยเฉพาะรถแท็กซี่มีราคาสูงมาก รวมๆแล้วสูงกว่าราคาห้องพักโรงแรม 5 ดาวด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยว
 
ขณะที่การท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย จับมือ สายการบินไทยแอร์เอเชีย จัโรดโชว์ ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในประเทศที่มีศักยภาพ อย่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเส้นทางบินตรงเข้าสู่ประเทศไทยหลายจุด ให้เดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งหลังปลดล็อค Test &Go มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ เฉลี่ยวันละกว่า 15,000 คน ประเทศที่เดินทางมามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดย ททท. คาดการณ์ว่าปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยกว่า 10 ล้านคน และสร้างรายได้ 6.2 แสนล้านบาท
 

 
ร้านขายของชำโอด สินค้าดาหน้าขึ้นราคาอื้อ 
 
ร้านขายของชำโอด สินค้าดาหน้าขึ้นราคา ขายของไม่ดีต้องหาอาชีพเสริมเลี้ยงครอบครัว วอนรัฐเร่งแก้ปัญหา
  
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าในร้านขายของชำในเขตพื้นที่ตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา พบว่ามีสินค้าหลายชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้นโดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ภายในครัว เช่น น้ำมันพืช ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำปลา ปลากระป๋อง ผักกาดกระป๋อง โจ๊กคัพ ไข่ไก่ แม้กระทั่งถุงพลาสติกโดยเฉพาะถุงแกงขนาด 4×6 ซึ่งขึ้นจากราคาแพ็คละ 35 บาท มาเป็นราคา 45 บาท
  
ซึ่งจากราคาของสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้ร้านขายของชำได้รับผลกระทบขายของลำบาก ประกอบกับราคาของสินค้าบางชนิดในร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้ามีราคาถูกกว่าร้านขายของชำทั่วไปยิ่งทำให้ลูกค้าบางส่วนหันไปซื้อสินค้าบนห้างกันหมด ยิ่งทำให้ร้านขายของชำซึ่งถือว่าเป็นปลายทางของสินค้าก่อนถึงมือผู้บริโภคได้รับผลกระทบจนทำให้เจ้าของร้านบางรายต้องหันไปหาอาชีพเสริมเพื่อนำเงินมาดูแลครอบครัว
 
โดยนางรุ่งรัตน์ พะยอมใหม่ เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่า ตอนนี้ราคาสินค้าแพงขึ้นทุกอย่างเลย โดยเฉพาะของที่ใช้ในครัวซึ่งเป็นสินค้าที่จำเป็นทั้งซอสปรุงรส น้ำปลา ปลากระป๋อง ไข่ไก่ ซึ่งมีราคาที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นอย่างมาก ประกอบกับเศรษฐกิจแบบนี้ทำให้ตนขายของลำบากมาก สินค้าบางชนิดแทบไม่มีคนซื้อเลย ขายของยากขึ้น กำไรน้อยลง จำทำให้ตอนนี้ตนต้องไปขายของในโรงเรียนกับพี่สาวเพื่อหารายได้เสริมเพราะลำพังรายได้จากการขายของชำไม่พอที่จะใช้จ่ายในครอบครัว
 
ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมลูก จึงอยากวอนขอให้ทางรัฐบาลรีบแก้ปัญหาของแพงให้กลับมาอยู่ในราคาปกติให้เร็วที่สุดเพราะตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนจริงๆ
 

 
โบกธงดำแดง-เคลื่อนพลคาร์ม็อบ จากอนุฯ สู่สวนลุม รำลึก 12 ปี ‘เสธ.แดง’ ทหารกล้าของ ปชช.

เนื่องในวาระครบรอบ 12 ปี การเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งถูกลอบยิงที่ศีรษะในช่วงค่ำวันที่ 13 พฤษภาคม 2553 ขณะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
 
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ กลุ่มมวลชนอิสระ อาทิ กลุ่ม 14 ขุนพลของราษฎร, ทะลุแก๊ซ, ทะลุคุก, อาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมารวมตัวเพื่อทำกิจกรรมคาร์ม็อบ โดยจะเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สีลม เพื่อร่วมงานรำลึกครบรอบ 12 ปี การเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ หรือเสธ.แดง ทหารกล้าของประชาชน
 
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. เริ่มมีมวลชนทยอยเดินทางไปรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท โดยนัดหมายมวลชนรวมตัวเวลา 16.00 น. ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง กระจายกำลังและขับรถตรวจตราเป็นระยะ
 
เวลา 15.50 น. ที่เกาะพญาไท เริ่มมีผู้ทยอยเดินทางมารวมตัวมากขึ้น พร้อมถือธงสีดำ เขียนข้อความด้วยสีแดง อาทิ 14 ขุนพลของราษฎร, Kingdom of Tyrants, ภาคีประชาธิปไตยเพื่อประชาชน, ทะลุคุก ฯลฯ โดยระหว่างนี้มีผู้ขับ-ขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์มาจอดรวมตัวอย่างต่อเนื่อง
 
ชายสวมชุดลายพราง กล่าวเชิญชวนพี่น้องที่รักประชาธิปไตย ร่วมมือกันในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมรำลึกถึงเหตุการณ์อีกครั้ง
 
“อยากเชิญชวนพี่น้องเราที่ไม่ติดภารกิจ มาเจอกันแน่นอน ส่วนจากนั้นวันที่ 23 พฤษภาคม พี่น้องเราจะจัดใหญ่อีกครั้ง ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล อาจจะมีค้างคืน หรือไม่ค้าง ต้องรอประชุมอีกครั้ง ขอให้ร่วมมือร่วมใจทุกครั้งที่เราจัดภารกิจ รักและสามัคคีกันเอาไว้ อย่าให้เกิดเหตุ อย่าให้มีเรื่องกันเด็ดขาด” ชายสวมชุดลายพรางกล่าว ก่อนเริ่มตั้งขบวนในเวลา 16.00 น.
 
กระทั่งเวลา 16.22 น. เริ่มเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบมุ่งหน้าสวนลุมพินี นำโดยรถจักรยานยนต์ ทีมการ์ดผู้ดูแล ต่อด้วยรถปิกอัพ และรถยนต์ปิดท้ายขบวน ทั้งนี้ มีผู้ร่วมขบวนเป็นจำนวนมาก ประมาณกว่า 200 คน มีการเปิดเพลงและบีบแตรตลอดการเคลื่อนขบวน ส่วนมากเป็นเพลงแร็พเนื้อหาต้านเผด็จการ ทั้งนี้ เมื่อถึงห้างพาราเดียม มีผู้ร่วมชู 3 นิ้ว ให้กับขบวนคาร์ม็อบเป็นจำนวนมาก ขณะที่มวลชนส่วนหนึ่ง เดินทางไปรอที่งานรำลึก ณ MRT สีลม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเคลื่อนขบวน มีการกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง พร้อมเปิดเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อสู้ อาทิ รักคนเสื้อแดง
 
“วันนี้เสธ.แดงถูกยิงตาย 12 ปีที่แล้ว สั่งฆ่าทหารประชาชน สั่งฆ่าเสธ.แดง มันฆ่าเสธ.แดงของเรา”
 
สำหรับขบวนคาร์ม็อบ ใช้เส้นทางถนนพญาไท เริ่มจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านแยกพญาไท ก่อนเลี้ยวซ้ายที่แยกราชเทวี เข้าสู่ถนนเพชรบุรี และหยุดพักขบวน จากนั้นมุ่งหน้าผ่านแยกประตูน้ำ ขึ้นสะพานข้ามแยก เลี้ยวขวาพักรอขบวนก่อนมุ่งหน้าแยกชิดลม จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่แยกหลังสวน ขับตรงไปถึง สน.ลุมพินี ทั้งนี้ ในระหว่างที่ผ่านหน้า สน.ลุมพินี ผู้ร่วมขบวนต่างบีบแตร และเร่งเครื่องดังสนั่น จากนั้นหยุดจอดที่บริเวณถนนวิทยุ เลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่แยกสาธร และเลี้ยวขวาตรงไปยังสวนลุมพินี โดยถึงจุดหมายในเวลาประมาณ 17.02 น.
 
ขณะที่บริเวณหน้าสวนลุมพินี กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร นำโดย นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรืออาเล็ก ทำการร้องรำทำเพลงเนื้อหากล่าวถึงการต่อสู้ของคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง โดยมีนางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า ทะลุกี และคนเสื้อแดง ไปจนถึงเยาวชนกลุ่มอาชีวะ ร่วมด้วยจำนวนมาก
 
บรรยากาศเวลา 17.10 น. ที่บริเวณทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สีลม ฝั่งสวนลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มีการเตรียมอุปกรณ์ทำกิจกรรมไว้อาลัย อาทิ ป้ายข้อความ “สิบสองปีแล้วเรายังไม่ลืม” โดยจะมีการร่วมจุดเทียนรำลึก 12 ปี การเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ หรือเสธ.แดง ในช่วงค่ำวันนี้
นอกจากนี้ ในช่วงเช้ายังมีการทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับ พล.ต.ขัตติยะ บริเวณจุดที่ถูกยิงเสียชีวิตอีกด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่