ค้นพบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นจากการใช้เปลวไฟในการปรุงอาหาร กับเสน่ห์ที่ลงตัวจากการตกแต่งแบบทรอปิคอลริมทะเล ที่พร้อมจะเป็นแหล่งสังสรรค์แห่งใหม่ริมชายหาดหัวหิน
ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน รีสอร์ทหรูริมทะเล ที่เปิดให้บริการอยู่คู่หัวหินมาเป็นเวลา 31 ปี ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ ทั้งการปรับปรุงห้องพักทั้งหมด การยกระดับบริการด้านเวลเนสที่มากกว่าสปา การเปลี่ยนลุคสระว่ายน้ำและบริเวณชายหาดให้รองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่หลากหลายขึ้น รวมถึงการเปิดฟาร์มออร์แกนิค พร้อมพื้นที่เลี้ยงน้องควายเพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติ ขณะที่ “ไฮไลท์” ที่เป็นจุดเปลี่ยนของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน คือ การเปิดให้บริการห้องอาหารสุดชิคริมทะเล ‘โนมาดา’ (Nómada) ในสไตล์ Bar and Grill ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือน
ห้องอาหาร ‘โนมาดา’ ถูกปรับปรุงขึ้นใหม่ จากร้านเดิมชื่อ ริมทะเล บาร์ แอนด์ กริลล์ ซึ่งชื่อ ‘โนมาดา’ ได้มาจากคำในภาษาสเปน ที่หมายถึงชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ริมทะเลและใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหารที่หาได้ในแต่ละท้องถิ่น โดย ‘โนมาดา’ ได้รับการตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากทรอปิคอลหรือสวนเขตร้อน มีการใช้ลวดลายของชนเผ่ามาผสมสไตล์โคโลเนียลของรีสอร์ท ได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามอย่างมีสไตล์ ความสบาย และความอบอุ่น
ในส่วนของที่นั่งรับประทานอาหาร ประกอบด้วย พาวิลเลี่ยนส่วนกลางในพื้นที่กึ่งเปิดโล่งพร้อมครัวแบบเปิด ซึ่งส่วนนี้จะรองรับลูกค้าได้ประมาณ 45 ท่าน ประดับด้วยโคมไฟที่ทำด้วยหวาย พร้อมต้นไม้จัดวางอย่างละเมียดละไม และโคมระย้าที่ประดับไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ทำให้บรรยากาศร้านดูชิคและเหมาะแก่การถ่ายรูปและจัดงานสังสรรค์เป็นอย่างมาก
ขณะที่เลานจ์และชานกว้างกลางแจ้งริมชายหาด มีมุมสบายๆ ให้เลือกนั่งหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นุ่มขนาดใหญ่ หรือมุมริมชายหาดที่อยู่ใกล้กับหลุมไฟ ที่สามารถมองเห็นเชฟโชว์ศิลปะการย่างอาหารแบบดั้งเดิมได้จากจุดนี้ ซึ่งจะสร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมี บีช บาร์ ที่บริการเครื่องดื่ม เช่น คราฟต์เบียร์ ไวน์ชั้นดี น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ และค็อกเทลหลายชนิด โซนนี้ตกแต่งด้วยคาบาน่าไม้ ที่ให้บรรยากาศแบบสุดชิล เหมาะกับการดื่มค็อกเทลและทาปาส พร้อมชมวิวทะเลแบบเพลิน ๆ ขณะดื่มด่ำไปกับความงดงามยามพระอาทิตย์ตกดิน ที่จะทำให้หลงเสน่ห์โนมาดาอย่างไม่รู้ตัว
“หลังจากนี้ดุสิตธานีจะค่อยๆ สร้างสรรค์กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ “อาหาร” เพิ่มมากขึ้น เราหวังที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ชอบความแปลกใหม่ ชอบการถ่ายรูป ชอบแบ่งปันรูปภาพและเรื่องราวของอาหาร เราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับอาหารในมุมมองใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่า ห้องอาหาร ‘โนมาดา’ จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของเราได้ ทั้งจากสถานที่ ซึ่งตกแต่งได้อย่างลงตัว ทั้งจากรสชาติของอาหาร ผ่านการสร้างสรรค์ของ เชฟอังเดร โจเซฟ นเว เซอเวอริโน (Andre Josef Nweh Severino) ซึ่งเป็นเชฟชาวชิลี ที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคนิคการใช้ไฟในการปรุงอาหาร ซึ่งน่าตื่นเต้นมาก ผมหวังว่า เราจะส่งต่อประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ให้กับลูกค้าของ ‘โนมาดา’ ได้อย่างน่าประทับใจ และเชื่อว่า ‘โนมาดา’ จะไม่ใช่เป็นเพียงร้านอาหาร แต่ยังเป็นสถานที่ที่ให้ผู้คนมารวมกันเพื่อเฉลิมฉลองและเรียนรู้วัฒนธรรมอาหารต่างถิ่นที่มีความเชื่อมโยงถึงกัน” คุณแชมป์-ศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มโรงแรม ASAI กล่าว
สำหรับ เชฟอังเดร โจเซฟ นเว เซอเวอริโน เป็นเชฟชาวชิลี ที่มีความเชี่ยวชาญในเทคนิคการใช้ไฟในการปรุงอาหารตามสูตรพื้นเมืองในแถบอเมริกาใต้ ที่เน้นการคงรักษารสชาติความสด และรสสัมผัสดั้งเดิมของเนื้อสัตว์แต่ละชนิด โดยเชฟอังเดรจะเลือกใช้วัตถุดิบในพื้นถิ่นที่มีรสชาติและรสสัมผัสใกล้เคียงกับวัตถุดิบในอเมริกาใต้ ก่อนจะนำมาดัดแปลงและปรุงเป็นอาหาร ไม่ว่าจะเป็น เซวิเช่ ไปจนถึงการปิ้งย่างเนื้อสัตว์และอาหารทะเลชนิดต่าง ๆ
เชฟอังเดร มีประสบการณ์การทำอาหารมากกว่า 20 ปี เคยร่วมงานกับร้านอาหารชั้นนำหลายแห่งในเมืองซานติอาโก ประเทศชิลี เช่น ร้านอาหาร Pulmay Restaurante ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารทะเลชั้นนำในเมืองซานดิอาโก และ ร้านอาหาร Kechua ที่โด่งดังด้านอาหารจากเปรู โดยเชฟเชื่อว่า ทุกเมนูของโนมาดาจะทำให้รับรู้ถึงทุกประสาทสัมผัส ด้วยสีสัน รสชาติ กลิ่น และเสียง ที่ผสมผสานกันเพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำ
ในด้านเมนูของร้านอาหาร ‘โนมาดา’ ได้รับการดัดแปลงและปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถันจากวัตถุดิบพื้นถิ่นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นปลาเนื้อคุณภาพ
พรีเมี่ยม ผักผลไม้สดตามฤดูกาล รวมถึงผักบางชนิดที่นำมาจากฟาร์มออร์แกนิคของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ทำให้ทุกจานมีรสชาติที่มีเอกลักษณ์ และมีความคุ้มค่า โดยไฮไลท์ของเมนูเรียกน้ำย่อย ราคาเริ่มต้นเพียง 350++ บาท เช่น Fish and shrimp tiradito (ปลากะพงสด กุ้งแม่น้ำย่าง ซอสพริกเหลืองชิลี และชิลีพริกไทยซัลซ่า), Rock lobster in Chilean sauce (กั้งหินราดด้วยไวน์ขาว), Ceviche with mango (เซวิเช่เสิร์ฟพร้อมมะม่วง) และ Nómada wanton cones (โนมาดาโคน ที่มีส่วนผสมของปลาแซลมอนกับถั่วเหลืองและน้ำมันงา, กุ้งกับมายองเนสและคีนัวกรอบ และปูกับอะโวคาโด)
ส่วนเมนูจานหลัก ราคาเริ่มต้นเพียง 650++ บาท ที่รวมถึงอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ ที่ย่างด้วยเตาย่างแบบเปิด ที่ทำอย่างพิถีพิถันด้วยวิธีการย่างแบบดั้งเดิม ทำให้เพิ่มรสชาติให้ยิ่งอร่อยแบบลืมไม่ลง เมนูกริลล์ อาทิ เนื้อวัวพรีเมียม (รวมถึงแองกัสโทมาฮอว์กที่เลี้ยงด้วยธัญพืช 120 วัน ริบอายและเทนเดอร์ลอยน์ และปิกันญ่าที่ปรุงอย่างช้าๆ) และไก่ครึ่งตัว ปลากระพงแดง และปลาหมึกจากมหาสมุทรอินเดีย ล้วนเหมาะสำหรับการรับประทานร่วมกันและมีราคาที่คุ้มค่ามากๆ โดยสามารถทานคู่กับเครื่องเคียงที่มีให้เลือกหลายอย่าง ในราคาเมนูละ 220++ บาท เช่น ผักย่างที่นำมาจากฟาร์มออร์แกนิกของรีสอร์ท, ซุปข้นข้าวโพดสไตล์อเมริกาใต้ ที่ผ่านการย่างในใบตอง, มันฝรั่งบด, และเบบี้แครอทผัดกับกระเทียมกรอบ วอลนัท และซอสผักชี
เมนูของหวาน ราคา 220++ บาทต่อรายการ ประกอบด้วย พุดดิ้งช็อคโกแลตลาวากับไอศกรีมวานิลลาทานคู่ซอสเบอร์รี่ และผลไม้สดตามฤดูกาล, สับปะรดย่างและรมควันทานคู่ซอสท๊อฟฟี่และไอศกรีมมะพร้าวแบบโฮมเมด และมูสชีสเค้กเสาวรสและมะละกอ
ขณะที่ความพิเศษของเมนูค็อกเทลที่ ‘โนมาดา’ คือ ทำจากผลไม้สด สมุนไพรและพฤกษศาสตร์ ที่มีทั้งรสชาติที่สดใหม่ และกลิ่นหอมช่วยผ่อนคลาย ที่เชฟอังเดร คัดสรรเฉพาะส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเมนูค็อกเทลที่มีให้เลือกหลายหลาย ซึ่งสามารถเพลิดเพลินได้ในขณะที่ดื่มด่ำกับพระอาทิตย์ตกดินที่ชายหาด เหมาะกับการพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนฝูงในยามเย็น เมนูค็อกเทลราคาเริ่มต้นที่ 350++ บาท อาทิ 21:45 AT THE SHORE (รัม, ส้ม, กล้วยคาราเมล, โหระพา และสับปะรด), PIÑAPEÑO (เหล้าหนังสับปะรดหมัก เหล้ารัม น้ำตาลพลัม พริกฮาลาปินโญ) และ TEGRONI (เตกีล่า คัมพารี ส้มเผา เวอร์มุตหวาน) ห้องอาหาร ‘โนมาดา’ เปิดให้บริการทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ สำหรับมื้อกลางวัน เวลา 12:00 น. - 15:00 น. และมื้อเย็น เวลา 18:00 - 22:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร 03 252 0009
โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เปิดห้องอาหาร ‘โนมาดา’ สไตล์บาร์แอนด์กริลล์